Page 21 - การวิจัยการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 1
P. 21

แนวคิดเกี่ยวกับการวิจัยการบริหารการศึกษา 1-11

เกณฑ์ในการสร้างตัวแบบมี 3 ประการ ได้แก่ 1) ตัวแบบจะต้องครอบคลุมมโนมติ (concepts) และความ
สัมพันธ์ระหว่างมโนมติ 2) มโนมติและความสัมพันธ์จะต้องวัดได้ และ 3) ตัวแบบจะต้องครอบคลุมปัญหา
การบริหารหลาย ๆ อย่างที่เกิดตามปกติได้ (Getzel. 1958: 150-151)

       กรอสส์เป็นนักวิจัยที่สำ�คัญอีกคนหนึ่งในยุคของการเคลื่อนไหวทางทฤษฎี เขาได้ทำ�การวิจัยเพื่อ
ทดสอบทฤษฎีบทบาท (role theory) โดยได้วิเคราะห์บทบาทของผู้อำ�นวยการเขตพื้นที่การศึกษา (su-
perintendent) ปรัชญาปฏิฐานนิยมเชิงตรรกะมีอิทธิพลต่อการวิจัยเรื่องนี้เช่นกัน ผู้วิจัยได้กำ�หนดฐานคติ
(assumptions) และสมมติฐานอย่างเด่นชัด แม้กระทั่งคำ�จำ�กัดความของคำ�ว่า “ทฤษฎี” กรอสส์และคณะก็
ใช้คำ�จำ�กัดความที่เป็นที่นิยมในขณะนั้นคือ คำ�จำ�กัดความของฟีเกิล (Fiegl) ซึ่งให้ความหมายไว้ว่า “ทฤษฎี
คือ ฐานคติชุดหนึ่งซึ่งจากฐานคตินี้สามารถหากฎเชิงประจักษ์จ�ำ นวนมาก โดยวิธีตรรกคณิตศาสตร”์ อยา่ งไร
ก็ตาม ข้อสรุปอย่างหนึ่งในการทดสอบทฤษฎีบทบาทก็คือ มโนมติเกี่ยวกับบทบาทนำ�ไปสู่สมมติฐานสำ�คัญ
เพียงจำ�นวนเล็กน้อย (Gross, Mason, & McEachern. 1958: 319)

       นักวิจัยที่สำ�คัญอีกคนหนึ่งในสมัยนี้ คือ ฮอลพิน (Halpin) ฮอลพินเป็นนักวิชาการที่ยึดถือแนวคิด
ปฏิฐานนิยมเชิงตรรกะเป็นอย่างมาก เขาเคยไปประชุมกลุ่มนักวิชาการเวียนนาในระหว่างปี ค.ศ. 1930–1931
ผลงานสำ�คัญของฮอลพิน คือ เครื่องมือวัดพฤติกรรมผู้นำ�ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนามของแบบสอบถามเพื่อ
พรรณนาพฤติกรรมผู้นำ� (Leader Behavior Description Questionnaire — LBDQ) และแบบสอบถาม
เพื่อพรรณนาบรรยากาศขององค์การ (Organizational Climate Description Questionnaire — OCDQ)
ต่อมาแบบสอบถามพฤติกรรมผู้นำ� (LBDQ) ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยคณะกรรมการวิจัยบุคลากร (The
Personnel Research Board) แห่งมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตท (The Ohio State University) เฮมฟิลล์
(Hemphill) และคูนส์ (Coons) เป็นผู้สร้างเครื่องมือขึ้น (Hemphill & Coons. 1950)

       ต่อมา ฮอลพินและไวเนอร์ (Halpin & Winer. 1952) ได้ปรับปรุงแบบสอบถามนี้ สำ�หรับศึกษา
พฤติกรรมผู้นำ�ของนายทหารอากาศในสหรัฐอเมริกา และได้ค้นพบพฤติกรรมผู้นำ�แบบกิจสัมพันธ์ (ini-
tiating structure) และแบบมิตรสัมพันธ์หรือมีดุลพินิจ (consideration) หลังจากศึกษาพฤติกรรมผู้นำ�
ของนายทหารอากาศแล้ว ฮอลพินได้ศึกษาเปรียบเทียบกับผู้บริหารการศึกษาคือ ผู้อำ�นวยการเขตพื้นที่
การศึกษา (Halpin & Croft, 1962) งานวิจัยของฮอลพินจึงมีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากนักวิจัยอื่นคือ
เป็นงานริเริ่มทางด้านการศึกษาเปรียบเทียบ (comparative study) นอกจากนั้น ฮอลพินได้ร่วมงานกับ
ครอฟท์ (Croft) บุกเบิกศึกษาบรรยากาศของโรงเรียนประถมศึกษา เครื่องมือที่เป็นที่รู้จักกันดีแพร่หลาย
คือ แบบสอบถามเพื่อพรรณนาบรรยากาศขององค์การ (OCDQ) แบบสอบถามนี้มีกระทงคำ�ถามทั้งหมด
64 ข้อ เป็นคำ�ถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริหาร 4 เรื่อง และคำ�ถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของคณาจารย์
4 เรื่อง จากพฤติกรรมเหล่านี้ ฮอลพินและครอฟท์ค้นพบบรรยากาศของโรงเรียน 6 ประเภท ได้แก่
1) บรรยากาศแบบเปิด 2) บรรยากาศอิสระ 3) บรรยากาศควบคุม 4) บรรยากาศสนิทสนม 5) บรรยากาศ
แบบบิดากับบุตร และ 6) บรรยากาศแบบปิด

       นักวิชาการสำ�คัญอีกคนหนึ่งคือ กริฟฟิธส์ (Griffiths) กริฟฟิธส์สนใจการสร้างทฤษฎีบริหารการ
ศึกษา เขาเห็นว่าการบริหารคือการตัดสินใจ เขาจึงได้พัฒนาทฤษฎีการตัดสินใจขึ้น และพิมพ์เผยแพร่ใน
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26