Page 35 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 35
ทฤษฎภี าพยนตร์แนวรูปแบบนิยม 1 3-25
ผู้ชมเพียงแต่น่ังดูภาพท่ีปะติดปะต่อเหล่าน้ันเฉยๆ (passive) โดยไม่มีโอกาสเป็นคนเลือกและประเมิน
รายละเอียดที่เกี่ยวข้องด้วยตัวของเขาเอง (Giannetti, 1976, pp. 149-154)
พดู อฟกนิ กลา่ วอา้ งวา่ วตั ถทุ กุ อยา่ งทเี่ คลอื่ นไหวอยหู่ นา้ กลอ้ งเปน็ วตั ถทุ ไี่ รว้ ญิ ญาณ (dead object)
เพราะการเคลอื่ นไหวเบอื้ งหนา้ กลอ้ งไมใ่ ชก่ ารเคลอื่ นไหวหนา้ จอภาพยนตร์ แตเ่ ปน็ เพยี งขอ้ มลู ดบิ สำ� หรบั
การสรา้ งการเคลอื่ นไหวจรงิ ในอนาคต ซง่ึ จะไดจ้ ากการรวบรวมชนิ้ ฟลิ ม์ ตา่ งๆ กนั การเคลอื่ นไหวทสี่ ำ� คญั
ไม่ได้เกิดต่อหน้ากล้องแต่เกิดจากการจัดการให้ช็อตหน่ึงเคลื่อนเข้ามาในจอภาพยนตร์ขณะท่ีอีกช็อตหนึ่ง
เคล่ือนออกไป ไม่ใช่เพียงเป็นภาพของวัตถุหน่ึงที่สัมพันธ์กับวัตถุอื่น หรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มภาพที่
แตกต่างกนั เทา่ นนั้ แตต่ ้องให้ความหมายทางภาพยนตร์ด้วย การตัดต่อเป็นพลังสร้างสรรค์พ้ืนฐานท่ีมี
อ�ำนาจจัดการให้ภาพถ่ายอันไร้วิญญาณมีชีวิตชีวาขึ้นในรูปแบบของภาพยนตร์ พูดอฟกินพยายามใช้วิธี
การตัดต่อท�ำให้ผู้ชมเกิดความสะเทือนใจโดยไม่ใช้การแสดงออกของตัวละคร ตัวอย่างน้ีเห็นได้จาก
ภาพยนตร์เร่ือง Mother ของเขาในฉากที่แม่มาเย่ียมลูกชายในคุกแล้วแอบยัดเศษกระดาษโน้ตใส่มือเขา
ก่อนกลับ กระดาษน้ันมขี ้อความวา่ พรงุ่ นี้เขาจะเป็นอิสระแล้ว ความรสู้ กึ ดใี จของตวั ละครถกู ถ่ายทอดผ่าน
รอยยิ้มท่ีมุมปากและมือท่ีขยับไปมา แล้วตัดไปยังภาพของล�ำธารนํ้าไหลเช่ียวแห่งฤดูใบไม้ผลิ ภาพของ
แสงอาทิตย์สอ่ งประกายบนผวิ นํ้า ภาพของนกเลน่ นาํ้ ในสระ และภาพของเดก็ หวั เราะเอก๊ิ อ๊าก ซึง่ การน�ำ
ภาพต่างๆ มาประกอบการแสดงความรู้สึกยินดีปรีดาของนักโทษเช่นน้ีมีพลังท�ำให้คนดูเชื่อถือคล้อยตาม
ได้ลึกซ้ึงในความคิดของพูดอฟกิน (Jacobs, 1969, pp. 127-128) ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากฉาก
ดงั กลา่ วนเ้ี ปน็ หนงึ่ ในหลายฉากทถ่ี กู กลา่ วถงึ และเปน็ แบบฉบบั ของการตดั ตอ่ ภาพยนตรเ์ รอ่ื ยมาจนปจั จบุ นั
กิจกรรม 3.2.3
1. ทฤษฎกี ารตดั ต่อของเวสโวลอด พูดอฟกนิ เรยี กวา่ อะไร
2. ลักษณะการตัดตอ่ ตามทฤษฎีของ เวสโวลอด พดู อฟกิน เป็นอยา่ งไร
3. เหตุใดเวสโวลอด พดู อฟกิน จึงกล่าววา่ วตั ถทุ เ่ี คลือ่ นไหวอยูห่ นา้ กลอ้ งเปน็ วัตถทุ ่ไี ร้วิญญาณ
แนวตอบกิจกรรม 3.2.3
1. เรยี กว่า ทฤษฎีการตัดตอ่ เชิงสมั พันธ์ หรอื Theory of Rational Editing
2. ดว้ ยการนำ� ชอ็ ตตา่ งๆ มาวางเรยี งตอ่ กนั เปน็ กลมุ่ ๆ โดยชอ็ ตใหมแ่ ตล่ ะชอ็ ตทม่ี าวางตอ่ นน้ั ตอ้ ง
ใหป้ ระเด็นใหม่ ซึ่งการวางเรยี งชอ็ ตเข้าเป็นชุดๆ จะทำ� ใหเ้ กดิ ความหมายใหม่ ความหมายนี้เกิดจากการ
เรียงชอ็ ตไม่ใชอ่ ยู่ทีต่ ัวชอ็ ต
3. เพราะการเคลื่อนไหวหน้ากล้องเป็นเพียงข้อมูลดิบส�ำหรับการสร้างความเคลื่อนไหวจริงใน
อนาคตที่จะไปปรากฏในแผ่นฟิล์ม แต่การเคลื่อนไหวที่ส�ำคัญนั้นเกิดจากการให้ช็อตหน่ึงเคลื่อนเข้ามาใน
จอภาพยนตร์ ขณะท่ีอกี ช็อตหนึง่ เคลือ่ นออกไปและใหค้ วามหมายทางภาพยนตร์