Page 101 - อาหารและโภชนบำบัด
P. 101
อาหารก ับกลุ่มอ าการเมแ ทบอ ล ิก 9-37
แทรกซ้อนของหลอดเลือดใหญ่ที่ไปเลี้ยงสมอง หัวใจ ขาและเท้ายังมีปัจจัยด้านความดันโลหิต ไขมันในเลือด และ
การแข็งต ัวของเลือดม าเพิ่มอ ีก
คำจำกดั ความข องโรคเบาห วาน
เป็นโรคไม่ต ิดเชื้อ เรื้อรัง เกิดจ ากการมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าป กติ ทำให้เกิดภ าวะแ ทรกซ้อนของหลอดเลือด
ทั่วร่างกาย อาจเกิดจากการขาดอินซูลิน หรืออ ินซูลิน จำนวนมากแต่ออกฤ ทธิ์ไม่ได้ เรียกว่าเกิดภ าวะดื้ออ ินซูลิน
ค่าป กติของระดบั นำ้ ตาล
ปัจจุบันค ่าป กติข องน ้ำตาลในเลือดท ี่เจาะ 8 ชั่วโมงห ลังง ดอ าหารค ือ 70-99 มิลลิกรัมต่อเลือด 1 เดซิลิตร หลัง
อาหาร 2 ชั่วโมง น้ำตาลต ้องไม่เกิน 140 มก./ดล. ผู้เป็นเบาห วานค ือผู้มีน้ำตาลข ณะง ดอาหาร 8 ชั่วโมง 126 มก./ดล.
หรือห ลังอาหาร 2 ชั่วโมง น้ำตาล 200 มก./ดล.
มีผู้ท ี่น้ำตาลในเลือดในข ณะง ดอาหาร 8 ชั่วโมง ที่ร ะดับ 100-125 มก./ดล. นับว ่าน้ำตาลเริ่มผ ิดป กติ เรียกว ่า
อิมแพร์ฟาสติ้งกลูโคส (Impaired fasting glucose) หรือ IFG
ผู้ที่น้ำตาลในเลือดห ลังอาหาร 2 ชั่วโมงอยู่ระหว่าง 140-199 มก./ดล. เรียกว ่า อิมแพร์กลูโคสโทเลอร านส ์
(Impaired glucose tolerance หรือ IGT)
ไอ.เอฟ.จี และไอ.จี.ที รวมกันแ ล้ว เรียกว่า พรีไดอะบิติสเมล ลิตัส (Pre diabetes mellitus) ถ้าไม่ได้รับการ
แก้ไข จะก ลายเป็นเบาห วานได้ปีละร้อยละ 11 แต่ถ้าป รับพฤติกรรมด้วยก ารจัดการอาหารร ่วมก ับก ารอ อกกำลังก าย
สัปดาห์ละ 150 นาที หรือล ดน้ำห นักลงร ้อยล ะ 7 สามารถป ้องกันเบาห วานได้ร ้อยละ 58
ดังนั้น ผู้ที่มีน้ำตาลผิดปกติเล็กน้อย ทั้งก่อนและหลังอาหาร ต้องสนใจปรับพฤติกรรม จะทำให้ชะลอโรค
เบาห วานอ อกไปได้
เนื่องจากเบาหวานเป็นภ ัยเงียบ ในระยะแรกที่น ้ำตาลเพิ่มจะไม่แ สดงอ าก ารใดๆ เลย ถ้าป ล่อยไว้ให้มีอาการ
ชัดเจน คือน ้ำหนักล ดทั้งท ี่กินได้ ปัสสาวะบ ่อย กระหายน ้ำบ่อย จะมีโอกาสเกิดโรคแ ทรกซ้อนได้ คือโรคหลอดเลือด
สมองแ ละหัวใจร ้อยละ 50 จอต าผิดป กติร ้อยละ 20 ปลายป ระสาทผ ิดป กติร ้อยละ 9 ไตเริ่มผิดปกติร้อยล ะ 8
จึงมีคำแนะนำให้คัดกรองเบาหวาน ด้วยการตรวจเลือด ถ้าผิดปกติในระดับเป็นเบาหวาน ต้องตรวจซ้ำอีก
ครั้งต่างว ันกัน ถ้าผ ิดป กติอ ีก จึงจะว ินิจฉัยว ่าเป็นเบาหวาน
สำหรับผู้มีอาการชัดเจน หากเจาะเลือดในเวลาใดๆ ก็ตามได้น้ำตาล 200 มก./ดล. ขึ้นไป ให้วินิจฉัยได้ว่า
เป็นเบาหวาน
1. ประเภทของเบาห วาน
โรคเบาห วานสามารถแ บ่งตามส าเหตุก ารเกิดโรคเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1) โรคเบาห วานประเภทที่ 1
2) โรคเบาหวานประเภทช นิดท ี่ 2
3) โรคเบาหวานที่ม ีสาเหตุจำเพาะ
4) โรคเบาหวานขณะตั้งค รรภ์
1.1 โรคเบาห วานป ระเภทท ่ี 1 (Type 1 diabetes mellitus, T1 DM) เกิดจ าก การท ี่เซลล์เบต้าในตับอ ่อนถ ูก
ทำลาย ทำให้ไม่ส ามารถผ ลิตอินซูลินได้ ส่วนใหญ่เกิดในเด็กมีอ าการแบบเฉียบพลัน ผู้ป ่วยต้องได้ร ับก ารรักษาด ้วย
อินซูลิน มิฉ ะนั้นจ ะเกิดอ ันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เบาหวานช นิดน ี้พบไม่ถึงร ้อยละ 5 ในประเทศไทย
1.2 โรคเบาห วานป ระเภทที่ 2 (Type 2 diabetes mellitus, T2 DM) พบบ่อยป ระมาณร ้อยละ 95 ของผู้เป็น
เบาหวานทั้งหมด เริ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป พบในผู้ที่รูปร่างท้วมหรืออ้วน ระยะแรกมีน้ำตาลในเลือดค่อยๆ สูงกว่าปกติ
ลขิ สิทธ์ิของมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช