Page 59 - ภาษาและทักษะเพื่อการสื่อสาร
P. 59

ความรู้พน้ื ฐานเก่ยี วกับภาษาเพื่อการส่ือสาร 1-49
       3.1 	 การใชภ้ าษาเพอื่ การสบื คน้ สารสนเทศทบี่ นั ทกึ ไวใ้ นคอมพวิ เตอรม์ ลี กั ษณะทงั้ ทเี่ ปน็ ตวั หนงั สอื
ตวั เลข และรปู ภาพ ขอ้ มลู ทป่ี รากฏอยใู่ นรปู ตวั หนงั สอื จะจบั กลมุ่ กนั เปน็ หมวดหมู่ เรยี กวา่ “ระเบยี น” เมอื่
คอมพิวเตอร์ค้นหาข้อมูลจะค้นทีละระเบียน เม่ือค้นพบก็จะส่งผลมาให้แก่ผู้ใช้ท้ังหมด หรือเฉพาะส่วนใด
สว่ นหนง่ึ แล้วแต่ผใู้ ชจ้ ะคัดสรรไปใช้ประโยชน์
       การสืบค้นจากฐานข้อมูลออนไลน์ เป็นการน�ำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ส่ือสาร
โทรคมนาคมมาใช้ ผคู้ น้ ขอ้ มลู สามารถตรวจสอบสารบญั ของฐานขอ้ มลู โดยผา่ นโครงสรา้ งทตี่ กลงกนั ไวด้ ว้ ย
ระบบการค้นในสารสนเทศโดยใช้หัวเร่ือง (subject) และค�ำส�ำคัญ (keyword) การค้นสารสนเทศแบบ
ออนไลน์ เปน็ ระบบทโ่ี ตต้ อบกันได้ และผู้ใช้สามารถปรบั การคน้ ของตนได้ ดงั นั้น จงึ สามารถเปลีย่ นหรือ
เรยี กขอ้ มลู กลบั ไดต้ รงจดุ ทต่ี อ้ งการไดท้ นั ที กอ่ นเรมิ่ ตน้ การสบื คน้ ควรเลอื กฐานขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง แลว้ ปอ้ น
ศัพท์ หรอื หวั เรอื่ งที่ใช้ค้น และใชเ้ ทคนคิ ในการค้นจนไดผ้ ลเป็นท่นี ่าพอใจ จึงสัง่ พิมพท์ างเครือ่ งพมิ พห์ รือ
บนั ทกึ ลงหนว่ ยความจำ� ของเคร่อื งคอมพวิ เตอรไ์ ดท้ นั ที
       3.2 	การใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารในอินเทอร์เน็ต การสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตมีลักษณะเช่นเดียว
กบั การใช้ภาษาไทยเพื่อการสอื่ สารท่ัวๆ ไป ซึ่งมหี ลักที่ควรคำ� นงึ ถึงดงั ตอ่ ไปน้ี

            1) 	ใชค้ ำ� ให้ถูกตอ้ งตรงตามความหมาย กล่าวคอื ก่อนนำ� คำ� ไปเรยี งเข้าประโยค ควรทราบ
ความหมายของคำ� ค�ำน้นั ก่อน แล้วควรตรวจตราค�ำที่สะกดคลา้ ยคลึงกันด้วย

            2) 	ใช้ค�ำให้เหมาะสม เลือกใช้ค�ำให้เหมาะสมกับกาลเทศะและเหมาะสมกับบุคคล เช่น
โอกาสทเ่ี ปน็ ทางการ โอกาสทีเ่ ปน็ กันเอง หรอื โอกาสทเี่ ปน็ ภาษาเขยี น

            3) 	การเรียงล�ำดับค�ำ เป็นเร่ืองท่ีส�ำคัญมากในหลายๆ ภาษา หากเรียงผิดที่ความหมายก็
จะเปลยี่ นไปดว้ ย ทงั้ นี้ เพราะคำ� บางคำ� อาจมคี วามหมายไดห้ ลายความหมาย ซงึ่ ขน้ึ อยกู่ บั ตำ� แหนง่ ทจ่ี ดั เรยี ง
ไว้ในประโยค โดยทั่วไปมักมีข้อผิดพลาดจากการเรียงล�ำดับค�ำผิดต�ำแหน่ง การเรียงล�ำดับค�ำขยายผิดท่ี
และการเรียงลำ� ดบั ค�ำไมเ่ หมาะสม

            4) 	แตง่ ประโยคใหจ้ บความ หมายถงึ แตง่ ประโยคใหม้ คี วามสมบรู ณค์ รบถว้ นทง้ั สว่ นทเ่ี ปน็
ภาคประธานและภาคแสดง ซงึ่ ประโยคท่จี บกระแสความน้ันจะต้องตอบคำ� ถามว่า ใคร ทำ� อะไร ไดช้ ดั เจน
สาเหตทุ ที่ ำ� ใหป้ ระโยคไมจ่ บความอาจเกดิ จากขาดคำ� บางคำ� หรอื ขาดสว่ นประกอบของประโยคบางสว่ นไป

            5) 	ใช้ภาษาให้ชัดเจน ไม่ก�ำกวม ใช้ภาษาท่ีให้ความหมายเพียงความหมายเดียว เป็น
ความหมายที่ไม่สามารถจะแปลความเป็นอย่างอื่นได้ หรือหากรู้สึกว่าสิ่งที่สื่อสารไปอาจยังไม่ชัดเจนพอ
ก็ควรขยายความเพิ่มเติมดว้ ย

            6) 	ใชภ้ าษาให้สละสลวย ใชภ้ าษาอยา่ งไพเราะราบรื่น ฟังไม่ขดั หูและมคี วามกะทัดรัด ซึง่
การใช้ภาษาแบบนี้ข้ึนอยู่กับแนวทางและความถนัดของผู้ส่งสารแต่ละคน โดยมีแนวทางช่วยให้ภาษา
สละสลวย คอื ไมใ่ ช้คำ� ฟุ่มเฟอื ยหรอื คำ� ทม่ี คี วามหมายซ้ำ� ซอ้ นกนั ใช้คำ� ใหค้ งที่ในประโยคเดยี วกัน หรอื ใน
เนอื้ ความเดยี วกนั ควรใชค้ ำ� เดยี วกนั มเี ทคนคิ การรวบความโดยนำ� หลายประโยคมาเขยี นรวมกนั ใหก้ ระชบั
รัดกุม

       3.3 	การใช้ภาษาเพ่ือติดต่อธุรกิจ ปัจจุบันองค์กรธุรกิจต่างๆ นิยมใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อ
ส่ือสารเพื่อท�ำธุรกิจระหว่างองค์กรหรือระหว่างผู้ขายกับผู้ซ้ือกันมาก เพราะสะดวกรวดเร็ว อินเทอร์เน็ต
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64