Page 40 - การวิจัยเบื้องต้นทางสารสนเทศศาสตร์
P. 40

2-30 การวจิ ยั เบื้องตน้ ทางสารสนเทศศาสตร์
       1)	 นกั วิจัยตอ้ งซอ่ื สัตยแ์ ละมีคณุ ธรรมในทางวิชาการและการจดั การ
       2)	 นกั วจิ ยั ตอ้ งตระหนกั ถงึ พนั ธกรณใี นการทำ� วจิ ยั ตามขอ้ ตกลงทท่ี ำ� ไวก้ บั หนว่ ยงานทสี่ นบั สนนุ

การวจิ ยั และตอ่ หน่วยงานที่ตนสังกดั
       3)	 นักวิจยั ตอ้ งมีพน้ื ฐานความรใู้ นสาขาวิชาการที่ท�ำวจิ ยั
       4)	 นักวจิ ยั ต้องมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สิง่ ทศ่ี ึกษาวิจัย ไมว่ า่ เป็นสงิ่ ทม่ี ชี วี ิตหรอื ไมม่ ชี ีวิต
       5)	 นกั วจิ ยั ตอ้ งเคารพศกั ดิ์ศรีและสิทธขิ องมนษุ ย์ทใี่ ชเ้ ป็นตวั อย่างในการวิจยั
       6)	 นักวิจัยต้องมอี สิ ระทางความคดิ โดยปราศจากอคติในทุกขั้นตอนของการท�ำวจิ ยั
       7)	 นักวิจัยพงึ น�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในทางท่ชี อบ
       8)	 นกั วิจยั พงึ เคารพความคดิ เห็นทางวิชาการของผู้อ่ืน
       9)	 นกั วิจยั พงึ มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมทกุ ระดับ
       ส�ำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (2555) ได้จัดท�ำจรรยาวิชาชีพวิจัยและแนวทางปฏิบัติ

ประกอบดว้ ยจรรยาวิชาชพี 4 ประการ คอื
       1)	 นักวจิ ยั พึงมจี รยิ ธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดแี ก่ผรู้ ่วมงานและบุคคลท่ัวไป
       2)	 นักวิจัยพงึ ทำ� วจิ ยั อย่างเต็มความสามารถดว้ ยความเสยี สละ ขยนั และอดทน
       3)	 นักวิจัยต้องมีอิสระทางวิชาการ โดยปราศจากอคตใิ นข้นั ตอนของการทำ� วิจยั
       4)	 นกั วจิ ยั ตอ้ งมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงิ่ ทศ่ี กึ ษาวจิ ยั ไมว่ า่ จะเปน็ คน สตั ว์ พชื สงั คม ศลิ ปวฒั นธรรม

ทรพั ยากรธรรมชาติ หรือส่ิงแวดล้อม
       นอกจากนั้น ยังก�ำหนดจรรยาวิชาชีพในการท�ำวิจัยโดยระบุว่านักวิจัยควรใช้ความรู้ทางวิชาการ

และวิชาชีพ เพื่อการค้นคว้าอย่างมีระบบในทุกข้ัน กล่าวคือ ก่อน ระหว่าง และหลังการด�ำเนินการวิจัย
รวมท้ังการน�ำเสนอและเผยแพร่ผลการวิจัย ในช่วงก่อนการวิจัยนักวิจัยควรมีความรู้ความสามารถอย่าง
เพยี งพอในการเขยี นโครงการวจิ ยั มกี ารอา้ งองิ นกั วชิ าการและแหลง่ ขอ้ มลู ทนี่ ำ� มาใช้ สำ� หรบั ในระหวา่ งการ
ดำ� เนนิ การวจิ ยั นกั วจิ ยั ควรสรา้ งเครอ่ื งมอื และใชว้ ธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และวเิ คราะหข์ อ้ มลู อยา่ งถกู ตอ้ ง
ตามหลกั วชิ าการและระเบยี บวธิ วี จิ ยั และหลงั การดำ� เนนิ การวจิ ยั ผวู้ จิ ยั ควรรายงานผลอยา่ งชดั เจน มขี อ้ มลู
หรอื หลกั ฐานสนบั สนนุ มกี ารอา้ งองิ อยา่ งถกู ตอ้ ง ไมน่ ำ� เสนอผลงานวจิ ยั เรอื่ งเดยี วกนั เพอื่ การตพี มิ พซ์ ำ�้ ซอ้ น
ในหลายแหลง่ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลกระทบทเ่ี กดิ จากการน�ำเสนองานสสู่ าธารณะ (สำ� นกั งานคณะกรรมการ
วิจัยแห่งชาต,ิ 2555, น. 25-34)

2.	 จริยธรรมการวิจัยในคน

       ประเดน็ เรอ่ื งจรยิ ธรรมการวจิ ยั ทเี่ ปน็ เรอ่ื งสำ� คญั และไดร้ บั การกลา่ วถงึ กนั อยา่ งกวา้ งขวาง คอื หลกั เกณฑ์
เรอื่ งจรยิ ธรรมการวจิ ยั ในคน ซงึ่ เปน็ ประมวลหลกั ประพฤตปิ ฏบิ ตั ทิ ด่ี ที นี่ กั วจิ ยั ยดึ ถอื ในการวจิ ยั เกย่ี วกบั คน
การวจิ ยั ในคนเปน็ กระบวนการศกึ ษาทเี่ ปน็ ระบบเพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ ความรทู้ างดา้ นสขุ ภาพ หรอื วทิ ยาศาสตร์
การแพทยท์ ไ่ี ดก้ ระทำ� ตอ่ รา่ งกายหรอื จติ ใจของอาสาสมคั รในการวจิ ยั หรอื ทไี่ ดก้ ระทำ� ตอ่ เซลล์ สว่ นประกอบ
ของเซลล์ วสั ดสุ ง่ิ สง่ ตรวจ เนอื้ เยอื่ นำ�้ คดั หลงั่ สารพนั ธกุ รรม เวชระเบยี น หรอื ขอ้ มลู ดา้ นสขุ ภาพของอาสาสมคั ร
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45