Page 162 - สังคมโลก
P. 162

7-56 สังคมโลก

ที่รบกันด้วยหอกด้วยดาบหลายเหตุการณ์ทำ�ให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากกว่าสงครามในยุคสมัยใหม่เสียอีก เช่น
สงครามทพี่ วกมองโกลขยายอ�ำ นาจบกุ ยโุ รปในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 13 ท�ำ ใหม้ คี นตายราว 60 ลา้ นคน แตส่ งครามนโปเลยี น	
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีคนตายเพียงราว 6 ล้านคน เป็นต้น ทั้งนี้เพราะส่วนหนึ่งของความรุนแรงในสงครามเกิด
จากเจตจำ�นงและพฤติกรรมของมนุษย์ที่มุ่งเข่นฆ่าและล้างผลาญกันว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน อาวุธเป็นเพียงส่วนเสริม
เพื่อให้มนุษย์บรรลุเป้าหมายดังกล่าวเท่านั้น โดยมีคุณธรรมและมนุษยธรรมเป็นสิ่งยับยั้งความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น

       ในสงคราม 30 ปี ช่วง ค.ศ. 1618-1648 ประชากรยุโรปได้ลดลงอย่างมากมีผู้เสียชีวิตราว 11 ล้าน
คน81สนามรบส่วนใหญ่อยู่ในดินแดนเยอรมันทำ�ให้ประชากรของรัฐต่างๆ ในเยอรมนีลดลงราวร้อยละ 30 สงคราม
มีผลให้ผู้ชายเยอรมันลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของจำ�นวนเดิม82 ประชากรเชกก็ลดลง 1 ใน 3 เช่นกัน เพียงกองทัพ
สวีเดนประเทศเดียวก็ได้ทำ�ลายดินแดนในเยอรมันไปมากมาย ได้แก่ ประสาทราว 2 พันแห่ง หมู่บ้าน 18,000 แห่ง
และเมอื ง 1,500 เมอื ง83 ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของพลเรอื นมกั ถกู ท�ำ ลายดว้ ยความทารณุ โหดรา้ ยของทหารรบั จา้ งมากกวา่
ทหารเกณฑ์ของรัฐ

       ในสงครามอินเดียแดงหรือสงครามระหว่างชาวผิวขาวที่อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในทวีปอเมริกาเหนือกับ	
ชนพื้นเมืองอินเดียแดงตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 18 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 นั้น ทำ�ให้จำ�นวนชาวอินเดียแดงลดลงจากราว
18 ล้านคนก่อนการรุกรานของชาวผิวขาว เหลือเพียงราว 2.5 ล้านคนในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2184 สงครามระหว่าง
2 ฝ่ายเกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 160 ปี นับตั้งแต่สงคราม 7 ปีระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ใน
ทวีปอเมริกาเหนือระหว่าง ค.ศ. 1756-1763 ซึ่งชาวอินเดียแดงเข้าร่วมรบกับทั้ง 2 ฝ่ายมาจนถึงสงครามที่ชาวอินเดีย
แดงต่อต้านการรุกรานดินแดนโดยพวกผิวขาวที่เรียกว่าการบุกเบิกตะวันตกในคริสต์ศตวรรษที่ 19 นั้น ชาวอินเดีย
แดงหลายชนเผ่าแทบจะถูกทำ�ลายไปเกือบหมด ถ้าไม่ตายในสงคราม ก็ติดเชื้อโรคระบาด โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่และ	
โรคฝีดาษที่มากับผู้อพยพชาวผิวขาว จนเสียชีวิต และอีกจำ�นวนหนึ่งก็ถูกจับไปเป็นทาสใช้แรงงาน ทำ�ให้เจ้าของ	
ดนิ แดนทแ่ี ทจ้ รงิ ในสหรฐั อเมรกิ ากลายเปน็ ชนกลมุ่ นอ้ ยและมฐี านะเปน็ พลเมอื งชน้ั 2 ตง้ั แตน่ นั้ มา นอกจากนนั้ วฒั นธรรม	
และวิถีชีวิตของชาวอินเดียแดงยังถูกดูดกลืนจนเกือบหมดสิ้น โดยผ่านทางการศึกษา การอบรมกล่อมเกลาทางสังคม
การด�ำ รงวถิ ชี วี ติ แบบคนส่วนใหญข่ องประเทศซึง่ เป็นชาวผวิ ขาว รปู แบบการเมืองการปกครอง และกฎหมายบ้านเมือง
จนทำ�ให้ชาวอินเดียแดงกลายเป็นชาวอเมริกันผิวสีไปในที่สุด

3. 	 ผลของสงครามด้านเศรษฐกิจ

       ความต้องการและการแข่งขันทางเศรษฐกิจเป็นที่มาของความขัดแย้งและการทำ�สงคราม ในทางกลับกัน
สงครามก็ทำ�ให้เกิดความต้องการทางเศรษฐกิจเช่นกัน การทำ�สงครามจำ�เป็นต้องใช้งบประมาณในการทำ�สงครามจึง
ต้องเอาภาษีของราษฎรส่วนหนึ่งไปใช้เพื่อการทหาร ในยุคกลางของยุโรปนอกจากไพร่ติดที่ดินหรือข้าแผ่นดิน (serf)
จะต้องใช้แรงงานทำ�งานให้แก่เจ้านายและขุนนางในไร่นา ป่าไม้ เหมืองแร่ การขนส่ง หรือหัตถกรรมต่างๆ แล้ว ไพร่
เหลา่ นีย้ งั ตอ้ งเสยี ภาษผี ลผลติ ทีท่ ำ�ไดใ้ หแ้ กท่ างการ เมือ่ ตอ้ งทำ�สงครามกจ็ ะมกี ารเพิม่ อตั ราภาษี ท�ำ ใหร้ าษฎรเดอื ดรอ้ น	
แม้แต่ขุนนางก็ถูกเรียกเก็บภาษีบำ�รุงกองทัพหลวงเพิ่มได้ในยามสงคราม อย่างเช่นกรณีพระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษ	

	 81 The Thirty Years War (1618-48), http://users.erols.com/mwhite28/warstat0.htm#30YrW, (14/8/2553)	
	 82 History of Europe-Demographics, http://www.britannica.com/EBchecked/topic/195896/history_of_Europe/ 58335/
Demographics#ref=310375 (14/8/2553)	
	 83 Thirty Years’ War, http://en.wikipedia.org/wiki/Thirty_Years’_War	
	 84 Russell Thornton, American Indian Holocaust and Survival: A Population History Since 1492, Norman Oklahoma:
University of Oklahoma Press, 1987.	

                             ลขิ สทิ ธข์ิ องมหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช
   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167