Page 26 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 26

5-16 การเมืองการปกครองไทย

เร่ือง​ที่ 5.2.1 	โครงสร้าง และส​ ถาบนั ​ทางการเ​มอื ง​การป​ กครอง
	​ของไ​ ทยยคุ ​ก่อน​ปฏริ ปู ​การป​ กครอง​สมยั รชั กาลท​ ่ี 5
	 แห่งก​ รุง​รัตนโกสนิ ทร์

       โครงสร้าง และ​สถาบัน​ทางการ​เมือง​การ​ปกครอง​ของ​ไทย​ใน​ช่วง​ก่อน​ที่​จะ​มี​การ​ปฏิรูป​การ​ปกครอง​
ในส​ มัย​รัชกาล​ที่ 5 แห่งก​ รุงร​ ัตนโกสินทร์ อาจจ​ ะ​แยก​ออก​ได้ เป็น 4 ยุคส​ มัย​กว้างๆ คือ ยุค​สุโขทัย ยุคอ​ ยุธยา​
ตอน​ต้น อยุธยา​ใน​ยุค​ปฏิรูป​การ​ปกครอง​สมัย​สมเด็จ​พระบรม​ไตรโลก​นาถ และ​ยุค​รัตนโกสินทร์​ตอน​ต้น
โดยแ​ ต่ละย​ ุคต​ ่างก​ ม็​ รี​ ูปแ​ บบแ​ ละล​ ักษณะส​ ำ�คัญแ​ ตกต​ ่างก​ ัน มรี​ ะดับข​ องก​ ารส​ ร้างส​ ถาบันต​ ่างก​ ัน โดยส​ ามารถ​
แยก​พิจารณาส​ าระส​ ำ�คัญ​ใน​แต่ละ​ยุคไ​ด้ด​ ังนี้ คือ

1. 	ยคุ ส​ โุ ขทัย

       อาณาจักร​สุโขทัย​เริ่ม​ต้น​เข้ม​แข็ง​ขึ้น​ใน​ฐานะ​รัฐ​เล็กๆ หลัง​จาก​อิทธิพล​ของ​ขอม​ได้​เสื่อม​ลง ใน​ราว
พ.ศ. 1780–1781 (Likhit Dhiravegin, 1985: 3; พิสิฐ เจริญ​วงศ์ คง​เดช ประ​พัฒน์​ทอง และ​ศุภ​รัตน์
เลศิ พ​ าณชิ ยก​์ ลุ 2527: 51-109) ลกั ษณะส​ �ำ คญั ท​ างส​ งั คม คอื มค​ี วามเ​ปน็ “ครอบครวั ข​ นาดใ​หญ”่ และม​ ห​ี ลายๆ
ครอบครัวท​ ี่ม​ ีค​ วามส​ ัมพันธ์​ทางเ​ครือ​ญาติม​ าอ​ ยู่ร​ วม​กัน ให้​ความ​สำ�คัญ​กับเ​พศช​ าย คือ “พ่อ” หรือผ​ ู้อ​ าวุโส​
ที่​มีค​ วามร​ ู้ค​ วามส​ ามารถใ​น​หลายๆ ด้าน ส่วน​ลักษณะส​ ำ�คัญ​ทางเ​ศรษฐกิจ ก็​คือ เกษตรกรรม คือก​ ารท​ ำ�​นา
ทำ�​สวน และ​ประมง​เป็น​อาชีพห​ ลัก การ​ทำ�​เครื่อง​ชาม​สังค​โลก และ​การ​ค้า​เป็น​ส่วนป​ ระกอบ แต่​คาด​ว่าน​ ่า​จะ​
เป็นการผ​ ลิตเ​พื่อก​ ารด​ ำ�รงช​ ีพ หรือ “พอเ​พียง” ต่อก​ ารด​ ำ�รงช​ ีวิตข​ องค​ นในส​ ังคมม​ ากกว่าจ​ ะเ​ป็นไ​ปเ​พื่อก​ ารค​ ้า
เพราะส​ งั คมย​ งั ไ​มใ​่ หญโ​่ ตซ​ บั ซ​ อ้ น และก​ ารต​ ดิ ตอ่ ค​ า้ ขายก​ บั ภ​ ายนอกก​ ม​็ น​ี อ้ ย และย​ งั อ​ ยใู​่ นภ​ าวะ “สรา้ งบ​ า้ นแ​ ปง​
เมือง” คือ การ​ทำ�ให้ม​ ีบ​ ้าน​เรือน ที่​อยู่อ​ าศัย แหล่ง​ทำ�​มาห​ ากิน ถนนห​ นทาง และค​ วาม​สะดวกใ​นก​ าร​คมนาคม​
ทาง​นํ้า และอ​ ื่นๆ รวม​ทั้ง “ตระพัง” หรือส​ ระ​นํ้า หรือแ​ หล่งเ​ก็บ​กัก​นํ้าไว้ใ​ช้ท​ ี่​มี​อยู่​หลาย​แห่งใ​นเ​ขต​เมืองส​ ุโขทัย

       ในด​ า้ นก​ ารป​ กครองแ​ ละก​ ารบ​ รหิ ารง​ านข​ องร​ ฐั หรอื อ​ าณาจกั ร ความส​ �ำ คญั ก​ อ​็ ยทู​่ ตี​่ วั ผปู​้ กครอง คอื ผทู​้ ​ี่
ไดร​้ บั ก​ ารย​ กยอ่ งแ​ ละย​ อมรบั ว​ า่ เ​ปน็ “พอ่ ” ของค​ นในส​ งั คม ทมี​่ ค​ี �ำ ​เรยี กเ​ฉพาะ คอื “พอ่ ขนุ ” หรอื เ​ปน็ “กษตั รยิ ท​์ ​ี่
เปน็ พ​ อ่ ข​ องค​ นในส​ งั คม” (patriarchal king) (Likhit Dhiravegin, 1985: 3) หรอื ท​ มี​่ ค​ี วามเ​ขา้ ใจก​ นั แ​ พรห​่ ลาย​
ใน​ยุคป​ ัจจุบัน​ว่าเ​ป็นร​ ูปแ​ บบ “พ่อ​ปกครองล​ ูก” (Paternalism) บทบาทห​ น้าที่​ทั้งก​ ารป​ กครองแ​ ละก​ ารบ​ ริหาร
ต่างๆ ที่​สำ�คัญ​จึง​อยู่​ที่​ตัว “พ่อขุน” รวม​ทั้ง​การ​ระดม​ผู้คน​ใน​สังคม​เข้า​ทำ�การ​สู้​รบ หรือ​ทำ�​สงคราม​ป้องกัน​
อาณาจักร และ/หรือเ​ข้าไปย​ ึดค​ รอง​เมือง​และ​อาณาจักรอ​ ื่นท​ ี่​โดดเ​ด่นท​ ี่สุดใ​น​ยุคน​ ี้​ก็​คือ ช่วง​การ​ปกครอง​ของ
“พ่อขุน​รามคำ�แหง” ระหว่าง พ.ศ. 1819–1860 เป็นการ​สืบทอด​การ​ปกครอง​เพียง​ราชวงศ์​เดียว และ​เป็น
ร​ ูปแ​ บบเ​ดียวกันก​ ับร​ าชวงศ์​อาหมใ​นภ​ าค​ตะวัน​ออก​ของอ​ ินเดีย (I. S. Mumtaza Khatern, 1984: 1-8)

       ผูช้​ ่วยเ​หลือใ​นด​ ้านก​ ารป​ กครอง กค็​ ือ บุคคลใ​นค​ รอบครัวข​ องพ​ ่อขุน ทีพ่​ ่อขุนเ​ลือกใ​หเ้​ข้าม​ าท​ ำ�​หน้าที​่
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31