Page 30 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 30

5-20 การเมืองการปกครองไทย

พลเรือนแ​ ต่อ​ ย่างใ​ดด​ ้วย
       อย่างไรก​ ็ตาม ระหว่าง พ.ศ. 1894–1990 ก็ได้​มี​การต​ ราก​ ฎหมายข​ ึ้น​ราว 10 ฉบับ ที่​มี​ส่วนส​ ่ง​เสริม​

การ​สร้าง​สถาบัน​ทางการ​เมือง​ใน​ยุค​ต้น​ของ​อยุธยา ได้แก่ หน่ึง กฎหมาย​ลักษณะ​พยาน พ.ศ. 1894 สอง
กฎหมาย​ลักษณะ​อาญา​หลวง พ.ศ. 1895 สาม กฎหมาย​ลักษณะ​รับ​ฟ้อง พ.ศ. 1899 สี่ กฎหมาย​ลักษณะ​
ลักพา พ.ศ. 1899 หา้ กฎหมายล​ ักษณะอ​ าญา​ราษฎร์ พ.ศ. 1901 หก กฎหมายล​ ักษณะ​โจร พ.ศ. 1903 เจ็ด
กฎหมาย​ลักษณะ​เบ็ดเสร็จว​ ่าด​ ้วย​ที​่ดิน พ.ศ. 1903 แปด กฎหมายล​ ักษณะ​ผัว​เมีย พ.ศ. 1904 เกา้ กฎหมาย​
ลักษณะ​ผัว​เมีย (เพิ่ม​เติม) พ.ศ. 1905 และ​สิบ กฎหมาย​ลักษณะ​โจร​ว่า​ด้วย​สม​โจร พ.ศ. 1910 (มา​ต​ยา
อิงคน​ า​รถ ทวี ทองส​ ว่าง และว​ ัฒนา รอด​สำ�อาง 2527: 55)

2. 	โครงสรา้ ง และส​ ถาบันท​ างการเ​มอื งย​ ุคอ​ ทิ ธิพลข​ องล​ ัทธพ​ิ ราหมณ์: รวมศ​ ูนยอ์​ ำ�นาจม​ า​อย่​ทู ​่ี
	 สถาบนั ​กษัตรยิ ์

       งานศ​ ึกษาห​ ลายเ​ล่มอ​ ้างว​ ่า ยุคท​ ี่แ​ นว​ความ​คิด​และ​หลัก​การ​ของศ​ าสนาพ​ ราหมณ์เ​ข้าม​ า​มีอ​ ิทธิพล​ต่อ
“กรงุ เ​ทพท​ ราว​ ดศ​ี รอี ยธุ ยา” อยา่ งเ​ตม็ ท​ ใี​่ นเ​กอื บท​ กุ ด​ า้ น กค​็ อื หลงั พ.ศ. 1974 ดว้ ยเ​หตผุ ลแ​ ละส​ าเหตท​ุ สี​่ �ำ คญั ๆ
หลายด​ ้าน ที่ส​ ามารถ​สรุปไ​ด้ด​ ังนี้ คือ (Likhit Dhiravegin, 1958; ก​ ระมล ทองธ​ รรมชาติ​และ​คณะ 2521)

       1. 	 ความ​จำ�เป็น​และ​การ​เปล่ยี นแปลงภ​ ายในส​ ังคม​อยธุ ยา
            1.1		ด้าน​สังคม อยุธยา​มี​ผู้คน​อาศัย​อยู่​ราว 400,000 ครัว​เรือน ใน​ขณะ​ที่​สุโขทัย​มี​จำ�นวน​

น้อยก​ ว่าม​ าก ซึ่งท​ ำ�ให้​อยุธยาม​ ี​ขนาดใ​หญ่​โต หรือ​ใหญ่​โตก​ว่า​กรุง​ปารีส และล​ อนดอน​ใน​ยุค​เดียวกัน (มาน​ ิจ
ชุมสาย 2515: 33-34)

            ผู้คนท​ ีอ่​ าศัยอ​ ยูใ่​นก​ รุงศ​ รีอยุธยาค​ ่อนข​ ้างม​ คี​ วามห​ ลากห​ ลายท​ างเ​ชื้อช​ าตแิ​ ละเ​ผ่าพ​ ันธุ์ ทั้งคนท​ ี​่
เกิดแ​ ละอ​ าศยั อ​ ยูใ่​นก​ รุงศ​ รีอยุธยาห​ รอื ม​ บ​ี รรพบุรุษเ​ป็นค​ นก​ รุงศ​ รีอยธุ ยา และท​ ีอ่​ พยพเ​ข้าม​ าอ​ ยกู่​ รุงศ​ รอี ยธุ ยา​
ใน​ภายห​ ลัง และ​บาง​ส่วน​ก็​ถูกก​ วาดต้อน​เข้าม​ า หรือ​บาง​คนบ​ างก​ ลุ่ม​ก็เ​ข้า​มา​รับร​ าชการ บาง​คนบ​ าง​กลุ่มก​ ็​เข้า​
มา​ค้าขาย​ใน​กรุงศ​ รีอยุธยา ซึ่งอ​ าจ​มีภ​ าษา ความ​คิด ความ​เชื่อ และว​ ัฒนธรรมไ​ม่​แตก​ต่างก​ ันม​ ากน​ ัก รวมท​ ั้ง​
การใ​ชภ้​ าษาต​ ระกูลไ​ทย-ลาว เป็นภ​ าษาก​ ลางใ​นก​ ารต​ ิดต่อค​ ้าขาย (มตชิ​ น 1 กรกฎาคม 2553: 20) นอกจากน​ ั้น
ยัง​มี “สมณ​ชี​พราหมณ์” หรือ พราหมณ์​โหราจารย์ ผู้​มี​บทบาท​สำ�คัญ​ใน​การ​ประกอบ​พิธีกรรม​ทา​งศาสนา​
อีก​จำ�นวน​หนึ่ง บาง​ส่วน​ถูก “กวาดต้อน” มา​จาก​ขอม หลัง​จาก​ตี​นคร​ธม​ได้​ใน​ราว พ.ศ. 1974–1995 และ​
ใน​เวลา​ต่อ​มา​ก็​มี “คน​ต่าง​ชาติ” ที่​มี​ความ​แตก​ต่าง​กัน​ทาง​ภาษา ตลอด​จน​วัฒนธรรม ค่า​นิยม ความ​คิด
ความเ​ชื่อ เข้าม​ า​พำ�นักอ​ ยู่​ในก​ รุง​ศรีอยุธยา​ด้วย จากย​ ุโรปก​ ็​มี​ชาวอ​ ังกฤษ ฝรั่งเศส โปรตุเกส ฮอลันดา และ​
กรีก จากต​ ะวันออกกลางก็ม​ ีอ​ ิหร่าน และอ​ าหรับอ​ ื่นๆ จากเ​อเชีย และเ​มืองใ​กล้เ​คียง หรือเ​มืองส​ ำ�คัญๆ ใน​
แถบน​ ี้ ก็ม​ ี มอญ ลาว เขมร จีน มา​เลย์ ญวน ญี่ปุ่น และ​อื่นๆ (จัน​ทร์ฉาย ภัคอ​ ธิคม 2528)

            กลุ่ม​คน​ต่างๆ ที่​กล่าว​ถึง​ข้าง​ต้น ก็​มี​สถานภาพ​ทาง​สังคม (social status) แตก​ต่าง​กัน แต่​
ส่วน​ใหญ่​หรือ​เกือบ​ทั้งหมด​ตก​อยู่​ใน​ฐานะ “ไพร่​ฟ้า​ข้าแผ่นดิน” หรือ​ถ้า​ใน​มิติ​การเมือง​การ​ปกครอง​ก็​คือ
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35