Page 35 - การวิจัยการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 1
P. 35

แนวคิดเกี่ยวกับการวิจัยการบริหารการศึกษา 1-25

       4. 	แนวคิดของพาร์สัน (Parsons) จากหนังสือคู่มือการวิจัยทางการบริหารการศึกษา (Handbook
of Research on Educational Administration) ซึ่งเป็นหนังสือในโครงการของสมาคมวิจัยการศึกษา
อเมริกัน ในหนังสือเล่มนี้เป็นการพิมพ์ครั้งที่สอง Joseph Murphy และ Karen Seashore Louis ผู้ซึ่งเป็น
บรรณาธิการได้กล่าวถึงกรอบแนวคิดของหนังสือเล่มนี้ว่า ได้อาศัยแนวคิดของพาร์สันในการกำ�หนดระดับ
ขององค์การทางการศึกษาเป็น 3 ระดับ คือ ระดับปฏิบัติ (technical level) ระดับการจัดการ (managerial
level) และระดับสถาบัน (institutional level) โดยระดับปฏิบัติจะให้ความสำ�คัญกับกระบวนการเรียนการ
สอน ระดับการจัดการจะกล่าวถึงภาวะผู้นำ� การบริหารจัดการศึกษาภายในโรงเรียน รวมทั้งการแก้ปัญหา
ระหวา่ งโรงเรยี นกบั ชมุ ชน สว่ นระดบั สถาบนั จะเนน้ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโรงเรยี นกบั สภาพแวดลอ้ มทัง้ ภายใน
และภายนอกโรงเรียนทั้งในระดับจุลภาค เช่น บ้านกับโรงเรียน และในระดับมหภาค เช่น สภาพเศรษฐกิจ
การเมือง และสังคม โดยเน้นให้มีกฎระเบียบรองรับ หนังสือเล่มนี้ได้มีมุมมองของผู้เชี่ยวชาญทางการบริหาร
การศึกษาที่จะช่วยให้นักวิจัยในสาขานี้ได้เข้าใจว่าการศึกษาในแต่ละระดับดังกล่าวเป็นอย่างไรและมีสาระ
สำ�คัญอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งในที่นี้สรุปพอสังเขปดังนี้

            4.1 	ในระดับปฏิบัติ เป็นระดับของครูผู้สอนในชั้นเรียน การจัดการเรียนการสอน ได้ให้ความ
ส�ำ คญั กบั การเรยี นรู้ โดยใชท้ ฤษฎที างจติ วทิ ยาทีเ่ กีย่ วกบั การสรา้ งองคค์ วามรู้ (Constructivist psychology)
และมุมมองทางสังคมวิทยามากกว่าทฤษฎีการปรับพฤติกรรม (Behavioral psychology) อีกทั้งให้ความ
สำ�คัญกับการหาวิธีการเรียนรู้ (learning to learn) และความสามารถในการใช้ความรู้ รวมถึงกระบวนการ
เรียนรู้แบบร่วมมือร่วมใจ (cooperative learning) ด้วยเหตุนี้ การจัดการเรียนการสอนในระดับนี้เพื่อให้
สอดคลอ้ งกบั การจดั การเรยี นรูแ้ บบใหม่ ๆ จงึ ตอ้ งปรบั เปลีย่ นพฤตกิ รรมการสอนทีเ่ นน้ เนือ้ หาและการทอ่ งจ�ำ
รวมทั้งการค้นคว้าแต่ตำ�ราเป็นหลัก มาสู่หลักการ ดังนี้ 1) ต้องสะท้อนความเป็นสหวิทยาการ (Interdisci-
plinary vision) 2) โครงสร้างของหลักสูตรไม่ควรแตกออกเป็นหลากหลายประเด็นแต่ต้องให้ศึกษาเชิงลึก
3) เน้นทักษะกระบวนการคิดระดับสูง 4) ใช้เทคโนโลยีและค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิมากกว่าตำ�รา
5) ใช้การประเมินจากสภาพจริง และ 6) ต้องเชื่อมโยงการเรียนรู้จากการให้บริการ (service learning) กับ
การเรียนรู้ในหลักสูตร จากหลักการในการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว ทำ�ให้บทบาทของครูต้องเปลี่ยนแปลงไป
จากผู้เชี่ยวชาญการถ่ายทอดเนื้อหามาสู่ผู้ที่ทำ�หน้าที่แนะนำ�หรือให้แนวทางแก่ผู้เรียนมากขึ้น

            4.2 	ในระดับการจัดการ เป็นระดับของผู้บริหารในสถานศึกษา สถานศึกษาเป็นองค์การ
ทางการศึกษาที่ยังตกอยู่ภายใต้การบริหารจัดการแบบระบบราชการ จึงได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำ�ให้
หลักการบริหารสมัยใหม่แบบโรงเรียนเป็นฐาน (School-based management) ที่ให้ความสำ�คัญกับการมี
ส่วนร่วมของพ่อแม่และชุมชนในการจัดการศึกษา ไม่ประสบความสำ�เร็จเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำ�ให้
การจัดการศึกษาภาครัฐไม่บรรลุเป้าหมายที่กำ�หนดไว้ ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีการปฏิรูปการบริหารจัดการใหม่
โดยเน้นการกระจายอำ�นาจเพื่อลดขั้นตอนการบริหารและปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารแบบราชการ อัน
ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ ความสัมพันธ์ในเชิงการบริหารจัดการ
ซึ่งแต่เดิมความสัมพันธ์มีรูปแบบที่เน้นผู้บังคับบัญชา-ผู้ใต้บังคับบัญชา ภาวะผู้นำ�ก็เน้นการแข่งขันมากกว่า
สมรรถนะที่แท้จริง การทำ�งานก็เน้นความเป็นปัจเจกบุคคลมากกว่าการทำ�งานแบบร่วมมือร่วมใจ ด้วยเหตุนี้
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40