Page 29 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 29

โครงสร้าง และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย 5-19

       การ​ปกครอง​แบบ​กษัตริย์​ของ​อยุธยา​ใน​ยุค​เริ่ม​ต้น คือ​ตั้งแต่ “พระเจ้า​อู่ทอง” หรือ​สมเด็จ​
พระ​รามาธิบดีท​ ี่ 1 ผู้ทรง​สถาปนา “กรุงศ​ รีอยุธยา” ขึ้น​ใน พ.ศ. 18931 (มติช​ น 1 กรกฎาคม 2533: 20; มาตยา
อิงค​ น​ าร​ ถ ทวี​ทองส​ ว่าง และว​ ัฒนา รอดส​ ำ�​อางค์ 2524: 45-50) ไปจ​ นถึงย​ ุคก​ ่อนท​ ี่จ​ ะม​ ีก​ ารป​ ฏิรูปก​ ารป​ กครอง​
ครั้ง​สำ�คัญ​ใน​รัช​สมัย​สมเด็จ​พระบรม​ไตรโลก​นาถ (พ.ศ. 1991-2031) ใช้​การ​ปกครอง​แบบ​กษัตริย์​ที่​มี​การ​
สืบสายโ​ลหิต หรือต​ าม​เครือญ​ าติ หรือ “ราชวงศ์” ที่​มีล​ ักษณะค​ ล้ายคลึง​กับ​สมัยส​ ุโขทัย อำ�นาจ​การป​ กครอง​
ของก​ ษตั รยิ จ​์ ะเ​ขม้ ข​ น้ ห​ รอื ม​ ม​ี ากใ​นเ​ขต “เมอื งห​ ลวง” หรอื ร​ าชธานี เพราะย​ งั ไ​มม่ ก​ี ารส​ รา้ งร​ ะบบร​ วมศ​ นู ยอ​์ �ำ นาจ​
อย่างเ​ต็มท​ ี่ แต่​มี​การ​มอบอ​ ำ�นาจ​ให้แ​ ก่ร​ าชวงศ์บ​ างพ​ ระองค์ เช่น พระอ​ นุชา และพ​ ระร​ าชโอรส เป็นต้น ออกไ​ป​
ปกครอง​หัวเ​มืองร​ อบๆ ราชธานี และม​ ี​ลักษณะเ​ป็น​รัฐ​เล็กๆ ที่ม​ ี​อิสระ​จากร​ าชธานี และใ​ช้ว​ ิธีก​ าร​ปกครอง​ใน​
แบบ “ศักดินา2 (Likhit Dhiravegin, 1985: 4-5) คือ จัด​ลำ�ดับช​ ั้นล​ ดห​ ลั่นล​ งไ​ปต​ ามส​ ถานภาพข​ องผ​ ูป้​ กครอง​
และ​ใช้ร​ ะบบ​อุปถัมภ์​ในค​ วาม​สัมพันธ์ร​ ะหว่างผ​ ู้ป​ กครอง​ใน​ลำ�ดับ​ชั้น​ต่างๆ

       ใน​ด้าน​สถาบัน​ทางการ​เมือง​ที่​ได้​พัฒนา​ขึ้น​ใน​ยุค​นี้ ก็​คือ จตุสดมภ์ หรือหลัก​ทั้ง​สี่ หรือ​กิจการ​ใน
4 พื้นที่ที่​รับ​มา​จาก​ขอม ใช้​ปกครอง​ภายใน​ราชธานี ประกอบ​ด้วย (Likhit Dhiravegin, 1985: 3-4;
มาตยา อิงค​นาร​ ถ ทวี ทองส​ ว่าง และว​ ัฒนา รอดส​ ำ�อาง 2524: 54; พิสิฐ เจริญว​ งศ์ คง​เดช ประพ​ ัฒน์ท​ อง และ​
ศุภ​รัตน์ เลิศ​พาณิชย์ก​ ุล 2527: 130-132)

       1. 	 เวียง หรือ เมือง มี “ขุน​เมือง” ปกครองบ​ ังคับบ​ ัญชา มีหน้าท​ ี่ด​ ูแลท​ ้อง​ที่แ​ ละร​ าษฎร​ทั่วไป​เกี่ยว​
กับก​ าร​รักษาค​ วาม​สงบเ​รียบร้อย ปราบ​ปราม​โจรผ​ ู้ร้าย​และ​ลงโทษ​ผู้ก​ ระทำ�​ผิดใ​นพ​ ื้นที่ร​ าชธานี

       2. 	 วัง มี​ขุนว​ ัง​บังคับ​บัญชา มีหน้า​ที่​เกี่ยวก​ ับ​งานใ​น​ราชส​ ำ�นัก​และ​พระ​ราช​พิธี​ต่างๆ เกี่ยวก​ ับ​กษัตริย์
และว​ ัง ตลอดจ​ น​หน้าที่ด​ ้านย​ ุติธรรม​และ​การ​พิพากษาค​ ดีต​ ่างๆ ของร​ าษฎร

       3. 	 คลัง มี​ขุน​คลัง​เป็น​ผู้​บังคับ​บัญชา มีหน้า​ที่​เกี่ยว​กับ​การ​เก็บ​และ​รักษา​ผล​ประโยชน์​ของ​แผ่นดิน
หรือท​ รัพย์สินข​ องก​ ษัตริย์ ที่ไ​ด้​จาก​การเ​ก็บภ​ าษี​อากร และห​ น้าที่เ​กี่ยว​กับก​ ิจการ​ต่าง​ประเทศ

       4. 	 นา มี​ขุน​นา​บังคับ​บัญชา หน้าที่​ด้าน​การ​ดูแล​ไร่​นา รักษา​เสบียง​อาหาร​สำ�หรับ​ราชธานี การ​เก็บ​
หางข​ ้าว​ฉางห​ ลวง คือ แบ่งข​ ้าวจ​ าก​ผู้​ทำ�​ไร่น​ า ส่ง​ขึ้นฉ​ าง​หลวงไ​ว้ใ​ช้ใ​นก​ ิจการข​ อง​รัฐ​หรือร​ าชการ และก​ ารอ​ อก
“สิทธิ” หรือ​กรรมสิทธิ์ใ​น​ที่น​ า​ให้ก​ ับ​ผู้​ทำ�​นา (ชาวนา)

       นอกจาก​เวียง วัง คลัง นา ดัง​กล่าว​นี้แ​ ล้ว ยัง​มี “หน่วย​งาน” ย่อยๆ ที่อ​ าจ​เรียก​ว่า “กรมห​ รือก​ อง​
ย่อย” อีกห​ ลายห​ น่วยง​ านใ​นเ​ขตร​ าชธานี แต่ก​ ็ย​ ังไ​ม่มีก​ ารแ​ บ่งแ​ ยกห​ น้าที่ไ​ว้อ​ ย่างช​ ัดเจน หรือม​ ีข​ อบเขตเ​ฉพาะ​
ของแ​ ต่ละห​ น่วยง​ าน ทำ�ให้​งานม​ ี​ลักษณะ “ซํ้าซ้อน” (overlapping) มากกว่า “ความซ​ ับซ​ ้อน” (complexity)
ความ​รับ​ผิด​ชอบ​ของ​ขุน​ต่างๆ จึง​ค่อน​ข้าง​สับสน หรือ​ต่าง​ต้อง​ทำ�​หลายๆ หน้าที่ และ​มี​ลักษณะ​คล้ายๆ กัน
รวม​ทั้งห​ น้าที่​ปกครองแ​ ละด​ ้านย​ ุติธรรม โดยเ​ฉพาะอ​ ย่าง​ยิ่ง ยัง​ไม่มีก​ าร​แบ่งแ​ ยก​โครงสร้างร​ ะหว่างท​ หารก​ ับ​

	 1 เดิม​มี​เมือ​งอ​โยธ​ยา​หรือ​อ​โยธ​ยา​ศรี​ราม​เทพ หรือ​อ​โยธ​ยา–ละโว้ ตั้ง​อยู่​ด้าน​ตะวัน​ออก​ของ​แม่นํ้าเจ้าพระยา บริเวณ​วัด​
พนัญ​เชิง และ​วัด​ใหญ่​ชัยมงคล สันนิษฐาน​ว่า ได้​เกิด “กาฬโรค” (Black Death) จน​ผู้คน​ล้ม​ตาย​มาก หลัง​จาก​โรค​นี้​สิ้น​ไป พระเจ้า​
อู่ทองท​ ี่ม​ ีค​ วามเ​กี่ยวพ​ ันทาง “เครือญ​ าติ” กับเ​มืองล​ ะโว้ และส​ ุพรรณบุรี จึงไ​ด้ส​ ถาปนาเ​มืองข​ ึ้นใ​หม่ท​ างฝ​ ั่งต​ ะวันต​ ก ตรงข​ ้าม​ กับอโ​ยธย​ า
เรียก​ว่า “กรุง​ศรีอยุธยา” บริเวณ​เวียง​เหล็ก และ​วัด​พุทไธ​สวร​รย์ หรือ​เรียก​ว่า “หนอง​โสน” นอกจาก​นี้ ก็​ยัง​มี​การ​สันนิษฐาน​ใน​ลักษณะ​
อื่นๆ อีก​ด้วย	
	 2 ลิขิต ธีรเวคิน สันนิษฐานแ​ ละ​เปรียบ​เทียบ​ว่า “ระบบ​ศักดินา” นี้ ได้ก​ ำ�หนด​หน้าที่​ไว้​ใน​แบบ​เดีย​วกับระบบ​ศักดินา​ใน​ยุค​
กลาง​ใน​ฝรั่งเศสแ​ ละเ​ยอรมนี ที่​เป็นการค​ รอบ​ครองด​ ินแ​ ดน (lands) และม​ ี​ชาวนาเ​ป็นผ​ ู้​ใช้​แรงงาน​ในท​ ี่ดิน​นั้น
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34