Page 66 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 66

5-56 การเมืองการปกครองไทย

       สถาบัน​นิติบัญญัติ เรียก​ว่า “สภา​นิติบัญญัติ​แห่ง​ชาติ” สมาชิก​มา​จาก​การ​แต่ง​ตั้ง​ทั้งหมด และ​
ข้าราชการ​ประจำ�​ก็​สามารถ​เข้า​ดำ�รง​ตำ�แหน่ง​ได้ รวม​ทั้ง​เป็น​รัฐมนตรี​ได้ สมาชิก​สภา​นิติบัญญัติ​สามารถ​เป็น​
รัฐมนตรีไ​ ด้​ใน​เวลาเ​ดียวกัน

       สถาบัน​บริหาร คือ นายก​รัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี พระ​มหา​กษัตริย์​ทรง​แต่ง​ตั้ง​นายก​รัฐมนตรี มี​
อำ�นาจ​หน้าที่ใ​น​การ​บริหาร​ราชการแ​ ผ่นดิน และน​ ายก​รัฐมนตรี​ยัง​มี “อำ�นาจเ​ฉพาะ” ใน​มาตรา 17 เช่นเ​ดียว​
กับร​ ัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2502 แต่ใ​น​ครั้งน​ ี้​ได้​เขียน​ขอบเขต​อำ�นาจก​ ว้างข​ วาง​ออกไ​ป​ถึงก​ ารกร​ ะท​ ำ�​อันเ​ป็นการ​
บ่อน​ทำ�ลาย​เศรษฐกิจ​ของ​ประเทศ หรือ​การ​ก่อกวน หรือ​คุกคาม​ความ​สงบ​เรียบร้อย​หรือ​ศีล​ธรรม​อัน​ดี​ของ​
ประชาชน หรือท​ ำ�ลาย​ทรัพยากร​ของ​ประเทศ หรือ​บั่นทอน​อนามัย​ของ​ประชาชน ก็ถ​ ือ​เป็นการ​กระทำ�​ที่​เป็น​
ความผ​ ิดร​ ้ายแ​ รงเ​ท่ากับก​ ารกร​ ะท​ ำ�​อันเ​ป็นการบ​ ่อนท​ ำ�ลายค​ วามม​ ั่นคงข​ องช​ าติ ยิ่งไ​ปก​ ว่าน​ ั้นใ​นม​ าตราน​ ี้ย​ ังไ​ด​้
บัญญัติ​ให้​มีผ​ ลย​ ้อน​หลังก​ ับ​การก​ระ​ทำ�​ต่างๆ ดังก​ ล่าว​ที่เ​กิด​ขึ้น​ก่อนก​ ารป​ ระกาศ​ใช้​รัฐธรรมนูญ​นี้​ด้วย

       โครงสร้าง และ​สถาบัน​ทางการ​เมือง​การ​ปกครอง​ภาย​ใต้​รัฐธรรมนูญ​ฉบับ​นี้​จึง​มี​ลักษณะ​การ​รวม​
ศูนย์​อำ�นาจม​ า​อยู่​ที่​นายกร​ ัฐมนตรี ซึ่งใ​นท​ าง​ปฏิบัติ​ก็ค​ ือ จอมพล​ถนอม กิตติข​ จร หัวหน้าค​ ณะร​ ัฐประหาร​ได้​
เข้าด​ ำ�รง​ตำ�แหน่งน​ ายกร​ ัฐมนตรีห​ ลัง​จาก​ประกาศ​ใช้​รัฐธรรมนูญ ทำ�ให้​ผู้นำ�​คณะ​รัฐประหารส​ ามารถ​ปกครอง​
ในแ​ บบ​เผด็จการบ​ ุคคล​ได้เ​กือบ​เต็มท​ ี่ เพราะค​ วบคุม​สภา​ได้ห​ มด และ​สามารถใ​ช้อ​ ำ�นาจพ​ ิเศษ​ตามม​ าตรา 17
ได้เ​กือบ “ครอบจ​ ักรวาล” โดยที่ไ​ม่มีพ​ รรคการเมืองฝ​ ่ายค​ ้านห​ รือ ส.ส. มาค​ อยค​ วบคุม​และต​ รวจส​ อบ เพราะ​
ไมม่ กี​ ารเ​ลอื กต​ ัง้ โ​ดยป​ ระชาชน นอกจากน​ ั้นย​ ังโ​น้มเ​อียงจ​ ะค​ วบคมุ ก​ ารเ​ปลีย่ นแปลงท​ างการเ​มืองใ​นอ​ นาคตไ​ด​้
ด้วย เพราะค​ ณะ​รัฐมนตรี​เป็น​ฝ่าย​จัดท​ ำ�​ร่างร​ ัฐธรรมนูญฉ​ บับใ​หม่ และ​นำ�​เสนอ​ให้ส​ ภาน​ ิติบัญญัติพ​ ิจารณา

       อย่างไร​ก็ตาม สภาพ​การณ์​ทาง​สังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ​และ​การเมือง​ของ​ไทย​ใน​ยุค​นี้ ก็​
เปลี่ยนแปลงแ​ ตกต​ ่าง​ไป​จากย​ ุค พ.ศ. 2502 มาก จาก​เหตุ​ผล​หลายๆ ด้าน รวมท​ ั้งก​ าร​ที่ร​ ัฐบาลส​ มัยจ​ อม​พล
​สฤษดิ์ ธนะ​รัช​ต์ ได้​วาง​รากฐาน​การ​พัฒนา​เศรษฐกิจ​และ​สังคม​แห่ง​ชาติ​อย่าง​เป็น​ระบบ​ด้วย​การ​ประกาศ​ใช้​
แผน​พัฒนา​ที่​นำ�​แบบ​อย่าง​มา​จาก​สหรัฐอเมริกา​ครั้ง​แรก เมื่อ พ.ศ. 2504 ดัง​นั้น การ​หัน​มา​เน้น​ด้าน​ความ​
มั่นคงข​ อง​ชาติ (national security) และพ​ ัฒนาด​ ้าน​เศรษฐกิจ (economic development) แต่ป​ ิด​กั้น​การม​ ี​
สว่ นร​ ว่ มท​ างการเ​มืองข​ องป​ ระชาชน (political participation) จึงไ​ดก้​ ่อเ​กิดผ​ ลกร​ ะท​ บม​ าส​ ูค่​ วามไ​มพ่​ อใจแ​ ละ​
ผิดห​ วังข​ องป​ ระชาชนอ​ ย่างก​ ว้างข​ วาง “กลุ่มแ​ นวห​ น้า” ในเ​ขตเ​มืองท​ ี่ค​ ่อนข​ ้างม​ ีค​ วามค​ ิดก​ ้าวหน้า คือ “ปัญญา​
ชน” ระดับ​ต่างๆ โดย​เฉพาะอ​ ย่าง​ยิ่ง นัก​วิชาการ นิสิต นักศึกษาใ​น​มหาวิทยาลัยข​ องร​ ัฐ จึง​ได้​ออกม​ า​คัดค้าน
จน​นำ�​ไป​สู่เ​หตุการณ์ร​ ุนแรง “14–16 ตุลาคม พ.ศ. 2516” และ​นำ�​มา​สู่ก​ ารส​ ิ้น​สุด​ระบอบเ​ผด็จการ​ทหาร และ​
เผด็จการบ​ ุคคลภ​ ายใ​ต้ก​ ารนำ�​ของ จอมพลถ​ นอม กิตติ​ขจร

             หลังจ​ ากศ​ ึกษา​เนื้อหาส​ าระ​เรื่องท​ ี่ 5.2.3 แล้ว โปรดป​ ฏิบัติ​กิจกรรม 5.2.3
                      ในแ​ นว​การศ​ ึกษา​หน่วยท​ ี่ 5 ตอนท​ ี่ 5.2 เรื่อง​ที่ 5.2.3
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71