Page 17 - ไทยศึกษา
P. 17

แนวคิดในการศึกษาสงั คมและวฒั นธรรมไทย ๑-7

เรื่องที่ ๑.๑.๒
ปัจจัยที่ก�ำหนดลักษณะของสังคมและวัฒนธรรมโดยท่ัวไป

       จากความหมายของ “สังคม” และ “วัฒนธรรม” ทีเ่ สนอไว้วา่ เปน็ ศพั ท์วิชาการที่ก�ำหนดขึ้นเพื่อ
ความสะดวกในการพจิ ารณาปรากฏการณอ์ ยา่ งหนง่ึ ของชวี ติ มนษุ ยท์ ที่ กุ คนเคยชนิ คอื คนอยดู่ ว้ ยกนั เปน็
หมู่คณะและแยกลักษณะของกลุ่มคนแตกต่างไปจากกลุ่มอื่นด้วยแบบอย่างหรือวิถีการด�ำเนินชีวิตที่เป็น
เฉพาะของกลุ่มตน เท่ากบั สังคมต่างกนั ด้วยวัฒนธรรม หากจะพจิ ารณาตอ่ ไปกจ็ ะเห็นได้วา่ ท้ังสงั คมและ
วฒั นธรรมทมี่ สี ว่ นประกอบและเงอ่ื นไขรายละเอยี ดทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ลกั ษณะเฉพาะแตกตา่ งกนั ไปของแตล่ ะสงั คม
และวัฒนธรรม ซ่ึงในหลักการใหญ่ๆ โดยท่วั ไปที่ใช้ไดก้ บั ทกุ สงั คมและวฒั นธรรมพิจารณาได้ ดงั นี้

       ทกุ สงั คม/วฒั นธรรม ประกอบดว้ ย ๑) คนทอ่ี ยรู่ ว่ มกนั ๒) สภาพแวดลอ้ มของชวี ติ ทจี่ ะอยรู่ ว่ มกนั
และ ๓) อุปกรณ์และวธิ กี ารทีใ่ ช้ในการด�ำรงชวี ิตรว่ มกัน (ของคนกลุ่มน้ันในสภาพแวดลอ้ มนั้น)

๑. 	 คนท่ีอยู่ร่วมกัน

       คนท่ีอยู่ร่วมกันและมีการกระท�ำสัมพันธ์กันยืดเยื้อถาวรตามแบบอย่างมาตรฐานที่ยึดถือร่วมกัน
ของกลมุ่ ทำ� ใหเ้ กดิ เปน็ สภาพของ “สงั คม” นน้ั แยกวเิ คราะหพ์ จิ ารณาไดว้ า่ ๑) คนกลมุ่ นน้ั มจี ำ� นวนมากนอ้ ย
อยา่ งไร ๒) คนในจำ� นวนนน้ั แบง่ เปน็ ประเภทบคุ คลและกลมุ่ ไดเ้ ปน็ อยา่ งไร และ ๓) บคุ คลและกลมุ่ ประเภท
ตา่ งๆ นนั้ มกี ารกระทำ� และความสัมพันธ์กันตามแบบแผนมาตรฐานอย่างไร

       จำ� นวน ประเภทและความสมั พันธ์ ทงั้ ๓ อย่างน้ี มสี ว่ นกำ� หนดให้สังคมท่เี กิดจากการอยรู่ ว่ มกัน
ของคนกลุ่มน้ันมลี ักษณะเฉพาะของตัวแตกต่างไปจากสังคมอ่นื ได้

       ๑.๑ 	จ�ำนวนคนในสังคม สงั คมทมี่ จี ำ� นวนสมาชกิ เพยี งเรอื นรอ้ ยยอ่ มตอ้ งตา่ งจากสงั คมทมี่ สี มาชกิ
เปน็ เรอื นลา้ น เพราะคนจำ� นวนนอ้ ยมปี ญั หาของการอยรู่ ว่ มกนั ทจี่ ดั การควบคมุ แกไ้ ขไดง้ า่ ยกวา่ ปญั หาของ
คนทต่ี ้องอยูร่ ว่ มกนั เปน็ จ�ำนวนมาก ความต้องการบรเิ วณสถานที่อยอู่ าศยั ทรพั ยากรและปัจจัยเลี้ยงชีวติ
บรกิ ารและการคมุ้ ครองปอ้ งกนั การขดั แยง้ ผลประโยชนแ์ ละการควบคมุ ระเบยี บ ฯลฯ ยอ่ มมลี กั ษณะแตกตา่ ง
กันไปตามจำ� นวนมากน้อยของสมาชกิ ในกลุ่ม

       ตามแนวคิดน้ีจะเหน็ ไดว้ า่ โรคระบาดหรอื ทพุ ภกิ ขภัย* ท่ีท�ำให้ผู้คนลม้ ตายจ�ำนวนมาก เปน็ การ
ลดจ�ำนวนทางธรรมชาติ ส่วนการสงครามที่ท�ำลายล้างชีวิตประชาชนเป็นการลดจ�ำนวนด้วยเจตนาของ
บคุ คลและกลมุ่ แตจ่ ะดว้ ยวธิ ใี ดกต็ าม การเพมิ่ หรอื ลดจำ� นวนประชากรทเี่ ปน็ สมาชกิ ของสงั คมยอ่ มมผี ลตอ่
ลกั ษณะของสงั คมทง้ั สน้ิ เพราะจำ� นวนทเี่ พมิ่ ขน้ึ หมายถงึ ความจำ� เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งใชท้ รพั ยากรในการเลยี้ งชวี ติ
ที่มากขึ้น ซึ่งอาจใช้บริเวณท่ีอยู่อาศัยและท�ำกินเพิ่มข้ึน หรือหาวิธีการเล้ียงชีวิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
และจำ� นวนทเี่ พม่ิ ขนึ้ อาจหมายถงึ พลงั หรอื แสนยานภุ าพของสงั คมนนั้ ทจี่ ะขยายอาณาบรเิ วณ รกุ รานผอู้ นื่

         * ภยั อนั เกิดจากขา้ วยากหมากแพง หรือการขาดแคลนอาหารในเมือง
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22