Page 24 - การวิจัยและสถิติทางการศึกษา หน่วยที่ 4
P. 24

4-14 การวิจัยและสถิติทางการศึกษา

Null hypothesis                   True alternative

                                                Type I error
                                                Type II error
                                                Power

                           Critical value
ภาพที่ 4.2 ความสมั พันธข์ องความคลาดเคลอื่ นประเภทท่ี I, II และอ�ำ นาจการทดสอบ

       2.	 ขนาดอิทธิพล (effect size) หมายถึง ระดับของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประชากร หรือระดับที่
สมมติฐาน H0 ไม่ถูกต้อง (Cohen, 1988) การรายงานขนาดอิทธิพลในรายงานการวิจัยเป็นแนวทางในการ
วิเคราะห์ข้อมูล และรายงานข้อค้นพบจากการวิจัย นอกเหนือจากการทดสอบนัยสำ�คัญทางสถิติ นักวิจัย
หลายท่านเสนอให้รายงานค่าขนาดอิทธิพลในรายงานการวิจัยด้วย เพราะเชื่อว่าการทดสอบสมมติฐานด้วย
การทดสอบนัยสำ�คัญทางสถิติมีข้อบกพร่อง 2 ประการ คือ

            1) 	 ปัญหาด้านปรัชญาของการทดสอบ นักวิชาการกลุ่มนี้เชื่อว่าการปฏิเสธสมมติฐานศูนย์
ไมส่ ามารถน�ำ ไปอา้ งไดว้ า่ สมมตฐิ านทางเลอื กถกู หรอื การยอมรบั สมมตฐิ านศนู ยไ์ มใ่ ชก่ ารยนื ยนั วา่ สมมตฐิ าน
ทางเลอื กผดิ เพราะหลักของการทดสอบสมตฐิ านไมใ่ ช่ต้องการให้นำ�ผลการตรวจสอบไปจำ�แนกการตัดสินใจ
ออกเป็นประเภทๆ แต่เป็นเรื่องของความน่าจะเป็นมากกว่า (Morgan, 2003)

            2) 	 ปญั หาดา้ นการน�ำ ไปปฏบิ ตั ิ ผลการทดสอบสมมตฐิ านทางสถติ บิ างครัง้ ใหผ้ ลการวเิ คราะห์
ที่ขัดกับความรู้สึกของนักวิจัย เช่น ผลการทดสอบพบว่าค่าเฉลี่ยสองค่า (μ1 vs μ2) ไม่มีนัยสำ�คัญทาง
สถิติ แต่เมื่อพิจารณาผลต่างของค่าเฉลี่ยทั้งสองพบว่ามีค่าต่างกันมาก ในกรณีเช่นนี้ นักวิจัยต้องพิจารณา
ว่าจะเสนอผลการวิจัยอย่างไร ทางเลือกหนึ่งคือ การรายงานขนาดอิทธิพล หรือในบางครั้งนักวิจัยพบว่าค่า
สหสัมพันธ์ของตัวแปรสองตัวมีนัยสำ�คัญทางสถิติ แต่ขนาดของความสัมพันธ์น้อย เช่นเดียวกัน นักวิจัยก็
ต้องตัดสินใจจะรายงานผลการวิจัยอย่างไรจึงจะเหมาะสม

       การค�ำ นวณขนาดอทิ ธพิ ลท�ำ ไดห้ ลายวธิ ี และการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวธิ กี ารตา่ งกนั กจ็ ะมกี ารค�ำ นวณ
ขนาดอิทธิพลต่างกันด้วย เช่น การทดสอบความต่างของค่าเฉลี่ยสองค่า เช่น μ1 vs μ2 ดัชนีขนาดอิทธิพล
ที่ใช้อาจเป็น d ที่เสนอโดย Cohen (1988, 1992) เป็นต้น ตัวอย่างของขนาดอิทธิพล และการแปลผลขนาด
อิทธิพลอยู่ในตารางที่ 4.2 ซึ่งสรุปมาจาก Cohen (1988, 1992)
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29