Page 30 - การวิจัยและสถิติทางการศึกษา หน่วยที่ 4
P. 30
4-20 การวิจัยและสถิติทางการศึกษา
วัด การพัฒนาตัวชี้วัด และการพัฒนาเครื่องมือวัด เช่น การตั้งคำ�ถามวิจัยว่าการที่จะประเมินว่าโรงเรียนที่
พร้อมจะดำ�เนินงานตามอำ�นาจได้รับจากการกระจายอำ�นาจจากส่วนกลางเป็นโรงเรียนที่มีลักษณะอย่างไร
หรือการตั้งคำ�ถามวิจัยว่าการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนมีองค์ประกอบอะไรบ้าง และการวัดทักษะการคิดแก้
ปญั หาของนักเรยี นควรจะวัดองคป์ ระกอบของการคิดดา้ นใดบ้าง การวจิ ัยประเภทนี้สว่ นใหญ่ใช้การวิเคราะห์
องค์ประกอบ (factor analysis)
4. คำ�ถามวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ (questions of relationship) คำ�ถามวิจัยประเภทนี้มุ่งศึกษา
ความสัมพันธ์ของตัวแปรว่าสัมพันธ์กันมากน้อยเพียงใด เช่น การตั้งคำ�ถามวิจัยว่าคะแนนสอบโอเนตวิชา
ต่างๆ ของโรงเรียนสัมพันธ์กับคะแนนการประเมินคุณภาพโรงเรียนของ สมศ. หรือไม่ อย่างไร หรือคำ�ถาม
วิจัยว่าความก้าวหน้าทางวิชาชีพของครูสัมพันธ์กับคะแนนสอบของนักเรียนหรือไม่ อย่างไร หรือความ
สัมพันธ์ของการศึกษาของครูกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โปรดระลึกอยู่เสมอว่าผลการศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรนั้นไม่สามารถนำ�ผลการวิจัยไปสรุปถึงความเป็นสาเหตุผลลัพท์ของตัวแปร
(causal relationship) ได้ ถึงแม้ว่าจะพบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสูง เพราะว่าความสัมพันธ์ไม่สามารถ
บอกความเป็นสาเหตุได้อย่างเพียงพอ เช่น ถ้าพบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างความก้าวหน้าทางวิชาชีพของครู
กับคะแนนสอบของนักเรียนสูง นักวิจัยไม่อาจนำ�ไปสรุปได้ว่าความก้าวหน้าทางวิชาชีพของครูทำ�ให้นักเรียน
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง หรือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนส่งผลให้ครูมีความก้าวหน้าทางวิชาชีพ การศึกษา
ที่สามารถบอกความเป็นสาเหตุ-ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือ การวิจัยเชิงทดลอง
5. ค�ำ ถามวจิ ยั เกีย่ วกบั การเปรยี บเทยี บ-อธบิ าย (descriptive-comparative questions) ค�ำ ถามวจิ ยั
ประเภทนี้มุ่งอธิบายความแตกต่างของกลุ่มตัวอย่างกลุ่มย่อย (subgroups) ในประชากรกลุ่มใหญ่ เช่น การ
ศึกษาเปรียบเทียบว่านักเรียนชายและหญิงมีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างกันหรือไม่ ครู
ที่ทำ�วิจัยและครูที่ไม่ทำ�วิจัยมีทักษะการสอนต่างกันหรือไม่ ครูที่มีวิทยฐานะต่างกันจัดการเรียนการสอนมี
คุณภาพต่างกันหรือไม่ เป็นต้น การเปรียบเทียบเช่นนี้ใช้ตัวแปรที่ไม่ใช่ตัวแปรทดลองเป็นการจัดกลุ่มและ
เปรียบเทียบ หรือตัวแปรที่มีอยู่ในสังคมแล้ว โดยส่วนใหญ่งานวิจัยประเภทนี้เป็นการเปรียบเทียบความ
แตกต่างของกลุ่มที่จำ�แนกตามภูมิหลัง แต่ไม่ใช่การเปรียบเทียบตามรูปแบบการวิจัยเชิงทดลอง อย่างไร
ก็ตาม การวิจัยประเภทนี้ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของตัวแปรที่ศึกษา ดังนั้น นักวิจัยที่
จะทำ�การวิจัยเพื่อเปรียบเทียบเช่นนี้จึงต้องพยายามทำ�ให้ตัวแปรแทรกซ้อนมีผลต่อการศึกษาน้อยที่สุด เพื่อ
ให้สามารถตอบคำ�ถามเชิงสาเหตุได้
การตัง้ ค�ำ ถามวจิ ยั เหลา่ นีเ้ ปน็ จดุ เริม่ ตน้ ของการออกแบบการวจิ ยั ทีต่ อ้ งออกแบบอยา่ งเหมาะสม เพือ่
ให้สามารถทำ�การวิจัยและได้ผลการวิจัยที่สามารถตอบคำ�ถามวิจัยได้
หลังจากศึกษาเนอ้ื หาสาระเร่ืองท่ี 4.2.1 แล้ว โปรดปฏิบัติกจิ กรรม 4.2.1
ในแนวการศกึ ษาหน่วยที่ 4 ตอนท่ี 4.2 เรื่องท่ี 4.2.1