Page 22 - ไทยศึกษา
P. 22

๑-12 ไทยศึกษา
       มนษุ ยท์ อ่ี ยรู่ ว่ มกนั เปน็ สงั คม ยอ่ มมคี วามตอ้ งการใชส้ ถานทแี่ ละทรพั ยากรอำ� นวยประโยชนใ์ หช้ วี ติ

ของหมู่คนจ�ำนวนมากผิดไปจากความต้องการจ�ำเป็นของมนุษย์ท่ีเป็นคนคนเดียว บริเวณที่อยู่อาศัยของ
ชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์และข้อจ�ำกัดท่ีแตกต่างกันได้ในภูมิภาคที่แตกต่างกันของโลก ท�ำให้สังคมที่
ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนั้น มีลักษณะบางส่วนเป็นไปตามอิทธิพลของสภาพภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ ฯลฯ
คือ บรเิ วณสถานที่ตงั้ ของสงั คมด้วย

       ๒.๒ 	เวลา เป็นเง่ือนไขส่วนหน่ึงของการด�ำรงอยู่ของวัตถุซึ่งพิจารณาได้ในท�ำนองเดียวกันกับ
สถานที่ วา่ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ สภาวะของสง่ิ นนั้ ได้ เนอ่ื งจากสรรพสงิ่ ในโลกนอ้ี าศยั สถานทข่ี องโลก จงึ ตอ้ งใชเ้ วลา
ของโลกนี้ดว้ ย

       โลกท่ีเป็นดาวพระเคราะห์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะจักรวาลน้ี มีเวลาซ่ึงก�ำหนดตามการหมุนรอบ
ตัวเองของโลกเปน็ วันและคืน กบั ตามการหมนุ ของโลกรอบดวงอาทิตยเ์ ปน็ ฤดูกาลในช่วงปี

       เวลาทเี่ รยี กวา่ เปน็ “วนั ” คอื ชว่ งเวลาทบี่ รเิ วณของโลกไดร้ บั แสงสวา่ งและความรอ้ นจากดวงอาทติ ย์
“คนื ” คอื ชว่ งทไ่ี มม่ แี สงสวา่ งและความรอ้ นตรงจากดวงอาทติ ย์ วนั กบั คนื จงึ มคี วามแตกตา่ งของอณุ หภมู ิ
และแสง ซ่งึ มีผลตอ่ วตั ถกุ ายภาพทไ่ี รช้ ีวิต เชน่ การหดตวั ขยายตวั และมผี ลต่ออนิ ทรียม์ ีชีวิต เช่น โอกาส
หาอาหารและการเคลอ่ื นไหวของสตั ว์ การสงั เคราะหแ์ สงปรงุ อาหารของพชื ฯลฯ ในตอนกลางวนั และการ
พักผ่อนของร่างกายอวัยวะในตอนกลางคืน (หรือกลบั กนั ในชีวิตบางประเภท)

       ส่วนความแตกตา่ งของฤดกู าลเปน็ รอ้ นหรือหนาว ฝนหรือแล้ง ก็มผี ลตอ่ การเตบิ โตหรอื ชะงกั งัน
ของวัฏจักรหรือวงจรชีวิต ที่พ่ึงพาอาศัยกันตามความอุดมสมบูรณ์หรือขาดแคลนของอาหาร อุณหภูมิ
แสงสวา่ ง ฯลฯ ทมี่ ากนอ้ ยตามฤดกู าล รวมทง้ั จงั หวะเวลาและเงอ่ื นไขทเ่ี หมาะสมกบั การสบื พนั ธ์ุ รวมกลมุ่
หรือแยกย้ายอพยพของสิ่งท่ีมีชวี ติ ประเภทตา่ งๆ ในธรรมชาติด้วย

       เวลาหรือฤดูกาลมีผลต่อต่อชีวิตของมนุษย์ ในส่วนที่เป็นบุคคลและส่วนที่เป็นสังคมได้เช่นกัน
นอกจากอทิ ธพิ ลของชว่ งเวลาทเี่ ปน็ วนั เดอื น ปี และฤดกู าลทมี่ ตี อ่ กจิ กรรมการดำ� รงอยแู่ ละเตบิ โตของชวี ติ
ของบคุ คลในฐานะทเ่ี ปน็ อนิ ทรยี ช์ นดิ หนงึ่ แลว้ ชวี ติ ของสงั คมทมี่ กี จิ กรรมและความเคลอ่ื นไหวตามชว่ งเวลา
ทเ่ี ปน็ วนั เดอื น ปี และฤดกู าลดว้ ย ทำ� ใหเ้ กดิ เทศกาลและธรรมเนยี มประเพณใี นรอบปขี องชมุ ชนทสี่ อดคลอ้ ง
กบั ฤดกู าล และงานทมี่ นษุ ยต์ อ้ งทำ� ตามเงอื่ นไขและขอ้ จำ� กดั ของระยะเวลาและฤดกู าลของชว่ งวนั หรือช่วงปี
เปน็ ตน้ ในแตล่ ะชมุ ชนหรอื สงั คมทอ่ี ยใู่ นภมู ภิ าคทตี่ า่ งกนั ของโลก ซง่ึ มคี วามสน้ั ยาวของวนั คนื ตา่ งกนั และ
มีฤดูกาลรอ้ นหนาวทต่ี า่ งกนั กม็ ีกิจกรรมการงานและเทศกาล ประเพณขี องชมุ ชนไมเ่ หมือนกนั

       นอกจากนน้ั เวลาทย่ี าวนานเกนิ วนั คนื และฤดกู าลภายในรอบปี กม็ คี วามหมายตอ่ ชวี ติ ความเปน็ อยู่
และลักษณะของชุมชนที่ซับซ้อนขึ้นอีกได้ เช่น เม่ือเปรียบอายุขัยของคนต้ังแต่เกิดจนตาย ว่ากินเวลา
นานกวา่ ช่วงรอบปเี ดยี ว แต่เป็นเวลาหลายสิบปี ท�ำใหแ้ บ่งวัยของคนไดเ้ ป็นวยั ทารก วยั เดก็ วยั หนมุ่ สาว
วยั ฉกรรจ์ วยั ผคู้ รองเรอื น วยั กลางคน และวยั ชรา สำ� หรบั ชวี ติ ของบคุ คลทเี่ รม่ิ ตน้ เมอ่ื เกดิ และจบลงเมอ่ื ตาย
แต่ละวัยนั้นกินเวลาหลายปี และมีกิจกรรมท่ีท�ำให้ลักษณะของชีวิตแต่ละช่วงไม่เหมือนกัน และถ้า
เปน็ กิจกรรมทเ่ี กิดเปน็ เฉพาะของชีวติ แต่ละวัน ก็จะท�ำใหไ้ มม่ ลี ักษณะเหมือนกนั ไดใ้ นตา่ งคน ถงึ แมจ้ ะอยู่
ในวยั เดยี วกนั
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27