Page 13 - สังคมโลก
P. 13

แนวคิด​และ​พัฒนาการ​ของร​ ัฐ 3-11

เนือ่ งจากห​ ากส​ ง่ ค​ นแ​ ละเ​สบยี งไ​ปม​ ากๆ ยอ่ มท​ ำใหพ​้ ืน้ ทีเ​่ พาะป​ ลกู ร​ กรา้ ง ขนุ นางผ​ เู​้ ปน็ เ​จา้ ของท​ ีด่ นิ ย​ อ่ มส​ ญู เ​สยี ร​ ายไ​ดไ​้ ป
ยิง่ ส​ งครามเ​กดิ ข​ ึน้ ม​ ากเ​ทา่ ใด ขนุ นางก​ ย​็ ิง่ บ​ ดิ พลิว้ ไ​มส​่ ง่ ค​ นแ​ ละอ​ าหารไ​ปเ​รือ่ ยๆ จงึ จ​ ำเปน็ อ​ ยเู​่ องท​ เี​่ จา้ ของท​ ีด่ นิ ข​ นาดใ​หญ​่
หรือ​กษัตริย์​จะ​ต้องหา​วิธี​การ​แบบ​อื่น​ที่​จะ​นำ​มา​ซึ่ง​ราย​ได้​และ​กำลัง​คน​เพื่อ​ใช้​ใน​การ​ทำ​สงคราม ความ​จำเป็น​เหล่า​นี้​
จงึ น​ ำม​ าซ​ ึง่ ก​ ารเ​กดิ ข​ ึน้ ข​ องร​ ะบบร​ าชการ การเ​กดิ ข​ ึน้ ข​ องกองท​ พั ป​ ระจำก​ าร และก​ ารเ​กบ็ ภ​ าษเ​ี ปน็ ร​ ายห​ วั โ​ดยไ​มส​่ นใจค​ วาม​
สัมพันธ์​ในร​ ะบบ​ฟิวดัล ปรากฏการณ์​เช่น​นี้​สามารถก​ ล่าวอ​ ีก​นัย​หนึ่ง​ได้​ว่า “สงครามส​ ร้างร​ ัฐ และ​รัฐส​ ร้างส​ งคราม”7

การ​เกดิ ข​ ึ้นข​ องร​ ัฐส​ มยั ​ใหม่

       จากส​ าเหตทุ​ ีก​่ ล่าวม​ าแ​ ล้วข​ า้ งต​ น้ เ​รือ่ งก​ ารล​ ดอ​ ิทธิพลล​ งข​ องโ​บสถ์ และก​ ารส​ ลายต​ วั ข​ องร​ ะบบฟ​ วิ ดลั จ​ นใ​นท​ ี่สุด​
ไดเ้​กิดเ​หตุการณท์​ ี่น​ ำไ​ปส​ ู่ก​ ารเ​กิดข​ ึ้นข​ องร​ ัฐส​ มัยใ​หม่ คือ สงครามส​ ามสิบป​ ี (ค.ศ. 1618-1638) และก​ ารต​ กลงส​ ันติภ​ าพ​
แห่ง​เวสต์ฟา​เลีย (Peace of Westphalia, ค.ศ. 1648) ที่​เป็นการ​ตกลง​ยอมรับ​การ​มี​อำนาจ​เหนือ​ดิน​แดน​ของ​รัฐ​
ซึ่งเ​ป็นพ​ ื้น​ฐานท​ ี่ส​ ำคัญ​ที่สุดข​ องร​ ัฐ​สมัย​ใหม่ใ​น​ปัจจุบัน

       สงคราม​สามสิบ​ปี​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​ดิน​แดน​ที่​เป็น​ประเทศ​เยอรมนี​ใน​ปัจจุบัน​นั้น เกิด​ขึ้น​เมื่อ​บรรดา​เจ้า​ผู้​ครอง​
นครรัฐ​เล็ก​รัฐ​น้อย​ใน​ดิน​แดน​ที่​เป็น​ประเทศ​เยอรมนีบาง​รัฐ* ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เจ้า​ผู้​ครอง​รัฐ​บรรพชิต (clergy) หรือ​
ฆราวาส (secular) เปลี่ยน​ศาสนา​จาก​นิกาย​คาทอลิก​เป็น​นิกาย​โปรเตสแตนท์** บาง​รัฐ​เหล่า​นี้​มี​ความ​สำคัญ​ทาง​
ยทุ ธศาสตรแ​์ ละบ​ างร​ ฐั ม​ ส​ี ถานะเ​ปน็ ผ​ เู​้ ลอื กต​ ัง้ จ​ กั รพรรดแ​ิ หง่ จ​ กั รวรรดโ​ิ รมนั อ​ นั ศ​ กั ดิส์ ทิ ธิ*์ ** ซึง่ จ​ ะท​ ำใหเ​้ กดิ ก​ ารค​ กุ คาม​
ต่อ​จักรวรรดิ โดย​เฉพาะ​ทาง​ด้าน​การ​ทหาร และ​กลาย​เป็น​ว่า​ผู้​นับถือ​ศาสนา​คริสต์​นิกาย​โปรเตสแตนท์มี​สิทธิ​เลือก​
จักรพรรดิ ในข​ ณะท​ ี่เ​จ้า​ผู้ค​ รอง​นครรัฐ​ที่เ​ปลี่ยนศ​ าสนา​ก็​ต้องการเ​ป็นอ​ ิสระ​จากจ​ ักรวรรดิ​ที่​นำ​โดย​ออสเตรียด​ ้วย

       สงครามท​ ี่เ​กิดข​ ึ้นย​ าวนานถ​ ึง 30 ปีม​ ีค​ วามเ​กี่ยวข้องก​ ับก​ ษัตริย์ห​ รือผ​ ู้ป​ กครองเ​กือบท​ ั้งหมดใ​นย​ ุโรปต​ ะวันต​ ก
ไม่ว​ ่า​จะ​เป็น​ฝ่ายค​ าทอลิก​ที่​นำโ​ดย​จักรวรรดิโ​รมันอ​ ัน​ศักดิ์สิทธิ์ สเปน ฝรั่งเศส หรือฝ​ ่าย​โปรเตสแตนท์ เช่น เดนมาร์ก
สวเี ดน และบ​ รรดาร​ ฐั ต​ า่ งๆ ในด​ นิ แ​ ดนเ​ยอรมนั ฝา่ ยโ​ปรเตสแตนตเ​์ ขา้ ส​ สู​่ งครามเ​พือ่ ป​ กปอ้ งผ​ ลป​ ระโยชนแ​์ ละก​ ารค​ กุ คาม​
จากจ​ กั รพรรดิ บรรดาเ​จา้ ผ​ คู​้ รองน​ ครใ​นเ​ยอรมนท​ี เี​่ ปน็ โ​ปรเตสแตนทไ์ ดเ้​รยี กร​ อ้ งใ​หก​้ ษตั รยิ ส​์ วีเดนเ​ขา้ ไปย​ งั ด​ นิ แ​ ดนข​ อง​
พวก​ตนเ​พื่อต​ ่อสู้ก​ ับจ​ ักรพรรดิแ​ ละ​กษัตริย์ฝ​ รั่งเศส โดย​ออกทุน​ให้​กษัตริย์ส​ วีเดน​มาท​ ำการร​ บเ​พื่อ​ลดก​ ารค​ ุกคามจ​ าก​
ราช​สำนักฮับ​สบวร์ก​ของ​จักรพรรดิ กษัตริย์​สวีเดน​ซึ่ง​ต้องการ​มี​อิทธิพล​ใน​ภาค​พื้น​ยุโรป​ตะวัน​ตก​ก็​ยินดี​ที่​จะ​เข้า​ร่วม

         7 Charles Tilly, “Reflection on the History of European State-Making,” in The Formation of National States in Western
Europe, ed. Charles Tilly. Princeton, New Jersey: Princeton University Press, 1975, p. 42.

         *ใน​อดีตเ​ยอรมนี​ไม่ไ​ด้ร​ วมก​ ัน​เป็น​ประเทศ​เดียว​เหมือนใ​น​ปัจจุบัน ดิน​แดนท​ ี่​เป็นป​ ระเทศเ​ยอรมันป​ ระกอบ​ไปด​ ้วยแ​ คว้น และร​ าช​อาณา​
จักร​เล็กๆ ตัวอย่าง​ของ​แคว้น​และ​ราชา​อาณาจักร​เหล่า​นี้ ได้แก่ บา​วา​เรีย (Bavaria) ปรัส​เซีย (Prussia) แซก​โซ​นี (Saxony) บา​เดน (Baden)
เป็นต้น

         **รัฐ​บรรพชิตค​ ือร​ ัฐ​ที่พ​ ระน​ ักบวช​เป็นเ​จ้า​ที่ดิน โดย​พันธะท​ ี่​มี​ต่อ​โบสถ์​คาทอลิก​คือ​การ​ส่งร​ ายไ​ด้ไ​ปใ​ห้​กับ​พระ​สันตะปาปาท​ ี่​กรุงโ​รม การ​
เปลี่ยนเ​ป็นโ​ปรเตสแตนท์ทำใหส้​ ามารถน​ ำร​ ายไ​ดท้​ ั้งหมดม​ าเ​ป็นข​ องส​ ่วนต​ ัวไ​มจ่​ ำเป็นต​ ้องส​ ่งไ​ปย​ ังโ​รมอ​ ีกต​ ่อไ​ป กรณกี​ ารเ​ปลี่ยนศ​ าสนาท​ ีม่​ ผี​ ลร​ ุนแรง​
ต่อ​การเมือง​ใน​ยุโรปต​ ะวัน​ตก​คือ กรณี​ของพ​ ระ​สังฆราชแ​ ห่ง​โคโลญ (Cologne) โปรด​ดู เจ เอ็ม ทอมป​ ์​สัน ประวัติศาสตร์ย​ ุโรป ค.ศ. 1494-1789
หน้า 127

         ***ตำแหน่ง​จักรพรรดิ​แห่ง​จักรวรรดิโ​รมันอ​ ันศ​ ักดิ​์สิทธิ์ (Holy Roman Empire) เป็น​ตำแหน่ง​ที่เ​ป็นป​ ระหนึ่ง​ประธานข​ องป​ วง​กษัตริย​์
คริสเตียน​ทั้งหมด ตำแหน่ง​ดัง​กล่าว​ได้​มา​ด้วย​การ​เลือก​ตั้ง และ​สวม​ม​งกุฏ​โดย​พระ​สันตะปาปา โดย​จุด​เริ่ม​ต้น​เกิด​ขึ้น​ใน​สมัย​พระ​เจ้า​ชาร์​เลอ​มาญ
(Charlemagne, ค.ศ. 768-814) แหง่ ​อาณาจ​ กั รฟ​ ร​ งั ก​ ์ (Franks) ผูม​้ ส​ี ทิ ธเ​ิ์ ลอื กต​ ัง้ พ​ ระจ​ กั รพรรดป​ิ ระกอบด​ ว้ ยเ​พร​ ะส​ งั ฆราชท​ เี​่ ปน็ เ​จา้ ท​ ีด่ นิ ร​ ฐั บ​ รรพชติ
3 รูป และ​กษัตริย์​หรือ​เจ้า​ที่ดิน​ที่​เป็น​ฆราวาส​อีก 4 องค์ โดย​คณะ​ผู้​เลือก​ตั้ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ตั้งแต่​คริสต์​ศตวรรษ​ที่ 16 เป็นต้น​มา​จะ​ทำ​ตาม​ธรรมเนียม​
ที่​จะ​เลือก​กษัตริย์​ใน​รา​ชวงศ์ฮับ​สบวร์ก (Habsburg) แห่ง​ราช​อาณาจักร​ออสเตรีย​เป็น​พระ​จักรพรรดิ ตำแหน่ง​ดัง​กล่าว​ถูก​ยกเลิก​โดย​จักร​พร​รดิ
นโ​ป​เลียน โบน​ าป​ าร์​ต (Napolèon Bonaparte) แห่ง​จักรวรรดิ​ฝรั่งเศส​ใน​ต้น​คริสต์​ศต​วรรษท​ ี่ 19

                              ลิขสทิ ธ์ขิ องมหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18