Page 282 - สังคมโลก
P. 282

10-42 สังคมโลก

ในก​ ารด​ ำเนินก​ ิจกรรมข​ องข​ บวนการใ​ห้ป​ ลอดจ​ ากก​ ารแ​ ทรกแซงโ​ดยร​ ัฐ และย​ ังเ​ป็นการส​ ร้างค​ วามเ​ชื่อม​ ั่นต​ ่อป​ ระชาชน​
ทั่วไปว​ ่า​ขบวนการข​ องต​ น​ไม่​ได้ส​ นับสนุน​หรือ​ชื่น​ชอบ​พรรคการเมือง​ใด​เป็นพ​ ิเศษ

       2. 	ลักษณะ​ที่​เป็นการ​ระดม​สรรพ​กำลัง​จาก​ราก​หญ้า (grass-roots mobilization) หรือ​แบบ​ปรปักษ์​ต่อ​กัน
ขบวนการเ​คลื่อนไหว​ภาค​ประชา​สังคม​ที่​ยอมรับ​ลักษณะ​ความ​สัมพันธ์​แบบน​ ี้​จะ​ให้​ความ​สำคัญ​ต่อ​การ​วิพากษ์ว​ ิจารณ์​
นโยบายข​ องร​ ัฐ โดยเ​ฉพาะก​ ารต​ รวจส​ อบค​ ัดค้านก​ ารใ​ชอ้​ ำนาจข​ องก​ ลไกร​ ัฐใ​นเ​รื่องท​ ีเ่​กี่ยวก​ ับว​ ิถชี​ ีวิตข​ องป​ ระชาชน และ​
โดยป​ กตขิ​ บวนการแ​ บบน​ ีจ้​ ะร​ ังเกียจก​ ารเ​ข้าไปม​ สี​ ่วนร​ ่วมก​ ับก​ ิจกรรมก​ ับก​ ลไกร​ ัฐ และย​ ืนยันค​ วามเ​ป็นอ​ ิสระจ​ ากร​ ัฐ เช่น
การ​ไม่ร​ ับ​งบ​ประมาณ​จากร​ ัฐ การม​ ีโ​ครงสร้างก​ ารท​ ำงานท​ ี่​เป็น​อิสระแ​ ละแ​ ยก​ขาดจ​ ากโ​ครงสร้างร​ ัฐ แต่บ​ าง​กรณี​ก็อ​ าจ​มี​
ความร​ ่วม​มือ​กันบ​ ้าง เช่น ความ​ร่วมม​ ือใ​น​การ​แก้ป​ ัญหาก​ ารข​ าดแคลน​น้ำแ​ ละก​ ารจ​ ัดการ​ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
ขบวนการ​แบบน​ ี้จ​ ะใ​ห้​ความ​สำคัญ​ต่อก​ าร​รวม​กลุ่ม​จัดต​ ั้ง​ของ​ประชาชนใ​นร​ ะดับ​รากห​ ญ้า​เป็นอ​ ย่างม​ าก

       3. 	ลักษณะท​ เี​่ ป็นการเ​สรมิ ส​ ร้างค​ วามเ​ข้มแ​ ขง็ จ​ ากป​ ระชาชนร​ ะดบั ล​ ่าง (empowerment from below)  ขบวน-
การเ​คลื่อนไหว​ภาค​ประชา​สังคม​ที่ม​ ี​ลักษณะแ​ บบน​ ี้​จะเ​ชื่อ​ว่าการเ​ปลี่ยนแปลง​ทางส​ ังคม​และก​ ารเมือง จะ​ขึ้น​อยู่​กับ​การ​
พึ่งต​ นเองข​ องป​ ระชาชนใ​นร​ ะดับท​ ้องถ​ ิ่นม​ ากกว่าก​ ารป​ ฏิรูปเ​ชิงโ​ครงสร้างจ​ ากร​ ัฐบาลร​ ะดับช​ าติ ขบวนการเ​หล่าน​ ี้จ​ ะเ​น้น​
กิจกรรมท​ ี่​เสริม​สร้าง​จิตสำนึกใ​น​การพ​ ิทักษ์ส​ ิทธิข​ อง​ตน สร้าง​ความเ​ชื่อ​มั่น​และท​ ักษะใ​ห้​เกิด​ขึ้น​ใน​หมู่​ประชาชนร​ ะดับ​
ล่าง เพื่อท​ ำให้​ประชาชน​สามารถ​แก้ไขป​ ัญหาข​ องต​ น​ได้​ด้วย​ตนเอง

       อย่างไร​ก็ตาม ยุทธศาสตร์​และ​แนวทาง​การ​เคลื่อนไหว​ทางการ​เมือง​ย่อม​ขึ้น​อยู่​กับ​บริบท​ภายใน​พื้นที่ ภาวะ​
ปัจจุบัน​ที่​บรรยากาศ​ทางการ​เมือง​ค่อน​ข้าง​มี​เสรีภาพ แต่​ประชาชน​ประสบ​ปัญหา​จาก​วิกฤต​เศรษฐกิจ และ​มี​ความ
ข​ ัด​แย้ง​กับร​ ัฐ​เรื่องก​ ารจ​ ัดการ​ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ ป่า และ​พลังงาน เป็นต้น ขบวนการจ​ ะ​ให้​ความส​ ำคัญก​ ับ​
การส​ รา้ งค​ วามเ​ขม้ แ​ ขง็ ข​ องภ​ าคป​ ระชาชนเ​พือ่ ต​ อ่ ร​ องก​ บั ภ​ าคร​ ฐั หรอื ล​ ดท​ อนอ​ ำนาจร​ ฐั ท​ เี​่ ขา้ ไปม​ ผ​ี ลกร​ ะท​ บก​ บั ว​ ถิ ช​ี วี ติ แ​ ละ​
ความเ​ป็นอ​ ยูข่​ องป​ ระชาชน หลายข​ บวนการเ​ริ่มต​ ั้งค​ ำถามต​ ่อร​ ะบบป​ ระชาธิปไตยแ​ บบต​ ัวแทน และเ​น้นก​ ลุ่มเ​ป้าห​ มายท​ ี​่
ประชาชนร​ ะดับล​ ่าง ซึ่งเ​ป็นเ​หยื่อจ​ ากย​ ุทธศาสตร์ก​ ารพ​ ัฒนาป​ ระเทศห​ ลายข​ บวนการเ​ริ่มน​ ำเ​สนอย​ ุทธศาสตรก์​ ารพ​ ัฒนา​
ประเทศแ​ บบใ​หมท​่ มี​่ ผ​ี ลต​ อ่ ก​ ารเ​ปลีย่ นแปลงเ​ชงิ โ​ครงสรา้ งเ​พือ่ แ​ กไ้ ขป​ ญั หาค​ วามไ​มเ​่ ทา่ เ​ทยี ม และส​ รา้ งด​ ลุ อำนาจร​ ะหวา่ ง​
กลุ่มต​ ่างๆ ใน​สังคม โดย​ยืนอ​ ยู่​บน​พื้น​ฐาน​ความเ​ชื่อ​ที่​ว่า การ​มี​ส่วนร​ ่วม​ทางการเ​มือง​ของ​ประชาชนอ​ ยู่​ที่ป​ ระชาชนต​ ้อง​
มี​ส่วนร​ ่วม​ในก​ าร​กำหนด​อธิบาย และ​ดำเนิน​นโยบาย​ที่เ​กี่ยวพ​ ัน​กับ​วิถีช​ ีวิต​ของต​ น

       แนวคิด​เรื่อง​การเมือง​ภาค​ประชาชน​สามารถ​อธิบาย​ได้​จาก​แนวคิด​เรื่อง​พื้นที่ หรือ​อาณา​บริเวณ​สาธารณะ
(public sphere) โดย​พื้นที่​ทางการ​เมือง​ถือ​เป็น​อาณา​บริเวณ​สาธารณะ​ที่​รัฐ​โดย​ระบบ​ราชการ​เป็น​ผู้​กำหนด​นโยบาย​
เพียงผ​ ู้เ​ดียว นอกเ​หนือจ​ ากพ​ ื้นที่ข​ องร​ ัฐเ​ป็นพ​ ื้นที่ข​ องป​ ัจเจกช​ นท​ ี่ถ​ ูกก​ ำหนดไ​ว้ใ​นร​ ะบบค​ วามร​ ู้สึกน​ ึกคิดข​ องป​ ระชาชน​
วา่ พลเมอื งท​ ดี​่ ค​ี วรท​ ำเ​ฉพาะห​ นา้ ทีข​่ องต​ นใ​หด​้ เ​ี ทา่ นัน้ ภาระแ​ ละพ​ นั ธก​ จิ ท​ อี​่ ยนู​่ อกเ​หนอื จ​ ากพ​ ืน้ ทีข​่ องป​ จั เจกช​ นน​ ัน้ ใ​หอ​้ ย​ู่
ในก​ ารจ​ ดั การข​ องร​ ฐั แมต้​ ่อม​ าไ​ดย้​ อมรบั ภ​ าคธ​ ุรกิจเ​อกชนใ​หเ้​ขา้ ม​ าม​ บี​ ทบาทใ​นพ​ ืน้ ทีท่​ างการเ​มอื ง ซึ่งถ​ ือเ​ป็นการย​ อมรบั ​
อย่างเ​ป็นท​ างการข​ องก​ ารก​ ำหนดน​ โยบายส​ าธารณะ​ที่มาจ​ ากก​ ลุ่มพ​ ลังน​ อกร​ ะบบ​ราชการ และน​ อกร​ ะบบ​ประชาธิปไตย​
แบบต​ ัวแทน แต่ “ภาคเ​อกชน” ที่ว​ ่าน​ ี้ม​ ีค​ วามห​ มายแ​ ค่ต​ ัวแทนข​ องก​ ลุ่มท​ ุนข​ นาดก​ ลางแ​ ละใ​หญ่เ​ท่านั้น รัฐย​ ังไ​ม่ย​ อมรับ​
ความพ​ ยายามท​ ี่​จะ​เข้าไป​กำหนด​นโยบาย​สาธารณะ​ของภ​ าค​ประชาชน

       ข้อ​จำกัด​ของ​ระบบ​การเมือง​และ​บรรยากาศ​ทางการ​เมือง​ที่​ประชาชน​ไม่​สามารถ​สื่อสาร​กับ​รัฐ​ได้​นำ​ไป​สู่​การ​
เคลื่อนไหวท​ างส​ ังคมแ​ บบ​ใหม่เ​กี่ยวก​ ับพ​ ื้นที่ท​ างการ​เมือง ได้แก่ ปฏิบัติ​การท​ างการเ​มือง​ลักษณะใ​หม่ๆ หลายป​ ระการ
โดย​การใ​ช​ค้ ำว​ า่ “การเมอื งภ​ าค​ประชาชน” ซง่ึ ห​ มายถ​ งึ ​พน้ื ท​ท่ี างการเ​มอื ง​ใหม​ท่ ​เ่ี กดิ ข​ น้ึ ​กบั ส​ งั คม​ไทย เปน็ พ​ น้ื ท​ท่ี างการ เมอื ง
ท​ ีเ่​ปิดใ​หก้​ ลุ่มค​ นห​ ลากห​ ลาย เป็นการเ​คลื่อนไหวใ​นป​ ระเด็นป​ ัญหาใ​หม่ๆ ทีแ่​ ตกต​ ่างไปจ​ ากก​ ารเ​คลื่อนไหวท​ างการเ​มือง​
ในล​ ักษณะ​เดิมข​ องข​ บวนการ​นักศึกษา กรรมการ และช​ าวนา ในช​ ่วงห​ ลัง 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 แต่เ​ป็นการ​เคลื่อนไหว​

                             ลิขสทิ ธ์ขิ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช
   277   278   279   280   281   282   283   284   285   286   287