Page 135 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 135

การเ​สริม​พลังใ​น​การ​ส่ง​เสริมสุข​ภาพ​และก​ ารป้องกันโ​รค 5-23

2. 	ข้อค​ วร​คำนึงใ​นก​ ระบวนการ​เสรมิ ​พลงั ช​ ุมชน

       ใน​การ​วางแผน​การ​จัด​กิจกรรม​การ​เสริม​พลัง​ที่​ส่ง​เสริม​การ​มี​ส่วน​ร่วม​ได้​ประสบ​ความ​สำเร็จ ควร​คำนึง​ถึง​
ประเด็นด​ ัง​ตารางท​ ี่ 5.1 (Srinivasan, 1990: 42)

ตารางท​ ่ี 5.1 ข้อ​ควรค​ ำนึงใ​น​การว​ างแผนก​ ารจ​ ดั ก​ จิ กรรมก​ ารเ​สรมิ พ​ ลงั ​ท​่ปี ระสบค​ วาม​สำเร็จ

     ถา้ ตอ้ งการใหป้ ระสบความสำเรจ็ จำเป็นตอ้ ง:               หากทำตามแนวทางดังกลา่ วแลว้ จะเกดิ :

- 	ใช้กิจกรรมที่มีการกำหนดงานที่สั้นกระชับและชัดเจน      - 	การกระจายพลังอำนาจให้แก่กันและกัน
	 ให้ทำ มากกว่าใช้วิธีการบรรยายหรือถามคำถาม              - 	เกิดการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง
- 	ใช้อุปกรณ์หรือสื่อที่กระตุ้นประสาทสัมผัสหลายช่องทาง   - 	เกิดความเท่าเทียมในสถานภาพของผู้จัดและผู้เรียน
	 มากกว่าใช้วิธีการพูดเพียงอย่างเดียว                    - 	เกิดการดึงศักยภาพ ภาวะผู้นำ การให้ความเคารพ
- 	สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ไม่เป็นทางการ ให้รู้สึก    	 ซึ่งกันและกัน
	 ผ่อนคลาย                                               - 	การเรียนรู้มีความสอดคล้องกับสิ่งที่เป็นจริงของผู้เรียน
-	 เลือกกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนา หรือ  -	 ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเอง การนับถือตนเอง ทักษะ
	 เจริญเติบโตขึ้น                                        	 และความมีศักยภาพของผู้เรียน
-	 กระตุ้นความรู้สึก ความเชื่อ ความต้องการ ความสงสัย     - 	ช่วยให้การปฏิบัติงานตามแผนมีความเป็นไปได้
	 การรับรู้ ความปรารถนาของผู้เรียน
- 	ส่งเสริมให้มีความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์
	 การวางแผน
- 	กระจายอำนาจในการตัดสินใจ

       นอกจาก​การ​วางแผน​กิจกรรม​การ​เสริม​พลัง​ที่​กล่าว​ข้าง​ต้น หาก​มอง​การ​เสริม​พลัง​ใน​ลักษณะ​ของ​ความ​ต่อ​
เนื่อง​ของ​การ​พัฒนา​พลัง​ของ​ชุมชน (The Community Development Empowerment Continuum) แล้ว​
เจ้าห​ น้าที่ส​ าธารณสุขค​ วรม​ ีก​ ารว​ างแผนก​ ารเ​สริมพ​ ลังช​ ุมชนใ​นภ​ าพร​ วมต​ ั้งแต่ใ​นร​ ะยะเ​ริ่มแ​ รกท​ ี่ป​ ระชาชนใ​นช​ ุมชนข​ าด​
พลังอ​ ำนาจโ​ดยก​ ารเ​สริมพ​ ลังใ​ห้ก​ ับบ​ ุคคล หลังจ​ ากน​ ั้นค​ วรม​ ีก​ ารส​ นับสนุนใ​ห้ม​ ีก​ ารร​ วมต​ ัวก​ ันเ​ป็นกล​ ุ่มย​ ่อยต​ ามป​ ัญหา​
หรือ​ความ​สนใจ​ที่​มี​ร่วม​กัน​ของ​บุคคล ระยะ​ต่อ​ไป​ควร​ส่ง​เสริม​ให้​กลุ่ม​ดัง​กล่าว​พัฒนา​ต่อ​ไป​จน​เกิด​เป็น​องค์กร​ชุมชน
เช่น กลุ่ม​อาสา​สมัคร​นม​แม่ ซึ่ง​มี​โครงสร้าง​และ​ภารกิจ​ของ​กลุ่ม​ที่​ชัดเจน​มาก​ขึ้น ใน​ระยะ​ต่อ​ไป​ควร​ส่ง​เสริม​ให้​เกิด​
ก​ าร​ทำงาน​แบบ​เครือข​ ่าย​ของ​กลุ่มต​ ่างๆ เพื่อ​ขับเ​คลื่อนใ​นป​ ระเด็น​สาธารณะ​ต่างๆ ที่​สำคัญข​ อง​ชุมชน และข​ ั้น​สูงสุดคือ​
การ​ส่ง​เสริม​ให้​ชุมชน​เข้าไป​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​กิจกรรม​ทางการ​เมือง ซึ่ง​เจ้า​หน้าที่​สาธารณสุข​จะ​มี​บทบาท​ให้การ​สนับสนุน​
มาก​ใน​ระยะ​แรก​ที่​ประชาชน​ยัง​ขาด​พลัง​อำนาจ แต่​เมื่อ​ประชาชน​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พลัง​อำนาจ​ของ​ตน​มาก​ขึ้น​ก็​จะ​เข้า​มา​
มี​ส่วน​ร่วม​มาก​ขึ้น​เรื่อยๆ ใน​ขณะ​ที่​เจ้า​หน้าที่​จะ​มี​บทบาท​เป็น​เพียง​ที่​ปรึกษา และ​จะ​สามารถ​ถอน​ตัว​ได้​เมื่อ​ชุมชน​
มีค​ วาม​เข้มแ​ ข็ง มี​พลัง​และ​พึ่งพาต​ นเองไ​ด้ (Baum, 2002: 375-376) ดัง​ภาพ​ที่ 5.4

การเ​สริม​พลัง​	  การพ​ ัฒนา	   การ​เกิดเ​ป็น​	          การ​รวม​ตัวก​ ัน	       การม​ ีก​ ิจกรรม​
ร​ ะดับบ​ ุคคล	   กลุ่มย​ ่อย	  องค์กรช​ ุมชน	            เ​คลื่อนไหว	           ท​ างการ​เมือง

                  ภาพท​ ี่ 5.4 ความ​ต่อเ​นอ่ื งข​ องก​ าร​พฒั นาพ​ ลงั ช​ มุ ชน

                  ลิขสทิ ธิ์ของมหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140