Page 49 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 49

สนุ ทรยี ศาสตร์ของภาพยนตร์ 1-39

ความน�ำ

       การศึกษาถึงวิวัฒนาการของสุนทรียศาสตร์ทางภาพยนตร์ไม่สามารถท่ีจะมองข้ามเร่ืองของ
เทคโนโลยไี ปได้ ทง้ั นเี้ พราะภาพยนตรใ์ นยคุ แรกเรมิ่ นนั้ มไิ ดถ้ อื ก�ำเนดิ ขนึ้ มาในฐานะของงานศลิ ปะบรสิ ทุ ธิ์
แต่ก�ำเนิดขึ้นมาในฐานะของเคร่ืองจักรท่ีถูกประดิษฐ์ข้ึนเพื่อสร้างภาพท่ีเคลื่อนไหวได้ ดังน้ัน ค�ำว่า
“ภาพยนตร์” จงึ มคี วามหมายสองนยั ที่บง่ บอกถงึ ทงั้ ความเป็นศิลปะและความเปน็ เทคโนโลยอี ยูใ่ นตวั เอง

       จึงอาจกล่าวได้ว่าภาพยนตร์คือศิลปะท่ีมีรูปแบบเป็นเทคโนโลยีมากที่สุด อันเป็นผลลัพธ์มาจาก
การผสมผสานระหวา่ ง 2 สาขาวชิ า คอื วทิ ยาศาสตร์ (เคมี ฟสิ กิ ส์ วศิ วกรรม จกั ษกุ รรม) และมนษุ ยศาสตร์
(การเขยี น ศิลปกรรม ถา่ ยภาพ การละคร) เขา้ ด้วยกัน โดยมเี คร่อื งจกั ร (กลอ้ ง เครอ่ื งบันทกึ เสยี ง เครอ่ื ง
ตัดต่อ เครื่องฉาย) เป็นส่ือกลางระหว่างภาพยนตร์กับผู้ชม จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีคือรากฐานส�ำคัญที่
จำ� เปน็ ตอ้ งนำ� มาพจิ ารณารว่ มดว้ ยเสมอเมอื่ มกี ารศกึ ษาเกยี่ วกบั ภาพยนตร์ ไมว่ า่ จะเปน็ ในเชงิ ประวตั ศิ าสตร์
หรือวัฒนธรรมกต็ าม

       พัฒนาการทางเทคโนโลยีของภาพยนตร์มักเกิดขึ้นด้วยจุดประสงค์เพื่อสร้างภาพลวงตาและ
มนตข์ ลงั ดงั เชน่ ภาพยนตรใ์ นยคุ แรกทจ่ี อรจ์ เมลเิ อสอ์ อกแบบกลอ้ งชนดิ พเิ ศษทส่ี ามารถหมนุ ฟลิ ม์ กลบั ได้ เพอ่ื
ใหไ้ ดภ้ าพทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการถา่ ยซอ้ นทบั กนั หลายครง้ั จนกลายเปน็ ภาพทส่ี วยนา่ อศั จรรยอ์ นั เปน็ เอกลกั ษณ์
ของเมลิเอส์ในสมัยน้ัน แต่อย่างไรก็ดี การสร้างภาพท่ีสวยงามน่าอัศจรรย์เหล่านี้ก็เพ่ือสร้างสุนทรียภาพ
แห่งความสมจรงิ (aesthetics of realism) อนั หมายถึงการสร้างโลกจ�ำลองในภาพยนตรใ์ หด้ ูนา่ เชอ่ื มาก
ทส่ี ดุ ทง้ั ๆ ทใ่ี นโลกของความเปน็ จรงิ นน้ั อาจไมม่ อี ยจู่ รงิ หรอื ไมอ่ าจเปน็ จรงิ ไปได้ ในแงน่ ี้ สนุ ทรยี ภาพแหง่
ความสมจริง จงึ เป็นแนวคดิ หนึ่งทีค่ รอบง�ำประวัตศิ าสตรข์ องเทคโนโลยที างภาพยนตรม์ าโดยตลอด

       นวัตกรรมทางเทคโนโลยีหลักๆ จึงมุ่งท�ำให้การชมภาพยนตร์นั้นเป็นประสบการณ์ที่ใกล้เคียง
“ความจรงิ ” มากที่สุด พัฒนาการทางเทคโนโลยแี ต่ละดา้ นลว้ นเคยถกู มองวา่ เกิดขน้ึ มาเพอ่ื กลบเกลอ่ื น
หรือปกปิดช่องโหว่ระหวา่ งโลกจ�ำลองบนจอภาพยนตร์กับเทคนิคการน�ำเสนอต่างๆ ของภาพยนตร์ และ
เพอ่ื ทำ� ใหผ้ ชู้ มรสู้ กึ เหมอื นกบั วา่ กำ� ลงั ไดส้ มั ผสั กบั โลกของความจรงิ มากทส่ี ดุ ยกตวั อยา่ งเชน่ การถา่ ยภาพ
แบบชดั ลกึ (deep-focus photography) พฒั นาขนึ้ มาเพอื่ ใหเ้ หน็ ภาพทมี่ มี ติ ใิ กลเ้ คยี งสายตามนษุ ย์ หรอื
ภาพยนตร์จอกว้าง (cinemascope) ก็เพื่อลดข้อจ�ำกัดของกรอบจอภาพยนตร์ขนาดดั้งเดิม เน่ืองจาก
สายตามนุษย์มักจะมองเห็นภาพในทางกว้าง (panoramic view) มากกว่าทางสูง ขณะท่ีภาพยนตร์สี
ก็ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับโลกที่แท้จริงมากกว่าภาพยนตร์ขาว-ด�ำ และเสียงในระบบสเตอริโอก็มีความ
สมจริงกว่า เน่ืองจากในความเป็นจริงนั้นหูของมนุษย์ได้ยินเสียงต่างๆ ในระบบสเตริโอ (stereo) ไม่ใช่
ระบบโมโน (mono)

       ซง่ึ เทคโนโลยที างภาพยนตรท์ พ่ี ฒั นาขน้ึ เพอ่ื สรา้ งสนุ ทรยี ภาพแหง่ ความสมจรงิ ใหก้ บั ภาพยนตรน์ ี้
กเ็ ปน็ แนวคดิ ทยี่ งั ดำ� เนนิ มาจนถงึ ปจั จบุ นั เชน่ การใชส้ เปเชย่ี ลเอฟเฟก (special effects) หรอื คอมพวิ เตอร์
กราฟกิ (computer graphics) ต่างๆ เขา้ ชว่ ยในการสรา้ งภาพยนตร์
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54