Page 70 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 70
5-60 การเมืองการปกครองไทย
2. ภายใตร้ ัฐธรรมนญู ฯ พ.ศ. 2519
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เกิดจากผลของการรัฐประหาร และได้จัดวางโครงสร้างทางการเมืองและ
กำ�หนดสถาบันทางการเมืองคล้ายคลึงกับรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2475 (ฉบับถาวร) และรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.
2502 (ฉบับเผด็จการ) เพราะนอกจากจ ะร วมศ ูนย์อ ำ�นาจทั้ง 3 ด้าน มาอยู่ท ี่น ายกรัฐมนตรี แล้วย ังได้กำ�หนด
ขั้นตอนการพัฒนาการเมืองเป็น 3 ระยะ โดย 4 ปีแรก ยังจำ�กัดสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ไม่อนุญาตให้
จดั ต ัง้ พ รรคการเมอื งแ ละไมม่ กี ารเลอื กต ัง้ ใดๆ ระยะ 4 ปตี อ่ ไป จงึ ก �ำ หนดใหร้ ฐั สภาม ี 2 สภา มาจ ากก ารเลอื กต ัง้
และก ารแ ต่งต ั้ง และร ะยะ 4 ปตี ่อไป คือ เวลาผ ่านไปม ากกว่า 8 ปี แล้วจ ึงจ ะข ยายอ ำ�นาจข องส ภาผ ูแ้ ทนร าษฎร
ใหม้ สี ว่ นบ รหิ ารร าชการแ ผน่ ด นิ ม ากข ึน้ พรอ้ มก บั ล ดอ �ำ นาจข องว ฒุ สิ ภาล งเทา่ ท ที่ �ำ ได้ และ “ถา้ ร าษฎรต ระหนกั
ในห น้าทีแ่ ละค วามร ับผ ิดช อบข องต นท ีม่ ตี ่อช าตบิ ้านเมืองในร ะบอบป ระชาธิปไตยด ีแล้ว กอ็ าจย กเลิกว ุฒิสภา
ให้เหลือแ ต่ส ภาผ ู้แทนราษฎร”
ดังนั้น ส่วนของอำ�นาจนิติบัญญัติ ที่มีชื่อเรียกว่า “สภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” สมาชิก
จำ�นวน 300–400 คน จึงม าจากการแต่งต ั้งข องพระม หากษัตริย์ แต่ในท างปฏิบัติ หัวหน้าแ ละก ลุ่มผ ู้นำ�ของ
คณะร ัฐประหารเป็นฝ ่ายเสนอช ื่อแ ต่งต ั้ง และส ่วนใหญก่ ม็ าจ ากท หาร ตำ�รวจ และข้าราชการพ ลเรือน ทำ�หน้าที่
ตราก ฎหมาย และไมม่ อี �ำ นาจในก ารค วบคมุ แ ละต รวจส อบก ารท �ำ งานข องค ณะร ฐั มนตรแี ตอ่ ยา่ งใด คอื ม สี ภาพ
เป็น “สภาต รายาง” คือร ับรองก ารใช้อ ำ�นาจของฝ ่ายบ ริหารม ากกว่า
อำ�นาจทางการเมืองส่วนใหญ่และเป็นส่วนสำ�คัญ จึงมารวมศูนย์อยู่ที่นายกรัฐมนตรี เพราะมี
บทบัญญัติข องมาตรา 21 ที่ก ำ�หนดไว้ในลักษณะเดียวกันกับมาตรา 17 ของร ัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2515 และ
พ.ศ. 2502 คือเน้นการกร ะทำ�ใดๆ ก็ตามที่กระทบก ับ “ความมั่นคงข องช าติ” ให้นายกร ัฐมนตรีส ั่งก ารแ ละ
ใช้อำ�นาจได้ทันที และเขียนให้ใช้กับการกระทำ�ที่เกิดขึ้นก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เหมือนกับ
รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2515 ด้วย
สถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ยังมีพระราชอำ�นาจในเชิง “พิธีการ” คือ ไม่ใช่อำ�นาจที่แท้จริง ยกเว้น
ในส่วนที่เกี่ยวกับคณะองคมนตรี และตามธรรมเนียมปฏิบัติอื่นๆ ในส่วนของตุลาการก็ยังคงใช้ระบบศาล
ยุติธรรมแ ละบ ัญญัติให้ม ีอ ิสระในก ารพ ิจารณาอ รรถค ดีต ่างๆ แต่ต ามโครงสร้างแ ล้วย ังเกี่ยวข้องเชื่อมโยงอ ยู่
กับร ะบบราชการ คือ กระทรวงยุติธรรมอย่างมาก จนอาจทำ�ให้นักการเมืองที่ดำ�รงตำ�แหน่งรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงย ุติธรรมส ามารถเข้าไปแทรกแซงก ารท ำ�งานของศาลและผ ู้พ ิพากษาได้
โครงสร้างทางการเมืองจึงโน้มเอียงไปสู่แนวทางระบอบเผด็จการโดยบุคคลผสมผสานกับ
คณะบ ุคคล คือ ชนชั้นน ำ�ทหารท ี่มาจ ากก ารยึดอ ำ�นาจแ ละเข้าไปด ำ�รงตำ�แหน่งในคณะรัฐมนตรี ส่วนสถาบัน
ทางการเมอื งต า่ งๆ กโ็ นม้ เอยี งไปในแ นวทางเดยี วกนั เพราะไดป้ ดิ ก ัน้ ก ารม สี ว่ นร ว่ มท างการเมอื งข องป ระชาชน
ไว้เกือบท ั้งหมด ลักษณะทั่วๆ ไปจ ึงค ล้ายคลึงกับร ัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2502 และ พ.ศ. 2515