Page 31 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 31

โครงสร้าง และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย 5-21

“ผู้อ​ ยู่ใ​ต้ก​ ารป​ กครอง” (the ruled) และเ​มื่อน​ ำ�​เอาแ​ นวคิดแ​ ละห​ ลักก​ ารข​ องศ​ าสนาพ​ ราหมณ์ม​ าสร​ ้างส​ ถาบัน​
กษัตริย์​และ​จัด​วาง​โครงสร้างก​ ารเมือง​การ​ปกครอง​อย่าง​จริงจัง ไพร่ฟ​ ้า​ข้าแผ่นดิน ได้ถ​ ูก​กำ�หนด​สถานภาพ​
และ​บทบาท​หน้าที่​ไว้​อย่าง​ชัดเจน คือ เป็น​ผู้รับ​ใช้​มูลนาย และ​รัฐ ส่วน​ที่​ตก​เป็น​ทาส ด้วย​เหตุผล​ต่างๆ คือ
ทั้ง​จาก​การเ​ป็นเ​ชลยส​ งคราม และก​ ารข​ ายตัวเ​ป็นท​ าส และก​ ารเ​ป็นล​ ูกท​ าส และ​เหตุผ​ ลอ​ ื่นๆ ก็จ​ ะม​ ี​สถานะ​ที่​
ตํ่าต้อยม​ ากท​ ี่สุด เพราะจ​ ะต​ ้องก​ ลายเ​ป็น “ทรัพย์สิน” ของ​นาย

            1.2 	ในด​ า้ นเ​ศรษฐกจิ พื้นฐ​ านส​ ำ�คัญค​ ือ การเกษตรก​ รรม ทำ�​นา ทำ�​ไร่ ทำ�​สวน และก​ ารป​ ระมง
เพราะ​มี​แหล่ง​นํ้าสาย​สำ�คัญ​และ​ดิน​อุดม​สมบูรณ์​เหมาะ​แก่​การ​เพาะ​ปลูก นอกจาก​ปลูก​ข้าว​และ​ผล​ไม้​ต่างๆ
แล้ว​ก็​ปลูก​พริก​ไทย ฝ้าย หมาก และ​มะพร้าว แต่​ยัง​เป็น​ปลูก​เพื่อ​การ​ยังชีพ​และ​พึ่งพา​ธรรมชาติ​เป็น​หลัก
ความส​ ำ�คัญก​ ็ค​ ือ การม​ ี​คนเ​ป็นจ​ ำ�นวนม​ าก​ในเ​ขตก​ รุง​ศรีอยุธยา จึงจ​ ำ�เป็นท​ ี่จ​ ะ​ต้องข​ ยาย​พื้นที่ก​ ารเ​พาะ​ปลูก​
ให้​มาก​ขึ้น จึง​จะ​ได้​ผลผลิต​เพียง​พอ​ใน​การ​เลี้ยง​ดู​ผู้คน ซึ่ง​รัฐ​ก็ได้​ช่วย​สนับสนุน​ด้วย​การ​ลด​ภาษี​อากร​ให้​กับ​
ผู้​ที่​พึ่งข​ ยายพ​ ื้นที่เ​พาะ​ปลูก และผ​ ู้ท​ ี่​ไปท​ ำ�​เกษตรใ​น​ที่ดิน​ที่​มีผ​ ู้​ทิ้งร​ ้าง​ไว้

            นอกจากน​ ั้นก​ ย็​ ังม​ ผี​ ู้ป​ ระกอบอ​ าชีพด​ ้านก​ ารช​ ่าง หัตถกรรม และอ​ ุตสาหกรรมใ​นร​ ะดับพ​ ื้นฐ​ าน​
อีกจ​ ำ�นวนห​ นึ่ง เพราะภ​ ายในร​ าชธานีม​ ีถ​ นนห​ ลายส​ ายท​ ี่ป​ ระกอบด​ ้วยร​ ้านค​ ้า และย​ ่านก​ ารค​ ้าต​ ่างๆ แล้วก​ ็ย​ ังม​ ​ี
ช่างห​ ลาย​ประเภทท​ ี่ร​ ับ​ทำ�​สิ่งต​ ่างๆ (มาต​ ย​ า อิงค​ นาร​ ถ ทวี ทอง​สว่าง ​และว​ ัฒนา รอด​สำ�​อางค์ 2524: 50) ใน​
ราช​สำ�นักเ​อง​ก็ม​ ี​การจ​ ัด​ตั้ง “ช่าง​สิบ​หมู่” ไว้​ในส​ ังกัด​หน่วย​งานท​ หาร เนื่องจากพ​ ระ​มหาก​ ษัตริย์แ​ ละ​เจ้า​นาย
มักจ​ ะ​สร้างว​ ัด หล่อ​พระพุทธ​รูป ปฏิสังขรณ์ศ​ าสนส​ ถาน ตามค​ วามเ​ชื่อศ​ รัทธาใ​นพ​ ระพุทธ​ศาสนา ซึ่ง​จำ�เป็น​
ต้องม​ ชี​ า่ งห​ รือผ​ เู​้ ชีย่ วชาญง​ านฝ​ ีมอื ห​ ลายป​ ระเภทเ​ปน็ จ​ �ำ นวนม​ าก นอกจากน​ ั้นย​ ังม​ ธ​ี รรมเนียมก​ ารถ​ วายส​ ิง่ ของ​
ต่างๆ รวม​ทั้งท​ ี่ดิน ผู้คน หรือ “ไพร่” สำ�หรับด​ ูแล​วัด​และ​พระภ​ ิกษุ​สงฆ์อ​ ีกด​ ้วย (หลวงว​ ิจิตร​วาท​การ 2493;
สุภาพ​ รรณ ณ บางช​ ้าง 2535: 283-288)

            ด้านก​ ารค​ ้าขายก​ ับภ​ ายนอก ส่วนส​ ำ�คัญก​ ็ค​ ือ การค​ ้าส​ ำ�เภาก​ ับจ​ ีน โดยเ​ฉพาะพ​ ระม​ หาก​ ษัตริย​์
และ​เจ้า​นาย ที่​ได้​เป็น​ผล​กำ�ไร รวม​ทั้ง​ได้​สินค้า​หรือ​สิ่งของ​ที่​ไม่มี​ใน​กรุง​ศรีอยุธยา​กลับ​เข้า​มา ส่วน​ที่​พ่อค้า​
ต่างช​ าติ เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และช​ วา เป็นต้น เข้าม​ าค​ ้าขายก​ ม็​ เี​ป็นจ​ ำ�นวนม​ าก และย​ ังม​ ลี​ ักษณะก​ ารค​ ้าขาย​
ที่​เป็นอ​ ิสระ​ระหว่าง​ผู้ซ​ ื้อ ผู้ผ​ ลิต และ​ผู้​ขาย โดย​ไม่​ต้อง​ผ่าน​พระค​ ลัง​สินค้า หรือ​การผ​ ูกขาดข​ องร​ ัฐ เพียง​แต​่
ต้อง​เสียภ​ าษี​ให้ก​ ับ​รัฐ (พิสิฐ เจริญ​วงศ์ คงเ​ดช ประพ​ ัฒน์ท​ อง และศ​ ุภ​รัตน์ เลิศ​พาณิชย์​กุล 2527)

            1.3 	ด้าน​การเมือง​การ​ปกครอง อาจ​ประมวล​ได้ 2 สาเหตุ​สำ�คัญ ประกอบ​กัน คือ การ​มี​
หลาย “ศูนย์กลาง​อำ�นาจ” จน​เกิด​การ​จำ�กัด​อำ�นาจ​ใน​ราชธานี กับ​การ​ขาด​เอกภาพ​ทั้ง​ใน​ราชธานี​และ​ใน​
ราช​อาณาเขต​จน​มี​ปัญหา​ทั้ง​ภายใน​ราช​อาณาจักร​และ​การ​ถูก​รุกราน​จาก​อาณาจักร​ใกล้​เคียง (ประมวล​จาก
Likhit Dhiravegin, 1985)

            ภายใ​ตโ​้ ครงสรา้ งเ​ดมิ ข​ องก​ รงุ ศ​ รอี ยธุ ยา เมอื งพ​ ระยาม​ หานครห​ รอื เ​มอื งป​ ระเทศราชม​ ค​ี วามเ​ปน็ ​
อิสระเ​กือบเ​ต็มท​ ี่ใ​นก​ ารป​ กครองต​ นเอง เพราะเ​จ้าเ​มืองเ​ก่าแ​ ละร​ าชวงศ์เ​ดิมย​ ังเ​ป็นผ​ ู้ป​ กครองส​ ืบต​ ่อก​ ัน เหตุน​ ี้
ถ้า​ราชธานี​เกิด “การ​ผลัด​แผ่นดิน” และ​ถ้า​พระ​มหา​กษัตริย์​องค์​ใหม่​ไม่​เข้ม​แข็ง หรือ​เกิด​ปัญหา​การ​แย่ง​ชิง​
อำ�นาจก​ ัน ก็​มัก​จะ​เกิดก​ าร “แข็ง​เมือง” หรือ​แยกต​ ัว​เป็น​อิสระ​โดยท​ ันที เมืองล​ ูกหลวงแ​ ละห​ ลานหลวงเ​อง ก​็
มักจ​ ะม​ ีอ​ ิสระใ​นก​ าร​ปกครอง​และ​มักจ​ ะส​ ร้าง​ฐานอ​ ำ�นาจ​ทางการ​เมือง​แข่งขันก​ ับร​ าชธานี เพราะ​ผู้ป​ กครอง​เป็น
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36