Page 22 - สังคมโลก
P. 22

3-20 สังคมโ​ลก

เรือ่ งท​ ่ี 3.2.1
ความห​ ลากห​ ลาย​ว่า​ดว้ ยแ​ นวคิดอ​ งค​ป์ ระกอบข​ อง​รฐั

       หลังจ​ ากท​ ี่ไ​ด้เ​ห็นภ​ าพข​ องก​ ารก​ ำเนิดข​ ึ้นข​ องร​ ัฐส​ มัยใ​หม่จ​ ากเ​หตุการณท์​ างป​ ระวัติศาสตรแ์​ ล้ว ในเ​รื่องน​ ี้จ​ ะเ​ข้า​
สูค่​ ำถามท​ ีเ่​รียกว​ ่า รฐั ส​ มยั ใ​หมค​่ อื อ​ ะไร ภาพร​ ัฐส​ มัยใ​หมท่​ ีไ่​ดเ้​ห็นใ​นป​ ระวัติศาสตรน์​ ั้นค​ ืออ​ งค์การท​ างการเ​มืองช​ นิดห​ นึ่ง​
ที่​มี​อำนาจ​ครอบคลุม​พื้นที่ แล้ว​คำถาม​ที่​จะ​ควร​ถาม​ต่อ​ไป​ก็​คือ องค์การ​ทางการ​เมือง​นี้​มี​ความ​แตก​ต่าง​จาก​องค์การ​
ทางการ​เมือง​อื่นอ​ ย่างไ​รๆ แล้วเ​ราจ​ ะอ​ าศัย​สิ่งใ​ดใ​น​การจ​ ำแนก

       คำถาม​ว่า “รัฐ” คือ​อะไร​นั้น​เป็น​คำถาม​ที่​เก่า​แก่​และ​มี​ความ​สำคัญ​เป็น​อย่าง​มาก​ใน​ทาง​รัฐศาสตร์​และ​ใน
​ความค​ ิดท​ างการ​เมือง เช่นเ​ดียว​กับค​ ำ​ที่ม​ ี​ความ​สำคัญ​ใน​ทางร​ ัฐ​ศาสตร์อ​ ื่นๆ เช่น คำว​ ่า “ความ​ยุติธรรม” “การเมือง”
“สัญญา​ประชาคม” ฯลฯ มีก​ าร​ให้ค​ วาม​หมายข​ อง​คำว​ ่า “รัฐ” ไว้​แตกต​ ่าง​กันเ​ป็น​จำนวนม​ าก22 ซึ่ง​เกิด​จากม​ ุม​มองร​ ัฐ
​ที่แ​ ตกต​ ่าง​กัน เพื่อ​แสดง​ให้เ​ห็นถ​ ึงค​ วามแ​ ตกต​ ่าง​ดังก​ ล่าว​และผ​ ลข​ อง​ความ​แตกต​ ่าง​นี้ ใน​ส่วนน​ ี้จ​ ึงจ​ ะก​ ล่าวถ​ ึงค​ วาม​คิด​
ว่า​ด้วยร​ ัฐ

ความค​ ิด​ว่าด​ ว้ ย​รัฐ

       สิ่ง​ที่​ทำให้​ความ​หมาย​ของ​รัฐ​มี​ความ​แตก​ต่าง​กัน​มาก​ที่สุด​เกิด​ขึ้น​จาก​ความ​คิด​ว่า​ด้วย​รัฐ​ที่​แตก​ต่าง​กัน ทั้ง​
ในช​ ่วง​เวลา​และ​บริบท​ทาง​สังคมท​ ี่ต​ ่าง​กัน ทั้งๆ ที่ค​ ำ​ว่า “รัฐ” เป็น​คำท​ ี่ใ​ช้​แทน​คำ​ว่า State ใน​ภาษาอ​ ังกฤษ คำท​ ั้งส​ อง
​ดัง​กล่าว​ก็​มี​ที่มา​และ​บริบท​ที่​แตก​ต่าง​กัน​ทั้ง​แง่​ช่วง​เวลา​และ​พื้นที่ แต่​กลับ​สามารถ​ใช้​ชี้​ถึง​องค์การ​ทางการ​เมือง​ที่​มี​
รูปแ​ บบ​เฉพาะ ดังน​ ั้น เ​พื่อใ​ห้​เห็นถ​ ึง​ความส​ ลับซ​ ับซ​ ้อน​ของ “รัฐ” และ State จึงจ​ ะก​ ล่าว​ถึงใ​น 2 ประเด็น คือ ประเด็น​
ที่​หนึ่ง จะ​กล่าว​ถึงที่​มา​ของ​คำ ความ​แตก​ต่าง​ของ​ความ​หมาย​และ​ใน​ที่สุด​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คำ​ที่มา​จาก​บริบท​ที่​
แตกต​ ่าง​กัน​รวม​กัน​เป็น​คำ​เดียว​ว่า “รัฐ” ได้​อย่างไร ประเด็น​ที่ 2 แนวคิด​ที่​หลากห​ ลายข​ องอ​ งค์ป​ ระกอบ​ของ​รัฐ

“State” และ “รัฐ”

       หาก​สิ่ง​ที่​ศึกษา​อยู่​คือ​แนวคิด​ที่​หลาก​หลาย​เกี่ยว​กับ​รัฐ และ​คำ​ว่า “รัฐ” แปล​มา​จาก​คำ​ว่า State เพื่อ​ให้​
เกิด​ความ​เข้าใจ​คำ​ว่า “รัฐ” ควร​ทำความ​เข้าใจ​ที่มา​และ​ความ​หมาย​ของ​คำ​ว่า State ที่​ใช้​ใน​ปัจจุบัน และ​รวม​ถึง​
ความแ​ ตกต​ ่าง​ด้าน​ประวัติ​ความ​เป็น​มาข​ อง State กับ “รัฐ” ในภ​ าษาไ​ทย

       หาก​พิจารณา​ที่มา​และ​ราก​ศัพท์​ของ​คำ​ว่า State แล้ว​จะ​พบ​ว่า​คำ​นี้​มี​ที่มา​จาก​ภาษา​ละติน​ว่า stare แปล​ว่า
“การ​ยืน” และ status แปล​ว่า “ตำแหน่ง” หรือ “สถานะ” Status มี​นัย​ถึง​ความ​มั่นคง​หรือ​ถาวร ที่​สืบทอด​มา​จาก​
คำ​ว่า estate แปล​ว่า “ฐานันดร” หรือ “ทรัพย์​สมบัติ” ซึ่ง​เป็น​ที่มา​ของ​คำ​ว่า state อีก​ที​หนึ่ง23 หาก​พิจารณา​จาก
ข​ ้อเ​ท็จจ​ ริงท​ างป​ ระวัติศาสตร์ การค​ รอบค​ รองท​ รัพยส์​ มบัตกิ​ ับฐ​ านันดรเ​ป็นส​ ิ่งท​ ีส่​ อดคล้องก​ ัน ดังจ​ ะเ​ห็นไ​ดจ้​ ากใ​นย​ ุโรป​
ตะวันต​ ก​สมัย​กลาง มี​การก​ ำหนด​ฐานันดร​ออกเ​ป็น 4 ประเภท คือ กษัตริย์ ขุนนาง พระ และส​ ามัญช​ น โดยพ​ ิจารณา

         22 โปรดด​ ู Peter J. Steinberger, The Idea of the State, Cambridge: Cambridge University Press, 2004, pp. 8-13.
         23 Christophe W. Morris, “The Modern State,” p. 197. โปรดด​ คู​ วามเ​ห็นใ​นล​ ักษณะเ​ดียวกันน​ ีใ้​น Andrew Vincent, “Concep-
tions of the State,” in Encyclopedia of Government and Politics, vol. 1, eds. Mary Hawkesworth and Maurice Kogan. London:
Routledge, 2002, p. 43. และใ​น Michael Oakeshott, Lectures in the History of Political Thought. Exeter: Imprint Academic,
2007, pp. 361-362.

                             ลขิ สทิ ธข์ิ องมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27