Page 36 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 5
P. 36
5-26 การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
แบบท ี่ 2 สมมติฐานการว จิ ยั แ บบท ศิ ทางเดียว กรณมี ากกว่า
ตัวอย่าง ผู้อ บรมม ีค วามสามารถในก ารทำ�วิจัยห ลังการอ บรมสูงกว่าก ่อนอบรม
สมมติฐานทางส ถิติ HH01 : mpost ≤ mpre
: mpost > mpre
หากผลการทดสอบสมมติฐานพบว่ามีนัยสำ�คัญทางสถิติ เป็นการปฏิเสธ H0 สรุปได้ว่าหลังการ
อบรมผ ู้อ บรมม ีความสามารถในการท ำ�วิจัยส ูงกว่าก่อนอบรม
แบบท ่ี 3 สมมติฐานการว ิจัยแบบทศิ ทางเดียว กรณีน้อยกว่า
ตัวอย่าง หลังจ ากเข้ารับก ารแ นะแนวแ ล้ว นักศึกษาม ีค วามเครียดน ้อยก ว่าก ่อนเข้าร ับก ารแ นะแนว
หากผล สกมามรตทิฐดาสนอทบางสสมถมิตติ ิฐานพบHHว่า10ม::ีนmmัยppสooำ�ssttค≥<ัญทmmาppงrreeสถิติ เป็นการปฏิเสธ H0 สรุปได้ว่า หลังจาก
เข้าร ับก ารแนะแนว ความเครียดของนักศึกษาน้อยก ว่าก่อนเข้าร ับการแ นะแนว
สถติ ิการท ดสอบคา่ เฉลี่ย 2 กลุ่มทไี่ ม่เปน็ อ ิสระก ัน คือ t-test (dependent) หรือ paired t-test
t = SD df = n — 1
nSD2 — (SD)2
n—1
เมื่อ t แทน ค่าสถิติที่ใช้เปรียบเทียบกับค่าวิกฤต
D แทน ค่าผ ลต่างร ะหว่างคู่
N แทน จำ�นวนกลุ่มตัวอย่าง
df คือ องศาอ ิสระ
สมมติฐานว่างถูกปฏิเสธ เมื่อค่า t คำ�นวณ มากกว่าค่า t จากการเปิดตารางแบบสองทางที่ระดับ
นัยสำ�คัญ .05 องศาอิสระ หรือ | t | > ta/2, n-1
ตัวอย่าง ผลก ารเรียนสถิติของน ักศึกษากลุ่มตัวอย่าง 10 คน คะแนนมีการแ จกแจงแ บบโค้งป กติ
ผู้วิจัยตั้งสมมติฐานว่าคะแนนหลังเรียนแตกต่างจากก่อนเรียน จงทดสอบสมมติฐานดังกล่าว โดยที่
ค่าวิกฤตของ t-test แบบส องทิศทางท ี่ระดับน ัยสำ�คัญ 0.05 และอ งศาอิสระ 9 เท่ากับ 2.62
กลุ่มตัวอย่างคนที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
คะแนนก่อนเรียน 6 13 9 7 10 4 7 6 3 8
คะแนนหลังเรียน 6 17 14 9 16 7 10 4 7 10