Page 22 - การวิจัยเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
P. 22
2-12 การวิจัยเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
1. ความหมายการวจิ ัยส�ำ รวจเทคโนโลยีและสือ่ สารการศึกษา
การวิจัยสำ�รวจเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา เป็นเทคนิควิธีการวิจัยประเภทหนึ่งของการวิจัย
พรรณนาทีถ่ กู ใชอ้ ยา่ งกวา้ งขวางในการวจิ ยั ทีม่ ุง่ เนน้ เพือ่ หาขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื สภาพการณท์ ีเ่ ปน็ จรงิ ในประเดน็
ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั ดา้ นเทคโนโลยแี ละสือ่ สารการศกึ ษาในปจั จบุ นั โดยมกี ารก�ำ หนดขอบเขตเรือ่ งทีจ่ ะท�ำ การศกึ ษา
ขอ้ มลู ทีเ่ กบ็ รวบรวมไดน้ ัน้ สว่ นใหญเ่ ปน็ ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณสามารถวดั ออกมาในรปู ตวั เลข หรอื ความถีเ่ กีย่ วกบั
เรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยไม่มีการจัดกระทำ�ใด ๆ กับตัวแปรศึกษาและรายงานว่ามีปรากฏการณ์ใดที่เกิดขึ้นอยู่
บา้ งในสภาพการณน์ ัน้ ๆ แตป่ ระเดน็ การศกึ ษาจะมคี วามแตกตา่ งกนั ซึง่ การวจิ ยั ส�ำ รวจเทคโนโลยแี ละสือ่ สาร
การศึกษาจะมุ่งเน้นสำ�รวจใน 7 ขอบข่ายด้านเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ดังนี้ (1) เป็นส่วนหนึ่งของการ
จัดระบบและออกแบบระบบ (2) พฤติกรรม (3) วิธีการ (4) การสื่อสาร (5) สภาพแวดล้อม (6) การจัดการ
เรียนการสอน และ (7) การประเมิน ซึ่งการวิจัยสำ�รวจเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษานั้นชื่อเรื่องงานวิจัย
ไม่จำ�เป็นต้องมีคำ�ว่าการสำ�รวจนำ�หน้าเสมอไป แต่รูปแบบการวิจัยอาจมีรูปแบบการวิจัยเป็นการสำ�รวจก็ได้
โดยสรุป การวิจัยสำ�รวจเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา เป็นการวิจัยที่มุ่งเน้นเพื่อหาข้อเท็จจริง
หรือสภาพการณ์ที่เป็นจริง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในปัจจุบันใน 7
ขอบข่าย โดยมีการกำ�หนดขอบเขตเรื่องที่จะทำ�การศึกษา ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้นั้นส่วนใหญ่เป็นข้อมูล
เชิงปริมาณสามารถวัดออกมาในรูปตัวเลข หรือความถี่เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยไม่มีการจัดกระทำ�
ใด ๆ กับตัวแปรศึกษาและรายงานว่ามีปรากฏการณ์ใดที่เกิดขึ้นอยู่บ้างในสภาพการณ์นั้น ๆ
2. ลกั ษณะของการวจิ ยั สำ�รวจเทคโนโลยแี ละสือ่ สารการศกึ ษา
การวิจัยสำ�รวจเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา เป็นเทคนิควิธีการวิจัยประเภทหนึ่งของการวิจัย
พรรณนา แต่ประเด็นการศึกษาจะเน้นการวิจัยสำ�รวจใน 7 ขอบข่ายด้านเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
ได้แก่ (1) การจัดระบบและออกแบบระบบ (2) พฤติกรรม (3) วิธีการ (4) การสื่อสาร (5) สภาพแวดล้อม
(6) การจัดการเรียนรู้ และ (7) การประเมิน ซึ่งการวิจัยเชิงสำ�รวจมีลักษณะดังนี้
1) เป็นการวิจัยที่มีความเป็นระบบระเบียบแบบแผน มีการวางแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่มีความ
คลอบคลุม เหมาะสม และมีวิธีเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
2) เปน็ การวจิ ยั ทีม่ คี วามเปน็ ตวั แทนสามารถอา้ งองิ ไปยงั ประชากรได้ เนือ่ งจากสามารถเกบ็ รวบรวม
ข้อมูลได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างและประชากรได้เป็นจำ�นวนมาก
3) มีความเป็นปรนัยข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาได้ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ สามารถสังเกตและ
วัดได้อย่างชัดเจน
4) ต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกกลุ่มประชากรที่นำ�มาทำ�การวิจัย โดยควรมีการให้คำ�นิยาม
เกี่ยวกับประชากรและกำ�หนดขอบเขตประชากรไว้อย่างชัดเจน
5) ข้อมูลที่ได้มาจากการสำ�รวจนั้นง่ายต่อการลำ�เอียงในการออกแบบการวิจัย ดังนั้นผู้วิจัยควรให้
ความใส่ใจในการออกแบบงานวิจัยไม่ให้มีความลำ�เอียงเกิดขึ้น
6) ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาได้จะถูกนำ�เสนอในรูปของตัวเลขสามารถวัดค่าได้
