Page 66 - การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
P. 66
2-10 การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
(Verbal Ability) เป็นแบบทดสอบรายบุคคล ไม่จำกัดเวลา แบบท ดสอบน ี้ประกอบด ้วยแผ่นรูปภาพ 204
แผ่น แต่ละแ ผ่นม ีรูปภาพ 4 รูป จัดรูปภาพเหล่าน ี้เป็น 17 ชุด ชุดล ะ 12 ข้อ เรียงล ำดับภ าพจ ากง่ายไปย าก
ใช้ท ดสอบกับผ ู้รับก ารท ดสอบตั้งแต่อายุ 2 ขวบ 6 เดือน ถึงอายุ 90 ปี 6 เดือน ใช้เวลาท ดสอบโดยเฉลี่ย
11-12 นาที เพราะผ ู้รับก ารท ดสอบแต่ละค นส่วนมากจ ะท ำแบบท ดสอบเพียง 5 ชุด หรือ 60 ภาพ โดยผู้รับ
การท ดสอบแ ต่ละค นจะเริ่มต ้นทำแบบทดสอบตามร ะดับอ ายุข องต นเอง เช่น ผู้รับการท ดสอบท ี่อ ายุ 8 ขวบ
ก็จ ะเริ่มท ำแบบท ดสอบข ้อที่ 73 เป็นต้นไป และจะยุติก ารทำแบบท ดสอบเมื่อมีก ารต อบผ ิดเกิดขึ้นติดต่อกัน
ตามจ ำนวนข ้อท ีก่ ำหนดห รือไลจ่ ากก ารต อบผ ิดต ิดต่อก ันลงม าต ามจ ำนวนข ้อท ีก่ ำหนดจ นถึงร ะดับต อบไดถ้ ูก
ต้อง แล้วน ำค ะแนนด ิบท ี่ได้ม าแ ปลงเป็นค ะแนนม าตรฐานเพื่อจ ะได้ท ราบว ่าผ ู้รับก ารท ดสอบม ีค วามส ามารถ
ระดับใด (Dunn and Dunn, 1997: x-2)
ข้อดีของแบบทดสอบศัพท์รูปภาพพีบอดี้คือ เป็นแบบทดสอบที่ใช้รูปภาพ ผู้รับการ
ทดสอบไม่ต้องอ่าน ผู้ทดสอบจะเป็นค นอ ่านค ำถาม แล้วให้ผ ู้รับการทดสอบชี้ภาพ ตัวอย่างเช่น ในแผ่นภาพ
ที่ใช้ฝึกก่อนทำการทดสอบ (Training Plate) จะมีรูปภาพ 4 รูป คือ ภาพช้อน ลูกบอล กล้วย และสุนัข
เมื่อผู้ทดสอบพ ูดก ับผ ู้รับก ารทดสอบว่า “ดูท ี่แผ่นภ าพน ี้ จะเห็นว่าม ีรูปต่างๆ 4 รูป ขอให้นักเรียนชี้รูปสุนัข
ว่าอยู่ตรงไหน” แล้วผู้ทดสอบก็บันทึกคำตอบตามที่ผู้รับการทดสอบชี้รูปนั้นๆ เมื่อผู้รับการทดสอบเข้าใจ
คำสั่งแล้ว จึงเริ่มดำเนินการทดสอบตามระดับอายุข องผู้รับการท ดสอบ
นอกจากนี้ แบบทดสอบศัพท์รูปภาพพีบอดี้ ยังเป็นแบบทดสอบที่มีประโยชน์ในการ
ตรวจส อบว ่า ผู้รับก ารท ดสอบม คี วามส ามารถท างภ าษาม ากน ้อยเพยี งใด และใชท้ ดสอบไดท้ ั้งบ ุคคลท ีม่ คี วาม
เป็นอัจฉริยะแ ละผู้ท ี่มีค วามล่าช้าทางส มอง
2) แบบทดสอบผลสัมฤทธ์ิ (Achievement Test) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ที่นำมา
ใช้ประกอบการแนะแนวด้านการเรียนที่สำคัญๆ คือ แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Scholastic
Achievement Test) ซึ่งส่วนม ากจ ะเป็นแ บบท ดสอบว ัดผลส ัมฤทธิ์เฉพาะว ิชา และแบบท ดสอบผ ลส ัมฤทธิ์
ทางการศ ึกษา (Educational Achievement Test) ที่ว ัดเนื้อหาท ั่วๆ ไปด้านก ารศึกษา เช่น วัดผลสัมฤทธิ์
ด้านคำศัพท์ การอ่าน การสะกดคำ และเลขคณิต โดยมีระดับความยากง่ายตั้งแต่น้อยไปหามาก ซึ่งแบบ
ทดสอบเหลา่ น มี้ คี วามส ำคญั อ ยา่ งย ิง่ ท ผี่ ใู้ หบ้ รกิ ารแ นะแนวด า้ นก ารศ กึ ษาค วรน ำไปใชก้ อ่ นท จี่ ะใหก้ ารแ นะแนว
ดา้ นก ารศ กึ ษา แตอ่ ปุ สรรคข องผ ใู้ หบ้ รกิ ารแ นะแนวด า้ นก ารศ กึ ษาในป ระเทศไทย คอื ไมม่ เี ครือ่ งม อื ม าตรฐาน
ทางการแนะแนวด้านการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีแบบทดสอบมาตรฐานวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และไม่มีแบบทดสอบมาตรฐานวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา อย่างไรก็ตามในอดีตประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา
กระทรวงศึกษาธิการเคยสร้างแบบทดสอบมาตรฐานวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยวัดสัมฤทธิผลรวมของ
ทุกๆ วิชา สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ภายหลังการปรับปรุงหลักสูตรทั้งระดับประถม
ศึกษาและระดับมัธยมศึกษาครั้งล่าสุดแล้วก็ไม่ปรากฏว่ามีเครื่องมือมาตรฐานใดที่เกี่ยวกับแบบทดสอบ
มาตรฐานที่ใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหรือทางการศึกษาเพียงแต่ แต่ละโรงเรียนหรือกลุ่มโรงเรียนสร้าง
แบบทดส อบว ัดส ัมฤทธิผลรายวิชา (Course Oriented Achievement Test) ไม่ได้สร้างหรือพัฒนาแบบ
ทดสอบม าตรฐานวัดสัมฤทธิผ ลรวมของท ุกๆ รายวิชา (Broadly-Oriented Achievement Test)
ลขิ สทิ ธข์ิ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช