Page 209 - สังคมโลก
P. 209

องค์การร​ ะหว่าง​ประเทศ 8-15

สงคราม​กับ​สหภาพ​โซเวียต​และ​รุกราน​โปแลนด์​ซึ่ง​เป็น​ประเทศ​อยู่​ใน​การ​ประกัน​เอกราช​ของ​อังกฤษ​และ​ฝรั่งเศส จึง​
เป็น​สาเหตุ​ให้​ทั้ง​สอง​ประเทศ​ประกาศ​สงคราม​กับ​เยอรมนี​อัน​เป็น​จุด​เริ่ม​ต้น​ของ​ความ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​ประเทศ​และ​
นำ​ไปส​ ู่​สงครามโลกค​ รั้งท​ ี่ 2 และส​ ันนิบาต​ชาติ​ก็ล​ ่มส​ ลายไ​ปใ​นท​ ี่สุด

       ใน​ระหว่างส​ งครามโลกค​ รั้ง​ที่ 2 พันธมิตรเ​ห็นค​ วรจ​ ัด​ตั้งส​ หประชาชาติ (United Nations) ซึ่ง​เป็น​องค์การ​
ระหว่าง​ประเทศ​ระดับ​สากล​ขึ้น​มา​ใหม่​เพื่อ​เป็น​หลัก​ประกัน​ใน​การ​รักษา​สันติภาพ​ของ​โลก​อีก​ครั้ง สหประชาชาติ​ถือ​
ได้ว​ ่า​เป็นก​ ลไก​ของก​ ารแ​ สวงหา​สันติภาพ สร้างค​ วามย​ ุติธรรม และ​สร้าง​ความเ​ป็นร​ ะเบียบ​เรียบร้อย รวม​ถึง​ยก​ระดับ​
ความก​ ินด​ ีอ​ ยู่ดีข​ องป​ ระชากรโ​ลกใ​นด​ ้านเ​ศรษฐกิจแ​ ละส​ ังคม เพราะเ​ชื่อว​ ่าห​ ากป​ ระชากรโ​ลกม​ ีค​ วามอ​ ยู่ดีก​ ินด​ ีแล้วก​ ็จ​ ะ​
ช่วย​ให้ค​ วามข​ ัด​แย้งเ​กิด​ขึ้นไ​ด้​ยากข​ ึ้นด​ ้วย

       พัฒนาการ​ของ​สหประชาชาติ​มี​จุด​เริ่ม​ต้น​จาก​ประธานาธิบดีร​ ูสเวลท์ (Franklin Delano Roosevelt) ของ​
สหรัฐอเมริกา และ​นายก​รัฐมนตรีวิน​ส​ตัน เชอ​ร์​ชิล (Winston Churchill) ของ​อังกฤษ​ร่วม​กันลง​นาม​ใน​กฎบัตร​
แอตแลนติก (Atlantic Charter) ใน​ปี 1941 บนเ​รือ​ออ​กุ​สต​ า (Augusta) ซึ่ง​กำหนด​หลักก​ ารข​ อง​การ​อยู่​ร่วม​กัน และ​
กฎบัตร​นี้​ก็ได้​รับ​การ​ปรับปรุง​แก้ไข​ให้​สมบูรณ์​ยิ่ง​ขึ้น​และ​ได้​ผนวก​เข้า​ไว้​ใน​กฎบัตร​สหประชาชาติ (United Nations
Declaration) ซึ่ง​ได้​มี​การ​ลง​นาม​ใน​ปี 1942 โดย​รัฐ​ต่างๆ อีก 26 รัฐ​ที่​รวม​ทำ​สงคราม​กับ​เยอรมนี อิตาลี และ​ญี่ปุ่น
ซึ่งต​ ่อม​ าม​ รี​ ัฐอ​ ีก 21 รัฐเ​ข้าร​ ่วมส​ มทบใ​นภ​ ายห​ ลัง24 ต่อม​ าไ​ดม้​ กี​ ารล​ งน​ ามใ​นป​ ฏิญญาม​ อสโคว์ (Moscow Declaration)
โดย​รัฐมนตรี​ต่าง​ประเทศ​ของ​สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และ​สหภาพ​โซเวียต​ใน​ปี 1943 ซึ่ง​ใน​ปฏิญญา​นี้​กำหนด​ไว้​ว่า
“ประเทศ​ที่​ร่วม​ลง​นาม​ผูกพัน​ที่​จะ​ตั้ง​องค์การ​ระหว่าง​ประเทศ​อย่าง​เร็ว​ที่สุด​เท่า​ที่​จะ​ทำได้ เพื่อ​รับ​ผิด​ชอบ​ใน​การ​คง​ไว้​
ซึ่ง​สันติภาพ​และ​ความ​มั่นคง​ระหว่าง​ประเทศ”25 นอก​จาก​นี้​ปฏิญญา​ฉบับ​นี้​ได้​กำหนด​แนว​ทา​งก​ว้างๆ ใน​การ​ก่อ​ตั้ง​
องค์การ​สหประชาชาติไ​ว้​อีก​ด้วย หลัง​จาก​นั้น​สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน และ​สหภาพ​โซเวียต​ร่วม​ประชุม​ร่าง​กฎบัตร​
องค์การ​สหประชาชาติ​ขึ้น​ที่​เมือ​งดัม​บา​ตัน โอคส์ (Dumbarton Oaks) ใน​ปี 1944 เมื่อ​ที่​ประชุม​ร่าง​กฎบัตร​เสร็จ​
ก็ได้น​ ำ​เสนอ​ต่อ​ที่​ประชุม​ที่​เมือง​ยัล​ตา (Yalta Conference) ใน​รัฐอ​ ูเ​ครน​ของ​สหภาพโ​ซเวียต​ในป​ ี 1945 ซึ่งท​ ั้งส​ อง​ที่​
ประชุมฝ​ รั่งเศสไ​ม่​ได้เ​ข้า​ร่วม​ประชุม​ด้วย​เนื่องจากร​ ัฐบาลช​ ั่วคราว​ของ​ฝรั่งเศส​ภาย​ใต้​การนำข​ อง​นายพ​ ล​ฟิ​ลิปป์ เปแ​ ตง
(marèchal Philippe Pètain) นั้นย​ ังไ​มไ่​ดร้​ ับก​ ารร​ ับรอง จนก​ ระทั่งเ​ดือนต​ ุลาคม 1944 รัฐบาลฝ​ รั่งเศสไ​ดร้​ ับก​ ารร​ ับรอง​
จาก​สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สหภาพ​โซเวียต​และ​ประเทศ​ต่างๆ ใน​ที่​ประ​ชุม​ยัล​ตา​ได้​มี​การ​พิจารณา​และ​แก้ไข​เพิ่ม​เติม​
ร่าง​กฎบัตร​สหประชาชาติ​จาก​ที่​ประ​ชุ​มดัม​บา​ตัน โอคส์​ใน​เรื่อง​การ​ออก​เสียง​ใน​คณะ​มนตรี​ความ​มั่นคง​ซึ่ง​ให้​อำนาจ​
คณะ​มนตรี​ความ​มั่นคง​ใน​สิทธิ​ยับยั้ง (Veto) ของ​มหาอำนาจ​ทั้ง​สาม​คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และ​สหภาพ​โซเวียต
หลังจ​ าก​นั้น​ใน​วัน​ที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1945 มี​การ​ประชุม​พิจารณา​จัด​ตั้งอ​ งค์การ​ระหว่าง​ประเทศใ​นร​ ะดับส​ ากล​ขึ้น​ที่​
เมืองซ​ านฟ​ ร​ านซ​ สิ​ โ​ก (San Francisco Conference) โดยม​ รี​ ัฐต​ ่างๆ ทั่วโ​ลกเ​ข้าร​ ่วมจ​ ำนวน 50 รัฐ และไ​ดร้​ ่วมล​ งน​ ามใ​น​
กฎบัตรส​ หประชาชาติ (Charter of the United Nations) ซึ่งก​ ฎบัตรด​ ัง​กล่าวน​ ี้​ได้​รับ​การ​ให้​สัตยาบัน (Ratification)
โดย 5 มหาอำนาจ​ผู้​ชนะสงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 คือ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ สหภาพ​โซเวียต และ​จีน และ​
มีผ​ ล​บังคับใ​ช้​ในอ​ ีก 6 เดือน​ต่อ​มา​ใน​วันท​ ี่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1945 ซึ่ง​ถือว่าเ​ป็นว​ ัน​สหป​ ระชาต​ ิ มีส​ ำนักงาน​ใหญ่ต​ ั้ง​อยู่​
ที่ก​ รุงน​ ิวยอร์ก โดยม​ ี​หลักก​ ารข​ องก​ ารอ​ ยู่ร​ วมก​ ันแ​ ละค​ วามร​ ่วมม​ ือ​ระหว่างป​ ระเทศเ​พื่อส​ ร้างส​ ันติภาพแ​ ละค​ วามเ​จริญ​
ก้าวหน้าใ​น​ด้าน​ต่างๆ ที่​เป็น​ประโยชน์​สุขก​ ับส​ ังคม​โลก​เรื่อย​มาจ​ นถึงป​ ัจจุบัน

         24 สมพงศ์ ชู​มาก อ้างแ​ ล้ว หน้า 67
         25 เพิ่งอ​ ้าง หน้า 68

                              ลขิ สทิ ธิข์ องมหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช
   204   205   206   207   208   209   210   211   212   213   214