Page 42 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 42

2-32 ทฤษฎแี ละการวิจารณภ์ าพยนตร์
สนใจเร่ืองความรักโรแมนติก และวิสคอนติเข้าไปส�ำรวจเรื่องราวของชีวิตคนช้ันสูงเหล่านี้ เป็นต้น แต่ถึง
อย่างไรก็ตาม แนวการสร้างภาพยนตร์ของกลุ่มสัจนิยมใหม่ในอิตาลีได้มีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้ก�ำกับ
ภาพยนตร์ท่ัวโลก จนท�ำให้มีการสร้างภาพยนตร์แนวนี้แพร่หลายไปในหลายประเทศเร่ือยมา นับแต่มี
อิทธิพลต่อกลุ่มผู้ก�ำกับคลื่นลูกใหม่ของฝร่ังเศส (The French New Wave) ท่ีก่อตัวข้ึนในระยะเวลาถัด
มา จนมาถึงงานของผู้ก�ำกับชาวอังกฤษ โทนี่ ริชาร์ดสัน (Tony Richardson) ผู้ก�ำกับชาวอเมริกัน อีเลีย
คาซาน (Elia Kazan ที่สร้าง On the Water Front (1954) ผู้ก�ำกับชาวอินเดีย สัตยาจิต เรย์ (Satyajit
Ray ที่สร้าง Apu Trilogy (1955-1959) และผู้ก�ำกับของไทย มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้สร้าง ทองพูน
โคกโพธิ์ ราษฎรเต็มข้ัน (2520)

ภาพยนตร์ของกลุ่มคล่ืนลูกใหม่ของฝร่ังเศส

       ปลายทศวรรษ 1950 ต่อต้นทศวรรษ 1960 ได้เกิดกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่ๆ ขึ้นในหลาย
ประเทศท้งั ในญ่ีปนุ่ แคนาดา อังกฤษ อติ าลี สเปน บราซิล และสหรัฐอเมรกิ า ซ่งึ ถอื เปน็ กลมุ่ คล่ืนลูกใหม่
(new wave หรอื young cinema) ท่ีลว้ นต่อตา้ นภาพยนตรร์ ุ่นเกา่ กอ่ น แต่กลุ่มท่ีมีอิทธิพลมากที่สุดต่อ
วงการภาพยนตร์ของโลกเป็นกลุ่มคลื่นลูกใหม่ของฝรั่งเศส (The French New Wave)

       กลมุ่ คลืน่ ลกู ใหมข่ องฝรงั่ เศสนี้ เปน็ กลุ่มนักวิจารณ์หนุ่ม ๆ ของวารสารภาพยนตร์การ์เยรส์ ดูซี
เนมา (Cahiers du Cinema) ซึ่งมีอังเดร บาแซง (Andre Bazin) นักทฤษฎีภาพยนตร์แนวสัจนิยมเป็น
บรรณาธิการน่ันเอง นกั วิจารณ์กล่มุ นป้ี ระกอบดว้ ย ฟรังซัวส์ ทรุฟโฟต์ (Franzois Truffaut) ฌอง ลุค
โกดาร์ (Jean-Luc Godard) โคล้ด ชาโบร์ล (Claude Chabrol) อแลง แรสเนส์ (Alain Resnais) และ
ฌาคส์ ริแวตต์ (Jacques Rivette) ฯลฯ พวกเขาไม่พอใจกับภาพยนตร์ทส่ี รา้ งกันเรื่อยมานบั แต่กอ่ นเกิด
สงครามที่มีพล็อตเร่ืองมาก ตกแต่งประดับประดาฉากกันหรูหรา และแสดงกันอย่างละครท�ำให้ดูไม่เป็น
ธรรมชาติและไมม่ ีความเป็นงานศลิ ปะ ผู้สร้างภาพยนตร์หลายคนถกู ลุ่มนี้เขียนวจิ ารณ์อยา่ งรุนแรงว่าไมร่ ู้
วธิ ีการสรา้ งภาพยนตร์ เคล่ือนไหวกลอ้ งไดแ้ ย่มาก

       นกั วจิ ารณก์ ลมุ่ นมี้ คี วามเชอ่ื ตามทฤษฎขี ององั เดร บาแซง ทกี่ ลา่ วถงึ ความสำ� คญั ของภาพยนตร์
ในฐานะที่เป็นเคร่ืองมือส�ำรวจและบันทึกโลกตามความเป็นจริง โดยไม่มีการปรุงแต่งจากผู้สร้าง
ภาพยนตร์ พวกเขายังเห็นด้วยกับบทความ la camera-stylo หรือ camera-pen ของอเล็กซองเดร
อะอัสทรุค (Alexandre Astruc) ท่ีให้แนวคิดส�ำคัญว่าผู้สร้างภาพยนตร์ควรใช้ภาพยนตร์เป็นเคร่ืองมือ
แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาเหมือนดังท่ีนักประพันธ์กระท�ำ ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องใช้กล้อง
ภาพยนตร์ในการแสดงออกเช่นเดียวกับที่นักประพันธ์ใช้ปากกา ท้ังได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของ
ผู้ก�ำกับเด่นๆ ในยคุ ก่อน เช่น เรอเน่ แคร์ (Rene Clair) ฌอง วิโก (Jean Vigo) ฌอง เรอนัวร์ (Jean
Renoir) ตลอดจนผู้ก�ำกับอเมริกันอย่างอัลเฟรด ฮิทช์ค้อค (Alfred Hitchcock) ออตโต พรีมินเกอร์
(Otto Preminger) โฮเวิรด์ ฮอกส์ (Howard Hawks) ซามูเอล ฟลู เลอร์ (Samuel Fuller) แวงซอง
มนิ เนลลี (Vincente Minnelli) และนโิ คลาส เรย์ (Niclolas Ray) ซงึ่ ผู้กำ� กับเหลา่ น้ีไมไ่ ด้เป็นเพียงคน
ท�ำงานภาพยนตร์เท่าน้ัน แต่ยังได้ประทับความเป็นตัวตนของเขาลงในภาพยนตร์ด้วยเหมือนเช่น
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47