Page 30 - สังคมโลก
P. 30

3-28 สังคมโ​ลก

                    ความน​ ำ

       หลังจ​ ากท​ ี่ไ​ด้ก​ ล่าวถ​ ึงพ​ ัฒนาการข​ องร​ ัฐจ​ ากแ​ ง่ม​ ุมป​ ระวัติศาสตร์ และอ​ งค์ป​ ระกอบข​ องร​ ัฐจ​ ากน​ ักท​ ฤษฎีต​ ่างๆ
แล้ว ในส​ ่วนน​ ี้​จะ​กล่าว​ถึงแ​ นวคิดข​ องน​ ักท​ ฤษฎีท​ ี่ม​ ี​ต่อร​ ัฐท​ ี่​แตกต​ ่างก​ ัน โดย​แบ่งอ​ อก​เป็น 3 แนวคิด​ใหญ่​คือ เสรีนิยม
มาร์​กซ​ ิ​สม์ และ​สัจนิยม

       แนวคิด​ทั้ง​สาม​ต่าง​กัน​ตรง​ที่​สอง​แนวคิด​แรก​คือ​เสรีนิยม​และ​มาร์​ก​ซิ​สม์​เป็น​แนวคิด​ที่​มี​ขอบเขต​กว้าง​ขวาง​
ไม่ใช่เ​ฉพาะ​แต่ใ​น​เรื่อง​รัฐ​เท่านั้น โดย​ทั้ง​สองแ​ นวคิดไ​ด้​กล่าวถ​ ึง​เป้าห​ มาย​หรือ​ชีวิต​ของ​มนุษย์​ที่​พึง​ปรารถนาเ​ข้า​ไว้ด​ ้วย
ซึ่ง​กิน​ความไ​ป​ถึงก​ ารจ​ ัด​ระเบียบ​ทาง​เศรษฐกิจ การเมือง หรือส​ ังคมเ​พื่อใ​ห้บ​ รรลุเ​ป้าห​ มาย​นั้น ความ​คิด​เรื่องร​ ัฐจ​ ึงเ​ป็น​
เพียง​ส่วน​หนึ่ง​ของ​แนวคิด​ทั้ง​สอง​ข้าง​ต้น ใน​ขณะ​ที่​แนวคิด​สัจนิยม​เป็น​แนวคิด​ใน​ทาง​รัฐศาสตร์​ที่​เกิด​ขึ้น​เพื่อ​อธิบาย​
และ​ทำนายบ​ ทบาท​พฤติกรรมข​ องร​ ัฐ​ว่า​เกิด​ขึ้นบ​ น​พื้น​ฐานข​ องส​ ิ่ง​ใด และ​จะท​ ำอ​ ย่างไร​เพื่อ​บรรลุเ​ป้า​หมายท​ ี่​ต้องการ

       ดว้ ยเ​หตนุ​ ีแ​้ นวคิดเ​รือ่ งร​ ัฐท​ ัง้ 3 แบบจ​ ึงม​ คี​ วามแ​ ตกต​ า่ งก​ นั อ​ ย่างน​ ้อยใ​น 3 ด้านค​ ือ ดา้ นแ​ รก มมุ ม​ องเ​กีย่ วก​ ับร​ ัฐ
ด้าน​ที่​สอง จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​รัฐ และ​ด้าน​ที่​สาม บทบาท​ของ​รัฐ ใน​ด้าน​แรก ใน​ด้าน​มุม​มอง​คือ​ความ​แตก​ต่าง​ระหว่าง​
มุม​มอง​ใน​สิ่ง​ที่​ควร​จะ​เป็น (what ought to be) และ​มอง​จาก​สิ่ง​ที่​เป็น​จริง (what is) ด้วย​ความ​แตก​ต่าง​ใน​ด้าน​
มุม​มอง​นี้​เอง​ที่​เป็น​ตัว​กำหนด​ให้​จุด​มุ่ง​หมาย​และ​บทบาท​ของ​รัฐ​แตก​ต่าง​กัน​ไป​ใน​แต่ละ​แนวคิด ดัง​ที่​จะ​แสดง​ให้​เห็น​
ต่อไ​ ป

เรอื่ งท​ ี่ 3.3.1
เสรีนิยม

       ในเ​รื่องเ​สรีนิยม​จะ​กล่าว​ถึงใ​น 3 ประเด็น คือ 1. พื้น​ฐานแ​ นวคิดแ​ บบเ​สรีนิยม 2. มุม​มอง จุดม​ ุ่ง​หมายแ​ ละ​
บทบาทท​ ี่​มี​ต่อร​ ัฐ และ 3. ปฏิสัมพันธ์​ระหว่าง​รัฐ​ตาม​แนวคิด​เสรีนิยม

พื้นฐ​ านแ​ นวคดิ ​แบบ​เสรนี ิยม

       พื้น​ฐาน​แนวคิด​แบบ​เสรีนิยม​วาง​อยู่​บน​พื้น​ฐาน​ของ​การ​ยอมรับ​ว่า​มนุษย์​เป็น​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​มี​เหตุผล (rational
being) สามารถ​รู้คิด​ได้​ด้วย​ตนเอง จึง​สามารถ​ที่​จะ​ตัดสิน​ใจ​กิจการ​ต่างๆ ได้ การ​มี​เหตุผล​ของ​มนุษย์​ทำให้​มนุษย์​มี​
ความ​รับผ​ ิดช​ อบ​ต่อต​ ัว​เอง รวมถ​ ึง​การ​ออกก​ ฎ​กำหนดต​ นเองไ​ด้31 ยิ่งม​ นุษย์ต​ ัดสิน​ใจ​ได้​ด้วย​ตนเองเ​ท่าใด ธรรมชาต​ิ
ในด​ ้าน​การม​ ี​เหตุผล​นี้จ​ ะ​ยิ่งท​ ำให้ม​ นุษย์เ​ป็น​สิ่งม​ ีช​ ีวิต​ที่​ดีย​ ิ่ง​ขึ้น​เท่านั้น เมื่อ​เป็นเ​ช่น​นี้​การร​ วมต​ ัว​ขึ้น​เป็น​องค์​การใ​ดๆ ที่​
อยู่​นอก​เหนือ​ครอบครัว​จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​จาก​ความ​สมัคร​ใจ​ของ​มนุษย์​ผู้​เป็น​เสรี​นั้น รัฐ​หรือ​องค์การ​ปกครอง​ต่างๆ
จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​ถูก​จัด​ตั้ง​ด้วย​ความ​ยินยอม และ​ต้อง​ตอบ​สนอง​ต่อ​ความ​ต้องการ​อัน​มี​เหตุผล​ของ​สมาชิก​ที่​ก่อ​ตั้ง​องค์การ​
เหล่า​นั้น​ขึ้น

         31 Immanuel Kant. The Moral Law: Kant’s Groundwork of The Metaphysics of Morals, trans. H. J. Paton. London:
Hutchinson University Press, 1969, pp. 76-77.

                    ลขิ สทิ ธ์ิของมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35