Page 287 - สังคมโลก
P. 287

ขบวนการเคลื่อนไหวภาคประชาสังคมในสังคมโลก 10-47

       ปญั หา​ที​่เปน็ ป​ จั จัยภ​ ายนอกท​ ​ี่ฝงั ​ราก​ลึก​มา​ยาวนาน อาทิ
       1. 	ทัศนคติข​ อง​ผู้​มี​อำนาจ ทั้ง​รัฐบาล ข้าราชการ และผ​ ู้​มีอ​ ำนาจใ​นก​ ารแ​ ก้ไข​ปัญหา มีท​ ัศนคติ​ที่​ไม่​ค่อย​ดี​ต่อ​
ขบวนการ​เคลื่อนไหว​ภาค​ประชา​สังคมว​ ่าเ​ป็นกล​ ุ่ม​ที่ส​ ร้าง​ปัญหาใ​ห้​แก่บ​ ้านเ​มือง จึง​ต้อง​ปรับ​ทัศนคติข​ องผ​ ู้​มี​อำนาจ​ทั้ง​
หลายใ​นก​ ารแ​ กไ้ ขป​ ญั หา ตอ้ งศ​ กึ ษาท​ ำความเ​ขา้ ใจก​ บั ป​ ญั หา ซึง่ ท​ ำไดโ​้ ดยก​ ารร​ บั ฟ​ งั ค​ วามค​ ดิ เ​หน็ ข​ องผ​ อู​้ ืน่ โดยเ​ฉพาะต​ อ้ ง​
รู้จักท​ ีจ่​ ะเ​รียนร​ ู้ ระดมค​ วามค​ ิด ระดมก​ ารม​ สี​ ่วนร​ ่วมจ​ ากป​ ระชาชน มิใช่ใ​ช้ว​ ิธคี​ ิดแ​ บบเ​จ้าน​ าย รวมศ​ ูนย์ สั่งก​ าร แบบเ​ดิม
       2. 	รัฐบาล และ​ผู้​มี​อำนาจ​ใน​การ​แก้ไข​ปัญหา ขาด​การ​สร้าง​จิตสำนึก​ใน​เรื่อง​สิทธิ​มนุษย​ชน สิทธิ​ชุมชน
รวม​ทั้ง​การ​อนุรักษ์​ทรัพยากรธรรมชาติ และ​สภาพ​แวดล้อม มอง​ชาว​บ้าน​เป็น​คน​โง่​เง่า​เต่า​ตุ่น การ​พัฒนา​ต้อง​มา​จาก
ข​ ้างบ​ น ประชาชนไ​ม่มีส​ ิทธิ โดยเ​ฉพาะค​ นจนต​ ้องเ​ป็นผ​ ู้เ​สียส​ ละเ​พื่อก​ ารพ​ ัฒนา ทรัพยากรต​ ้องใ​ห้น​ ายทุน และพ​ วกพ​ ้อง​
ตัว​เอง ชุมชน​ไม่มีส​ ิทธิเ​พราะ​ไม่ส​ ามารถ​คำนวณ​เป็น​ตัวเ​งินได้ ดังน​ ั้น​ต้องส​ ร้าง​จิตสำนึก​ในห​ มู่​ผู้​มีอ​ ำนาจ และ​ประชาชน​
ทัง้ ช​ าติ ใหต​้ ระหนกั ถ​ งึ ส​ ทิ ธม​ิ นษุ ยช​ น สทิ ธช​ิ มุ ชน และก​ ารอ​ นรุ กั ษท​์ รพั ยากรธรรมชาติ สิง่ แ​ วดลอ้ ม รวมท​ ัง้ ความส​ มั พนั ธ​์
ระหว่าง​มนุษย์​กับธ​ รรมชาติ ที่จ​ ะ​ต้องพ​ ึ่งพา อาศัยซ​ ึ่งก​ ันแ​ ละ​กัน โดยเ​ฉพาะ​ผู้นำ​ประเทศ ต้อง​ให้​ความ​สำคัญแ​ ละ​เป็น​
ผู้นำ​ในก​ าร​อนุรักษ์ รวม​ทั้งส​ นับสนุน​งบ​ประมาณ​ใน​การอ​ นุรักษ์​ทรัพยากรธรรมชาติ และส​ ภาพแ​ วดล้อม ระดม​การ​ม​ี
ส่วนร​ ่วมข​ องป​ ระชาชน ในก​ ารช​ ่วยห​ นุนเ​สรมิ เ​จ้าห​ น้าทีท​่ ีร​่ ับผ​ ิดช​ อบห​ ลกั รณรงคเ​์ ผยแ​ พร่ ใหป้​ ระชาชนเ​ขา้ ใจก​ ารอ​ นุรักษ​์
ทรัพยากรธรรมชาติ​และส​ ภาพแ​ วดล้อม
       3. 	การ​รวม​ศูนย์​อำนาจ​อยู่​ที่​ส่วน​กลาง การ​ตัดสิน​ใจ​ยัง​คง​อยู่​ที่​ส่วน​กลาง โดย​เฉพาะ​รัฐบาล กระทรวง
ทบวง กรม ทำให้​ไม่​สามารถ​แก้ไข​ปัญหา​ท้อง​ถิ่น​ได้ จึง​มี​ปรากฏการณ์​การ​มา​ชุมนุม​เรียก​ร้อง ที่​หน้า​ทำเนียบ​รัฐบาล​
อย่างไ​ม่​ขาด​สาย ดัง​นั้น จึงต​ ้องร​ ่วมก​ ัน​ผลัก​ดัน ให้​เกิดก​ ารกร​ ะ​จาย​ อำน​ าจส​ ู่​ท้องถ​ ิ่น การกร​ ะ​จาย​ อำ​นาจใ​น​การจ​ ัดการ​
ทรัพยากรธรรมชาติ ให้ท​ ้องถ​ ิ่น ให้ป​ ระชาชน ชุมชน มีส​ ่วนร​ ่วมใ​นก​ ารป​ กป้อง พิทักษ์ร​ ักษา ทรัพยากร ให้ส​ ิทธิก​ ับช​ ุมชน​
ใน​การด​ ูแล ช่วยบ​ ำรุง​รักษาป​ กป้อง การท​ ำลาย​ทรัพยากรธรรมชาติ ปฏิรูป​ระบบร​ าชการ​ให้ม​ ี​ประสิทธิภาพ
       4. 	รัฐบาล  และผ​ มู้​ อี​ ำนาจใ​นก​ ารแ​ กไ้ ขป​ ัญหา  ไมม่ นี​ โยบาย กำหนดก​ รอบ แนวทาง มาตรการ วธิ กี​ าร ใหช้​ ดั เจน
ในก​ ารแ​ ก้ไขป​ ัญหา ในท​ างก​ ลับก​ ันห​ ากเ​ป็นเ​รื่องข​ องค​ นรวย รัฐบาลแ​ ละผ​ ู้ม​ ีอ​ ำนาจ มักจ​ ะม​ ีนโ​ยบ​ าย มีก​ ารก​ ำหนดก​ รอบ
แนวทาง มาตรการ วิธีก​ าร​ที่ช​ ัดเจน​เป็น​ระบบ ใน​การแ​ ก้ไข​ปัญหา และ​ยัง​ออก​กฎหมาย​เร่ง​ด่วน ดัง​นั้น รัฐบาล​และผ​ ู้​มี​
อำนาจ ต้อง​มี​แนวน​ โยบาย​ที่​ชัดเจน ใน​การแ​ ก้ไข​ปัญหา มีก​ าร​กำหนด​กรอบ แนวทาง มาตรการ วิธี​การ ให้​ชัดเจน ให้​
สอดคล้อง​กับส​ ภาพ​ข้อ​เท็จ​จริงข​ องช​ ุมชน สอดคล้อง​กับข​ นบธรรมเนียมป​ ระเพณีข​ อง​แต่ละ​ชุมชน รวมท​ ั้งม​ ี​มาตรการ​
ทางก​ ฎหมาย การแ​ ก้ไข​กฎหมาย หรืออ​ อกก​ ฎหมาย ที่จ​ ะ​นำไ​ป​สู่​การแ​ ก้ไขป​ ัญหา รวมท​ ั้งเ​อาผิดก​ ับผ​ ู้ก​ ระทำ​ผิดอ​ ย่าง​
จริงจัง ไม่เ​ลือกป​ ฏิบัติ และต​ ้องม​ ีม​ าตรการ​และเ​อาจ​ ริงก​ ับเ​จ้าห​ น้าที่ท​ ี่ส​ มรู้ร​ ่วมค​ ิด ร่วมก​ ระทำผ​ ิด หรือล​ ะเว้นก​ ารป​ ฏิบัต​ิ
หน้าที่
       5. 	รัฐบาล​และ​ผู้​มี​อำนาจ  ยัง​ขาด​คุณธรรม จริยธรรม ยึด​ติด​กับ​อำนาจ ศักดิ์ศรี ผล​ประโยชน์​ของ​ตน​และ​
พวก​พ้อง ดัง​นั้น รัฐบาล และ​ผู้​มี​อำนาจ ต้อง​มี​คุณธรรม จริยธรรม ไม่​เห็น​แก่​อามิส​สิน​จ้าง ไม่​เห็น​แก่​พวก​พ้อง เอา​
ประชาชนแ​ ละส​ ิ่งแ​ วดล้อมเ​ป็นต​ ัวต​ ั้ง ไม่เ​ล่นเ​กมการเมืองจ​ นล​ ืมก​ ารแ​ ก้ไขป​ ัญหาป​ ระชาชน ไม่ค​ อร์รัปชันโ​กงกิน กำหนด​
นโยบาย​และ​กฎหมาย​เพื่อ​ประชาชน​และ​สิ่ง​แวดล้อม อัน​จะ​นำ​ไป​สู่​การ​อยู่​ร่วม​กัน ระหว่าง​มนุษย์​กับ​ธรรมชาติ​อย่าง​
สมดุลแ​ ละ​ผาสุข
       ส่วนอ​ ปุ สรรค ขีดจ​ ำกดั ภายในข​ องข​ บวนการเ​คลือ่ นไหวภ​ าคป​ ระชาส​ งั คม มกั จ​ ะอ​ ยูท​่ ีค่​ วามช​ ัดเจนใ​นเ​ป้าห​ มาย​
ร่วม ภารกิจร​ ่วม เป็นส​ ิ่งส​ ำคัญท​ ีจ่​ ะต​ ้องเ​รียนร​ ู้ และพ​ ึงม​ รี​ ่วมก​ ัน เนื่องจากว​ ่าข​ บวนการเ​คลื่อนไหวภ​ าคป​ ระชาส​ ังคม เป็น​
เครอื ข​ า่ ยใ​หญท่​ รี่​ วมต​ ัวก​ นั ม​ าใ​นร​ ะยะเ​วลาท​ ไี่​มน​่ านน​ กั จึงท​ ำให้ความเ​ข้าใจใ​นเ​ปา้ ห​ มายร​ ่วม ภารกจิ ร​ ่วมย​ ังไ​มก​่ ระจ่างช​ ัด​
มากน​ ัก คงต​ ้องอ​ าศัยร​ ะยะเ​วลาใ​นก​ ารเ​รียนร​ ู้ร​ ่วมก​ ัน สรุปบ​ ทเ​รียนร​ ่วมก​ ันอ​ ันจ​ ะน​ ำไ​ปส​ ู่ค​ วามก​ ระจ่างช​ ัดม​ ากข​ ึ้น หากม​ ​ี
ความช​ ัดเจน และส​ ามารถ​พัฒนา​อย่าง​ต่อ​เนื่องไ​ด้ ก็จ​ ะส​ ามารถส​ ร้าง​พลังใ​นก​ าร​เปลี่ยนแปลง​ได้ มากกว่า​ที่เ​ป็น​อยู่

                              ลิขสทิ ธิ์ของมหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช
   282   283   284   285   286   287   288   289   290   291   292