Page 31 - ภาษาและทักษะเพื่อการสื่อสาร
P. 31
ภาษาเพอื่ การสื่อสารในชวี ติ ประจ�ำวนั 4-21
ต่อ ใช้ส�ำหรบั สิ่งท่ีเปน็ นามธรรม เชน่
- เขาช่างดีต่อเธอเหลอื เกิน
2) ค�ำเช่ือมผสม คอื คำ� เชอ่ื มทปี่ ระกอบดว้ ยคำ� เชอื่ มเดยี่ วตงั้ แต่ 2 คำ� ขน้ึ ไป เชน่ เพราะวา่
เพราะฉะนั้น ถา้ เผือ่ จนกระทัง่ ฉะน้นั จงึ ฯลฯ ตวั อย่าง
- นอ้ งปังปอนด์ไมช่ อบกนิ ขนมหวานฉะนั้นจึงไม่ปวดฟัน
- เขาไม่พูดกบั ฉนั จนกระทั่งฉันง้อเขา
ค�ำเชอ่ื มผสมบางค�ำไม่อย่ตู ดิ กัน เชน่
- กว่าถว่ั จะสุกงาก็ไหม้
- ถึงเราจะยากจนก็ไมล่ ักขโมยใคร
- ครั้นลม้ ตัวลงนอนเราก็หลับไป
6. ค�ำเสริม
ค�ำเสริมเป็นค�ำที่พูดเสริมขึ้น บางทีไม่มีความหมาย เช่น กระป๋งกระเป๋า หนังสือหนังหา
สตงุ้ สตางค์ หรอื บางครง้ั อาจแสดงความตอ้ งการของผพู้ ดู เชน่ “เดนิ เรว็ ๆ ซ”ิ “ขอรอ้ งเถอะนะ” นอกจากน้ี
ยังแสดงถงึ เพศ วัย ของผพู้ ูด ทา่ ทขี องผูพ้ ดู ตอ่ ผู้ฟงั สถานภาพของผูฟ้ ัง เช่น ค�ำวา่ คะ ขา คะ่ ครับ
ขอรับ เพคะ พะยะ่ คะ่ วะ โวย้ เป็นตน้
การแบ่งค�ำออกเป็น 6 ชนิดตามที่กล่าวมาแล้ว เป็นการแบ่งตามลักษณะการแสดงความหมาย
ของคำ� ทเี่ ราไดใ้ ชส้ อ่ื สารกนั เปน็ ประจำ� เทา่ นนั้ ซง่ึ ตามหลกั ภาษาหรอื หลกั ไวยากรณ์ คำ� ในภาษาไทยยงั แบง่
ออกไดห้ ลายชนดิ เชน่ คำ� ซอ้ น คำ� ซาํ้ คำ� ผสม คำ� สรอ้ ย ฯลฯ และมรี ายละเอยี ดอกี มาก แตใ่ นชวี ติ ประจำ� วนั
คนทั่วไปมักไม่ทราบว่าค�ำที่ใช้พูดกันนั้นคือค�ำชนิดใด เราก็สามารถสื่อสารเข้าใจกันได้ โดยอาศัยการใช้
ภาษาที่สืบทอดกันมามากกว่าการยึดตามหลักการใช้ภาษาหรือหลกั ไวยากรณอ์ ยา่ งเครง่ ครัด
กิจกรรม 4.2.2
การแบ่งค�ำตามลักษณะการแสดงความหมายแบ่งเปน็ ก่ชี นดิ อะไรบา้ ง
แนวตอบกิจกรรม 4.2.2
การแบง่ ค�ำตามลักษณะการแสดงความหมายแบ่งเป็น 6 ชนดิ คือ
1. ค�ำเรียก-รอ้ ง
2. ค�ำหลกั
3. ค�ำแทน
4. ค�ำขยาย
5. ค�ำเชือ่ ม
6. ค�ำเสรมิ