Page 43 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 43

วรรณกรรมท้องถ่นิ ของกล่มุ ชาติพนั ธใุ์ นประเทศไทย 12-33

ทำ� อาหารไวม้ ากมาย เปาะเนเดนิ ทางไปหาแขกประเภทธรรมะธมั โมกไ็ มพ่ บผใู้ ดเลยสกั คนเดยี ว จนกระทง่ั
มาพบกับแพะตัวหน่ึงซึ่งมีเคราใต้คางยาวมาก จึงเดินเข้าไปหาแล้วบอกเชิญไปกินบุญท่ีบ้าน แพะก็ร้อง
แบ๊ะ แบ๊ะ ออกเสียงคลา้ ย ภาษามลายวู า่ ลอื แมะ ลือแมะ (แปลวา่ แฉะ) เปาะเนกต็ อบว่า ไมห่ รอกข้าว
ไมแ่ ฉะ รบั รองได้ แพะกย็ นื เฉยๆ เปาะเนจงึ เดินผ่านไป ไปพบนกกระจบิ หัวขาว เปาะเนก็ออกปากเชิญ
ไปกินบุญที่บ้านอีกนกกระจิบร้อง จิ๊บ จ๊ิบ แล้วก็บินไป เปาะเนยืนหัวเสีย แล้วบ่นว่า “มันหาว่าข้าวนิด
เดียวทจี่ รงิ ข้าวของเรามีมากมาย” เสยี งนกรอ้ งว่า จบ๊ิ จ๊บิ ฟังคลา้ ยเสยี งมลายวู ่า ซกิ ิ ซิกิ (แปลวา่ นิด
เดยี ว)

       เปาะเนจึงกลับบ้านไปเล่าเร่ืองราวท้ังหมดให้ภรรยาฟัง เมาะเนฟังแล้วก็คิดในใจว่าเห็นท่ีจะไม่
ได้การแลว้ จงึ ต้องออกไปเชิญแขกเองจึงฝากใหเ้ ปาะเนอยู่เฝา้ บ้านและดแู ลอาหารทเ่ี ตรียมไว้เลีย้ งแขกซง่ึ
จัดไว้เสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ พาเมาะเนออกจากบา้ นไปแล้ว เปาะเนมานงั่ คิด ว่าอันอาหารน้นั กม็ อี ยมู่ ากมาย
นา่ เสยี ดายทจี่ ะตอ้ งหมดสนิ้ ไปเพราะเลยี้ งแขก อยา่ กระนนั้ เลยเรากนิ เสยี เองจะดกี วา่ เปน็ แนแ่ ท้ วา่ แลว้ จงึ
จัดการกินอาหารทมี่ ที ุกอย่าง กนิ เข้าไป กนิ เขา้ ไป จนสดุ ท้ายก็ขแี้ ตกอยูต่ รงนน้ั เปาะเนนึกหมัน่ ไสแ้ ขกที่
ตนเอง ไปเชิญในตอนแรกจึงคิด จะแก้เผ็ด เขาก็หาผ้าผืนเก่าๆ เอามาห่ออุจาระของตนแล้วไปแขวนไว้
เหนือประตูปล่อยใหช้ ายผา้ หอ้ ยลงมา แลว้ ตนเองก็ไปแอบซอ่ นตัว ไม่ให้ผู้ใดเห็น

       เมาะเนกลับมาบ้านพร้อมด้วยแขกรับเชิญ ก็ไม่เห็นเปาะเนอยู่บ้าน จึงเชิญแขกเข้าบ้านแขก
คนหนง่ึ เหน็ ชายผา้ หอ้ ยอยตู่ รงประตู กด็ งึ ชายผา้ นน้ั ลง ผา้ หอ่ อจุ จาระของเปาะเนกต็ กแผละลงมา อจุ จาระ
กระจายส่งกลนิ่ เหม็นคล้งุ จึงกลายเปน็ บอ่ นแตกไปในที่สดุ

       ตัวอย่างเพลงกล่อมเด็กไทยมลายูภาคใต้ ชาวไทยมุสลิมก็มีเพลงกล่อมเด็กไว้ส�ำหรับกล่อมลูก
เหมือนชาวไทยในภาคอื่นๆ และมีสภาพเหมือนชาวไทยในภาคอ่ืนท่ีไม่นิยมร้องเพลงกล่อมลูกแล้ว ด้วย
เหตุผลท่ีว่าบทบาทของแม่ในปัจจุบันต่างกับบทบาทของแม่ในสมัยก่อน เพราะสังคมและเศรษฐกิจบังคับ
แม่ในสมัยในปัจจุบันต้องไปท�ำงานนอกบ้านเหมือนผู้ชายเพ่ือหารายได้มาช่วยจุนเจือครอบครัว จึงท�ำให้
เพลงกล่อมเด็กเล่ือนหายไปเร็วข้ึนจนหาคนท่ีร้องเพลงกล่อมเด็กได้น้อยลงทุกที (มัลลิกา คณานุรักษ์,
2524)

กาเตาะ โอ กาเตาะ 	      บะปอ มุง ปาเง อูเฌ
ซาเบะ อากู ปาเง อูเฌ 	  อูลา เนาะ มาแก อากู
อูลา โอ อูลา 	          บะปอ มุง มาแก กาเตาะ
ซาเบะ อากู เนาะ มาแก 	  กาเตาะ มาแก แน อากู
ค�ำแปล                  ท�ำไมจึงรอ้ งเรยี กฝน
กบเอย๋ กบ 	             เพราะงรู อ้ นรนจะมากนิ ข้า
ทข่ี ้าร้องเรยี กฝน 	   ท�ำไมจึงคิดกนิ กบปา่
งเู อย๋ งู 	            ก็เพราะว่าเป็นอาหารข้าเอย
ท่ีขา้ จะกนิ กบปา่
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48