Page 133 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 133
การเสริมพ ลังในการส ่งเสริมสุขภาพแ ละการป้องกันโรค 5-21
การจัดสิ่งที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ในการเสริมพลังชุมชนเพื่อการส่งเสริม
สุขภ าพและการป้องกันโรค โดยสามารถแ บ่งเป็น 5 ระยะ ดังนี้
1.2.1 ระยะให้ข้อมูลความรู้ เพื่อให้สมาชิกชุมชนเกิดความเชื่อ ค่านิยม และจิตสำนึกในเรื่องการมี
สุขภาพดี และต ระหนักถึงค วามเสี่ยงและค วามจำเป็นต้องล ดความเสี่ยงต ่อโรค โดยสามารถใช้ว ิธีก ารอ ภิปราย หรือ
พูดค ุยในก ลุ่มย ่อย ให้เกิดความตระหนักในเรื่องด ังกล่าว
1.2.2 ระยะให้มีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาสุขภาพของชุมชน เป็นระยะที่ให้สมาชิกชุมชนได้
เรียนรู้จ ากตัวแ บบท ี่ด ี เช่น ผู้ที่เป็นต ัวอย่างที่ดีในก ารส่งเสริมสุขภ าพและป ้องกันโรค ทำให้มีส ุขภาพดี ประสบค วาม
สำเร็จในชีวิต หรือผู้ที่ไม่ดูแลสุขภาพแล้วก่อให้เกิดผลเสีย ทำให้เกิดความรุนแรงของโรค เสียค่าใช้จ่ายในการดูแล
รักษาพยาบาล รวมถึงอาจให้ชุมชนต้นแบบที่มีการจัดการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่ดีมาเล่าประสบการณ์
การดำเนินงานแ ละผลลัพธ์ท ี่เกิดข ึ้นก ับบุคคลแ ละชุมชน เป็นต้น
1.2.3 ระยะให้มีการตัดสินใจด้วยความสมัครใจ โดยการฝึกทักษะที่จำเป็นในการทำงานร่วมกัน
การว างแผนแ บบม สี ่วนร ่วม การเรียนร ูท้ ักษะท ีจ่ ำเป็นในก ารแ ก้ไขป ัญหา เช่น การจ ัดล ำดับค วามส ำคัญข องป ัญหาแ ละ
การตัดสินใจเลือกป ัญหาที่ชุมชนจะแก้ไข การวิเคราะห์เหตุแ ละปัจจัยข องปัญหาสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งจ ะช่วยให้ชุมชน
มองเห็นค วามเป็นไปได้แ ละศ ักยภาพของช ุมชนท ี่จะท ำงานร่วมก ันในการแ ก้ไขป ัญหาสุขภาพด ังก ล่าว
1.2.4 ระยะเลือกแบบมีพลังอำนาจ ใช้วิธีการเพิ่มทักษะต่างๆ และปัจจัยแวดล้อมที่จำเป็นต่อ
การดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ การประเมินผลการดำเนินงาน การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมที่เป็นอุปสรรค และ
หาวิธีก ารแก้ไขป ัญหา การช ่วยสนับสนุนส ิ่งแวดล้อม หรือน โยบายที่เอื้อต ่อก ารด ำเนินการด ังกล่าว
1.3 รูปแบบการเสริมพลังแบบหลายข้ันตอน คาร์ (Kar, 2000) ได้ทำการศึกษารูปแบบการเสริมพลังชุมชน
และสรุปเป็นร ูปแบบการเสริมพ ลังแ บบห ลายขั้นตอน (Multi-Step Empowerment Model) ว่า มี 4 ขั้นตอน ดังนี้
1.3.1 สภาพการณ์เริ่มต้น (Initial Condition) ได้แก่ สภาพที่ประชาชนได้รับความทุกข์ทรมานและ
ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งกระตุ้นให้ต้องการเปลี่ยนแปลง เช่น ประสบปัญหามีโรคไข้เลือดออกในชุมชน
ในขณะเดียวกันไม่ได้รับการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้มีขยะและน้ำขังในชุมชนที่
เป็นแหล่งแ พร่โรค เป็นต้น
1.3.2 การกระท ำข องบุคคลในชว่ งแรก (Initial Individual Action) เป็นการกระทำของบุคคล 2-3 คน
ที่ได้รับความทุกข์ทรมานแต่มีความกล้าหาญ ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้คนอื่นๆ ที่มีความไม่พอใจ
เช่นกัน มารวมต ัวกันแสดงออก
1.3.3 การจัดการให้มีการเคลื่อนไหว (Organized Movement) เป็นการวางแผนให้เกิดการกระทำ
รว่ มก นั โดยเน้นก ารส นับสนนุ ช มุ ชน องค์กร การร ะดมท รัพยากร และก ารจ ัดการศ ึกษาเพือ่ เสรมิ พ ลัง อนั เปน็ ส ิ่งส ำคญั
ที่จะท ำให้การดำเนินง านป ระสบความสำเร็จ ซึ่งขั้นตอนน ี้ผ ู้นำชุมชนกับนักว ิชาการ เช่น เจ้าห น้าที่ส าธารณสุข เป็นต้น
จะม ีบ ทบาทเป็นพันธมิตรร ่วมก ันท ำงาน
1.3.4 การท ำใหเ้ ปน็ ส ถาบนั (Institutionalization) ความส ำเร็จท ีเ่กิดข ึ้นจ ากก ารเคลื่อนไหว ทำใหไ้ดร้ ับ
การส นบั สนนุ จ ากภ ายนอก และเปน็ ท รี่ ูจ้ กั ชว่ ยใหเ้ กดิ ค วามช อบธ รรมแ ละม คี วามย ัง่ ยนื ในก ารเคลือ่ นไหวอ ยา่ งต อ่ เนือ่ ง
กลายเป็นสถาบันในก ารด ำเนินก ารเคลื่อนไหวต่อไป เช่น ก่อตั้งเป็นกล ุ่มร ักษ์ส ุขภาพ ชมรมเฝ้าระวังโรค เป็นต้น
1.4 กระบวนการสนับสนุน 6 ข้ันตอน ยู และคณะ (Yoo, et al., 2004) ได้เสนอกระบวนการสนับสนุน
การเสริมพ ลังชุมชน 6 ขั้นต อน (Six-Step Facilitation Process) ดังนี้
1.4.1 ขั้นเข้าหาชุมชน (Entree into the Community) ประกอบด้วยกิจกรรมคือ การประชุมกับผู้นำ
ชุมชนแ ละเจ้าห น้าทีข่ องอ งค์กรในช ุมชนเพื่อใหท้ ราบข ้อมูลเกี่ยวก ับโครงการแ ละส ร้างข ้อต กลงร ่วมก ัน มกี ารฝ ึกอ บรม
ลขิ สทิ ธิ์ของมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช