Page 23 - การวิจัยเบื้องต้นทางสารสนเทศศาสตร์
P. 23
แนวคดิ การวิจัยทางสารสนเทศศาสตร์ 2-13
กิจกรรม 2.1.1
1. การวจิ ยั ต่อไปนส้ี ะท้อนลกั ษณะสำ� คัญของการวจิ ัยทางสารสนเทศศาสตร์อย่างไร
วริ ยิ า สมบรู ณผ์ ล. (2557). การประเมนิ ตนเองเรอื่ งสมรรถนะทางเทคโนโลยเี วบ็ 2.0 ของบรรณารกั ษ์
หอ้ งสมดุ มหาวทิ ยาลยั ของรฐั (วทิ ยานพิ นธป์ รญิ ญามหาบณั ฑติ , จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ).
สบื คน้ จาก http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/46124
การวจิ ยั ครงั้ นมี้ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ศกึ ษาสมรรถนะของบรรณารกั ษห์ อ้ งสมดุ มหาวทิ ยาลยั ของรฐั
ในดา้ นความรแู้ ละทกั ษะทางเทคโนโลยเี วบ็ 2.0 ประกอบดว้ ย การไดร้ บั การฝกึ อบรม การใชเ้ ทคโนโลยี
เว็บ 2.0 ความรแู้ ละทักษะเกีย่ วกบั การสง่ ข้อความโตต้ อบแบบทนั ที บล็อก เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์
การกระจายข้อมูลอย่างง่าย ไมโครบล็อก วิกิ โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก
บรรณารักษท์ ป่ี ฏิบตั งิ านในห้องสมดุ กลางของมหาวิทยาลยั
2. การวจิ ัยทางสารสนเทศศาสตร์มีความเป็นสหวทิ ยาการอย่างไร
แนวตอบกิจกรรม 2.1.1
1. การวจิ ยั เรอื่ ง การประเมนิ ตนเองเรอื่ งสมรรถนะทางเทคโนโลยเี วบ็ 2.0 ของบรรณารกั ษห์ อ้ งสมดุ
มหาวทิ ยาลยั ของรฐั มลี กั ษณะสำ� คญั กลา่ วคอื เปน็ การวจิ ยั ทางสารสนเทศศาสตรท์ ม่ี คี วามเปน็ สหวทิ ยาการ
โดยมศี าสตรต์ า่ งๆ เขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง ไดแ้ ก่ บรรณารกั ษศาสตร์ สารสนเทศศาสตร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. สารสนเทศศาสตรเ์ ปน็ ศาสตรท์ ม่ี คี วามเปน็ สหวทิ ยาการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ศาสตรต์ า่ งๆ โดยการนำ�
ความรจู้ ากหลายสาขาวชิ ามาผนวกเขา้ ดว้ ยกนั และนำ� มาประยกุ ตเ์ พอ่ื ดำ� เนนิ การดา้ นการศกึ ษา การผสม-
ผสานศาสตรต์ า่ งๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับสารสนเทศเขา้ ด้วยกัน ดงั น้ี
บรรณารักษศาสตร์ เป็นศาสตร์ท่ีเป็นพ้ืนฐานของสารสนเทศศาสตร์ บรรณารักษศาสตร์
เก่ียวข้องกบั หลกั การและทกั ษะของกระบวนการและการท�ำงานในหอ้ งสมดุ
เทคโนโลยสี ารสนเทศ เกยี่ วขอ้ งกบั การจดั เกบ็ ประมวลผล จดั ทำ� ฐานขอ้ มลู และการคน้ คนื
สารสนเทศ
การบริหาร การด�ำเนินงานในวิชาชีพสารสนเทศศาสตร์ต้องอาศัยหลักการบริหารงาน
สำ� นกั งาน งานบคุ คล งบประมาณ และการจดั การด้านตา่ งๆ เช่น พัสดุ อาคารสถานท่ี นอกจากน้ี ยังมี
ความเก่ียวข้องกบั การตลาดและการบริการสารสนเทศ การผลิตผลิตภณั ฑส์ ารสนเทศ
ภาษาศาสตร์ เน้นการใช้หลักไวยากรณ์และโครงสร้างภาษาเพื่อการก�ำหนดค�ำท่ีใช้แทน
เนือ้ หาสาระ และการก�ำหนดค�ำค้นท่ีใช้ระบบการจดั เก็บและคน้ คืนสารสนเทศ
