Page 134 - การจัดการผลิตไม้ดอกไม้ประดับเชิงธุรกิจ
P. 134
8-74 การจัดการก ารผลิตไม้ดอกไม้ประดับเชิงธ ุรกิจ
แสงด ว้ ยต าขา่ ยล ดแ สงร อ้ ยล ะ 40-60 จงึ น ยิ มเพาะพ นั ธใุ์ นโรงเรอื นซ ึง่ ภ ายในโรงเรอื นเพาะพ นั ธสุ์ ามารถว างผ งั บ อ่ ซ ิเี มนต ์
เรียงเป็นแ ถว เป็นแนวได้ห ลายบ่อแ ละหลายแถวตามข นาดพื้นที่โรงเรือนที่มี
2) เตรยี มว สั ดปุ ลกู วัสดปุ ลูกพ รรณไมน้ ้ำป ระเภทพ ืชโผลเ่หนือน ้ำแ ละพ ืชช ายน ้ำ อาจเป็นด ินผ สม
หรือกรวดข นาดเล็ก ลักษณะดังนี้
(1) ดินผสม นิยมใช้ดินร่วนปนด ินเหนียวผ สมป ุ๋ยคอก โดยในพื้นที่ดิน 1 ตารางเมตรค วร
ผสมปุ๋ยคอก 0.5-1 กิโลกรัม
(2) กรวดขนาดเล็ก ควรใช้กรวดแ ม่น้ำขนาด 2-3 มิลลิเมตร การใช้กรวดเป็นวัสดุปลูกมี
ข้อดี กล่าวคือ ได้ผลผลิตพรรณไม้น้ำที่สะอาดและถอนต้นได้ง่าย เพราะวัสดุปลูกมีลักษณะโปร่ง การผลิตเพื่อการ
ส่งออก จึงนิยมใช้กรวดเป็นว ัสดุป ลูก แต่ม ีข้อเสียเพราะก รวดไม่มีแ ร่ธาตุ จึงต้องใส่ป ุ๋ยเพิ่มเติม
1.1.2 การเตร ยี มต น้ พ นั ธ ุ์ ต้นพ นั ธุพ์ ชื โผลเ่หนือน ำ้ ห รอื พ ืชช ายน ำ้ ส ่วนใหญไ่ ดจ้ ากก ารแ ยกก อ แยกห น่อ
แยกหัว ใช้ต้นอ ่อนจ ากการช ำยอดหรือลำต้นพืช และเพาะเมล็ด ขึ้นกับชนิดพืช ถ้าใช้ส่วนย อดหรือลำต้นค วรเด็ดใบ
โคนก ิง่ อ อกเพือ่ ใหเ้ ปน็ ส ว่ นท รี่ ากส ามารถแ ตกแ ละเจรญิ เตบิ โตได้ ตน้ พ นั ธทุ์ เี่ ลอื กค วรเปน็ ตน้ ท แี่ ขง็ แ รงส มบรู ณส์ ามารถ
เจริญเติบโตต่อได้ดี
1.1.3 การป ลกู กอ่ นป ลกู ค วรเตมิ น ำ้ ใหว้ สั ดปุ ลกู ช ุม่ แลว้ ค ราดด นิ ห รอื ก รวดใหเ้ รยี บ วธิ กี ารป ลกู ป ฏบิ ตั ิ
เช่นเดียวกับการปลูกพืชทั่วไป โดยขุดหลุมให้มีขนาดกว้างพอประมาณ จากนั้นวางต้นพันธุ์ลงในหลุมใส่ดินบริเวณ
โคนต ้น กรณีที่ต้นพ ันธุ์เป็นก อ หน่อ หรือหัว ควรก ดดินร อบๆ เพื่อให้ต้นพ ันธุ์ที่ปลูกใหม่ตั้งตรงได้ สุดท้ายในระยะ
แรกค วรเพิ่มการพรางแ สงและให้น ้ำวันละห ลายๆ ครั้ง
1.1.4 การให้น้ำ การผลิตพรรณไม้น้ำเชิงธุรกิจในโรงเรือนนิยมติดตั้งระบบให้น้ำแบบหยดหรือแบบ
พ่นฝอย จำนวนครั้งในการให้น้ำขึ้นกับชนิดของพืช พรรณไม้น้ำบางชนิดต้องการความชื้นสูง เช่น ขาไก่ ควรให้น้ำ
3-4 ครั้งต ่อวัน
1.1.5 การใหป้ ยุ๋ การให้ป ุ๋ยพ ืชโผล่เหนือน ้ำห รือพืชช ายน ้ำ ควรให้ห ลังจากพืชเจริญตั้งต ัวได้ โดยให้ป ุ๋ย
เคมีท ี่ม ีธ าตุ N,P และ K ชนิดล ะลายน้ำ เช่น ปุ๋ยส ูตร 15-15-15 ในอัตรา 10-25 กรัม ละลายในน้ำ 20 ลิตร เพื่อเร่ง
การเจริญเติบโตแ ละเพิ่มความสมบูรณ์ของต ้น โดยให้สลับกับปุ๋ยสูตร 30-20-10 หรือสูตร 25-5-5 เพื่อเพิ่มการส ร้าง
ใบ ด้วยการพ่นป ุ๋ยให้ท ั่ว 1-2 สัปดาห์ต่อค รั้ง
1.1.6 การป อ้ งกันก ำจัดศ ตั รพู รรณไมน้ ำ้ ศัตรูพรรณไม้น้ำมีทั้งโรคท ี่เกิดจากเชื้อร า และแ มลงศัตรู เช่น
เพลี้ย ตั๊กแตนและหนอนช นิดต ่างๆ ผู้ผ ลิตต้องห มั่นต รวจสอบ ถ้าพบศัตรูพ ืชต ้องร ีบทำลายหรือป้องกัน โดยอาจพ่น
สารสะเดาสกัดทุก 7 วัน หากพบว่าระบาดรุนแรงอาจจำเป็นต้องใช้สารเคมีก ำจัด ทั้งนี้ควรจดจำไว้ว่า พรรณไม้น้ำมี
ต้นและใบบอบบางกว่าพืชบก การใช้สารเคมีควรเลือกชนิดที่ออกฤทธิ์ไม่รุนแรง และใช้ในปริมาณที่ต่ำที่สุดตามข้อ
กำหนดในฉ ลาก
การเพาะพ ันธุพ์ รรณไมน้ ้ำป ระเภทพ ืชช ายน ้ำแ ละพ ืชโผลเ่หนือน ้ำ ไดพ้ ัฒนาเป็นการป ลูกแ บบไรด้ ิน โดย
ปลูกต ้นพ ันธุ์ในก ระถางต ะกร้าพ ลาสติกข นาดเล็ก ใช้ว ัสดุป ลูกเป็นแ ร่ใยหิน (rock wool) ซึ่งม ีค ุณสมบัติอ มน ้ำ นุ่ม ไม่
เปื่อยง ่ายและไม่เกาะเป็นก้อน เมื่อป ลูกต้นพันธุ์ในกระถางเรียบร้อย นำก ระถางแ ช่ในบ่อหรือกระบะขังน้ำ ที่จ ัดระบบ
หมุนเวียนน ้ำเพื่อป ้องกันร ากเน่าข ณะแ ชใ่นน ้ำเป็นเวลาน าน พร้อมท ั้งพ ่นน ้ำจ ากด ้านบ นเป็นร ะยะ การป ลูกว ิธนี ีส้ ามารถ
ให้ปุ๋ยได้สะดวก โดยล ะลายปุ๋ยเติมในน้ำที่ข ังในกระบะ ข้อดีของก ารป ลูกวิธีนี้ ได้แก่ ผลผลิตพรรณไม้น ้ำมีลักษณะ
เป็นกล ุ่มหรือเป็นก อสวยงาม สามารถหยิบก ระถางจ ำหน่ายได้สะดวก จึงเป็นท ี่นิยมข องผู้ซื้อ
ลิขสิทธิข์ องมหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช