Page 19 - ไทยศึกษา
P. 19
แนวคดิ ในการศกึ ษาสงั คมและวฒั นธรรมไทย ๑-9
สติปัญญาเฉลียวฉลาด ฯลฯ ฉะน้ัน สังคมทหารย่อมต้องการสมาชิกที่มีความกล้าหาญและฝีมือการสู้รบ
สงั คมบรรพชติ ยอ่ มตอ้ งการสมาชกิ ทใี่ ฝพ่ รหมจรรยม์ ากกวา่ ผมู้ คี ณุ สมบตั อิ ยา่ งอน่ื ถงึ แมจ้ ะดวี เิ ศษเพยี งใด
กต็ าม
คณุ สมบตั ขิ น้ั พนื้ ฐานของสมาชกิ ไดแ้ ก่ ความสมประกอบเปน็ ปกตขิ องรา่ งกาย อวยั วะไมพ่ กิ ลพกิ าร
ถัดมาคือ สุขภาพท่ีสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยและมีสติปัญญาท่ีเฉลียวฉลาด สมเพศและวัย พ้นจากน้ัน
จึงเป็นคุณสมบัติเฉพาะตามลักษณะของหน้าท่ีการงานท่ีคาดหมายจากสมาชิกแต่ละประเภทแต่ละคน
สดุ แท้แต่ความตอ้ งการพเิ ศษของสังคมน้นั ๆ
ประเภทและคณุ สมบตั ขิ องสมาชกิ จงึ มสี ว่ นกำ� หนดลกั ษณะของสงั คมแตล่ ะสงั คมใหแ้ ตกตา่ งกนั ได้
การใหส้ มาชกิ มคี ณุ สมบตั ติ รงตามความประสงคข์ องสงั คมนน้ั ยอ่ มมวี ธิ กี ารตา่ งกนั ไปตามชนดิ และประเภท
ของสมาชกิ เชน่ ถา้ เปน็ สมาชกิ ทเี่ กดิ ใหมท่ างธรรมชาตชิ วี ภาพ สงั คมตอ้ งสรา้ งคณุ สมบตั ดิ ว้ ยวธิ กี ารศกึ ษา
อบรม และคัดเลือกคนด้วยเกณฑ์มาตรฐานที่ต้ังขึ้นและยอมรับกัน กับส่งเสริมให้รักษาหรือเพ่ิมพูน
คณุ สมบตั ดิ ว้ ยระบบการใหร้ างวลั ผมู้ แี ละลงโทษผบู้ กพรอ่ ง ฯลฯ ถา้ เปน็ สมาชกิ ทป่ี ระกาศรบั สมคั รเขา้ มาใหม่
ได้จากคนนอกกลมุ่ ก็อาจใชว้ ธิ ลี ่อใจดว้ ยค่าจ้างและผลตอบแทนแก่ผู้ทม่ี คี ณุ สมบัติตรงกับทสี่ ังคมตอ้ งการ
หรอื ใชว้ ิธซี ื้อหาจับกมุ มา เช่น ทาสหรอื เชลย หรือผถู้ กู เกณฑม์ าดว้ ยอำ� นาจบังคบั
๑.๓ การกระทำ� และความสมั พนั ธข์ องคนในกลมุ่ คนอยรู่ ว่ มกนั เปน็ สงั คมเพราะตา่ งมกี ารกระท�ำ
สัมพันธเ์ ก่ียวขอ้ งเสนอสนองประโยชนก์ นั เพราะฉะน้นั จงึ ตอ้ งพิจารณาตอ่ ไปว่า คนจ�ำนวนหนงึ่ ท่ีจำ� แนก
เปน็ ประเภทไดต้ า่ งๆ กนั เชน่ เปน็ หญงิ เปน็ ชาย เปน็ ผใู้ หญ่ เปน็ เดก็ เปน็ พอ่ คา้ เปน็ ทหาร เปน็ ขา้ ราชการ
เปน็ ประชาชน เป็นพระ เป็นครู ฯลฯ เหล่านัน้ มีการกระท�ำและความสมั พันธ์กันอยา่ งไร
ปกตบิ คุ คลในสงั คมตา่ งกก็ ระทำ� การตามใจตนเองไดป้ ระโยชนต์ ามทต่ี นพอใจใหม้ ากทส่ี ดุ แตป่ ระโยชน์
นน้ั ตอ้ งเกย่ี วขอ้ งกบั การกระทำ� และประโยชนข์ องผอู้ นื่ ทตี่ นอยรู่ ว่ มดว้ ย สงั คมจงึ ตอ้ งมกี ฎเกณฑบ์ รรทดั ฐาน
เป็นแนวทางให้บคุ คลยดึ ถือในการกระท�ำระหว่างกัน ซงึ่ ปรากฏเป็นสทิ ธหิ นา้ ท่ีตามแตล่ ะประเภททบ่ี คุ คล
เปน็ อยใู่ นการกระทำ� สมั พนั ธก์ บั ผอู้ นื่ บคุ คลทด่ี เู หมอื นวา่ มชี อื่ เปน็ ประเภทเดยี วกนั ในตา่ งสงั คม เชน่ หญงิ
และชาย ภรรยาและสามี นายจ้างและลูกจ้าง ฯลฯ อาจมีสิทธิหน้าที่ต่อกันตามบรรทัดฐานท่ีแต่ละสังคม
กำ� หนดไวไ้ มเ่ หมอื นกนั การกระทำ� และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งหญงิ กบั ชายในสงั คมยโุ รปตะวนั ตก จงึ ไมเ่ หมอื น
ในสงั คมเอเชยี ตะวนั ออก เปน็ ตน้ ลกั ษณะความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเภทตา่ งๆ ของบคุ คลจงึ มสี ว่ นกำ� หนด
ลกั ษณะของสังคมใหต้ า่ งกนั ไปได้ ทง้ั ๆ ท่ีจำ� นวนและประเภทของสมาชกิ ในสองสังคมน้นั อาจทดั เทียมกัน
การกระท�ำและความสัมพันธ์ของคนที่อยู่ร่วมกันในสังคมน้ัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากความต้องการ
หรือความจ�ำเป็นของแตล่ ะคนก็ตาม ต้องเป็นไปตามประเภทของบุคคลท่ีเปน็ อยู่ในขณะท่มี กี ารกระทำ� ต่อ
กนั นน้ั เนอ่ื งจากคนทกุ คนมกี ารกระทำ� ของชวี ติ เกยี่ วขอ้ งกบั ผอู้ น่ื ตลอดเวลาตงั้ แตเ่ กดิ จนตาย เชน่ เมอ่ื เลก็
เปน็ ลกู มกี ารกระทำ� กบั เพอ่ื น กบั ครู กบั เพอื่ นบา้ น หรอื กบั คนทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานอาชพี หรอื กบั คนทม่ี หี นา้ ท่ี
บริหารปกครอง หรือกับผู้ท่ีให้บริการบันเทิงพักผ่อนหย่อนใจ หรือกับผู้ท่ีมีหน้าที่ท�ำพิธีกรรมทางศาสนา
ฯลฯ การกระท�ำกับบุคคลประเภทต่างๆ นี้ ย่อมมีกฎเกณฑ์บรรทัดฐานท่ีหมู่คณะก�ำหนดไว้เป็นแนวทาง
ควบคมุ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ อ่ กนั ทเี่ หน็ วา่ เหมาะสม สำ� หรบั แตล่ ะประเภทของบคุ คลทม่ี กี จิ ธรุ ะตอ้ งกระทำ�