Page 26 - ภาษาและทักษะเพื่อการสื่อสาร
P. 26

4-16 ภาษาและทักษะเพือ่ การสอ่ื สาร

2.	 เสียงหนักเบา 	

       นอกจากความหมายของค�ำจะเปลยี่ นไปตามการเปลย่ี นเสยี ง พยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ แลว้
ยงั เปลย่ี นไปตามการเนน้ เสยี งหนกั เบา การเนน้ เสยี งหนกั เบาในภาษาไทยมขี อ้ สงั เกตดงั นี้ คำ� ทมี่ ี 2 พยางค์
จะเนน้ เสียงหนักท่พี ยางค์ท้ายของคำ� เชน่ รองเท้า ถ้าเป็นค�ำ 3 พยางค์ จะเน้นเสียงหนกั ทพ่ี ยางคท์ ี่ 2
และพยางคท์ ่ี 3 เชน่ รองเท้าแตะ ถา้ เปน็ คำ� 4 พยางค์ หรอื มากกวา่ นนั้ จะมีเสียงหนักเบาสลบั เปน็ คู่ เช่น
รองเท้าฟองน้ํา รถโดยสารประจำ� ทาง เป็นต้น

       การเนน้ เสยี งหนกั เบาเชน่ นบี้ างครงั้ มผี ลทำ� ใหค้ วามหมายตา่ งกนั ขอใหล้ องสงั เกตขอ้ ความตอ่ ไปนี้
       -	 “เขามาเลน่ งานใคร” ถ้าเนน้ เสียงหนกั ที่ เล่น หมายถึง แสดง ถา้ เน้นหนกั ที่ เล่น และ งาน
หมายถงึ ทำ� รา้ ย
       -	 “เขาชอบยกตวั อยา่ งมาก” ถา้ เนน้ เสยี งหนกั ที่ ตัว หมายถงึ ชอบยกยอ่ งตวั เอง แตถ่ า้ เนน้ เสยี ง
หนกั ท่ี ตัวอย่าง หมายถึง ชอบยกตวั อย่างประกอบการอธบิ าย
       นอกจากนกี้ ารเวน้ วรรคตอน หรอื การเวน้ ชว่ งในการออกเสยี งทำ� ใหค้ วามหมายของขอ้ ความเปลย่ี น
ไป เชน่ เดียวกับการเน้นเสียงหนักเบา

3.	 เสียงสูงตํ่า

       การใชเ้ สยี งสงู ตาํ่ มคี วามสมั พนั ธก์ บั เสยี งวรรณยกุ ต์ ซง่ึ มี 5 เสยี ง คอื เสยี งสามญั เสยี งเอก เสยี งโท
เสยี งตรี และเสยี งจตั วา การเปลยี่ นเสยี งวรรณยกุ ตท์ ำ� ใหเ้ กดิ เสยี งสงู เสยี งตา่ํ สว่ นใหญจ่ ะเปน็ การแสดงถงึ
ความหมายดา้ นอารมณ์ และความรู้สกึ ของผ้พู ดู เชน่

       -	 “เขาเปน็ คนดีจรงิ ” แสดงวา่ พดู ชมอยา่ งจรงิ ใจ
       -	 “เขาเปน็ คนดจี ร๊งิ ” แสดงวา่ พูดอยา่ งประชด
       เม่ือไรก็ตามท่ีผู้พูดต้องการเน้นความรู้สึกหรือแสดงอารมณ์ต่างๆ โดยการใช้ค�ำซํ้า จะเปล่ียน
เสยี งแรกเปน็ เสียงตรี เชน่ ตา๊ ยตาย บา๊ บ้า แกแ๊ ก่ โง้โง่ เก๊งเก่ง เปน็ ตน้

4.	 เสียงสั้นยาว

       เสยี งสน้ั ยาวทเ่ี รารจู้ กั กนั ทว่ั ไป คอื เสยี งสระ อนั ไดแ้ ก่ สระเสยี งสน้ั และสระเสยี งยาว สระเสยี งสนั้
เช่น อะ อิ เอะ แอะ โอะ เอาะ ส่วนสระเสียงยาว เชน่ อา อี เอ แอ โอ ออ เป็นตน้ คำ� ทใี่ ชส้ ระตา่ งกนั จะ
ออกเสยี งสนั้ ยาวตา่ งกนั แตเ่ มอ่ื เราออกเสยี งจรงิ ๆ แลว้ เสยี งสนั้ ยาวจะมหี ลายระดบั แมแ้ ตค่ ำ� ทมี่ เี สยี งสระ
เดยี วกันยงั ออกเสียงส้ันยาวระดบั ต่างกนั เช่น

       -	 “เขาชอบเข้าเจ้าเขา้ ทรง” เจา้ เสยี งยาวกว่า เขา้
       -	 “เธอจ่ายเงนิ เกนิ ฐานะตัวเอง” เกิน เสียงยาวกวา่ เงนิ
       -	 “ผลไม้โดนนํา้ จะช�ำ้ ” นา้ํ เสยี งยาวกว่า ชำ้�
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31