Page 31 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 31
การอ อกแบบบ ทเรียนภาษาอังกฤษ 13-21
ต่าง ๆ โดยอาจเป็นแบบจับคู่ แบบถาม-ตอบสั้น ๆ แบบเติมข้อความให้สมบูรณ์ แบบเลือกตอบ หรือแบบ
ถูก-ผิด หรืออ าจเป็นก ิจกรรมท ี่ให้ผ ู้เรียนอ อกม าเล่าเรื่อง เขียนส รุปเนื้อหาท ี่อ ่าน เป็นต้น หรือห ากเป็นท ักษะ
การฟัง-พูด ก็จะมีแบบฝึกหัดทดสอบความเข้าใจในการฟัง การให้ผู้เรียนออกมาจับคู่สนทนา หรือให้แต่ง
บทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำ�หนด เป็นต้น อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าในการนำ�บทเรียนไปใช้จริง
กิจกรรม ทั้งหมดจะต้องใช้ในขั้นตอนสุดท้ายของการเรียนการสอนเท่านั้น ทั้งนี้เพราะภาระงาน และแบบ
ฝึกหัดต่าง ๆ ผู้สอนสามารถนำ�ไปใช้ได้ใน 2 ลักษณะคือ 1) เพื่อฝึกฝนทักษะทางภาษา และ 2) เพื่อตรวจ
สอบค วามเข้าใจสิ่งท ี่ได้เรียนร ู้ ดังนั้นหากกิจกรรม ภาระง าน แบบฝ ึกหัดใดเหมาะส ำ�หรับน ำ�ไปใช้ในการฝึก
ทักษะทางภาษา เมื่อน ำ�ไปใช้สอนก ็อ าจน ำ�ไปใช้ในข ั้นข องการนำ�เสนอเนื้อหา หรือขั้นก ารฝ ึกได้
นอกจากอ งคป์ ระกอบห ลัก ๆ เหล่าน ีแ้ ล้ว ผูส้ อนอ าจเพิ่มส ่วนข องเนื้อหาท างภ าษาท ีเ่ป็น
จุดเน้นข องบ ทเรียน (language focus) ไว้ในส ่วนนำ� หรือส ่วนท ้าย และอาจม ีส ่วนของก ิจกรรมเสนอแ นะ
(suggested activities) ไว้ในส่วนท ้ายข องบทเรียนได้ต ามความเหมาะสม
สิง่ ส �ำ คัญท ผี่ สู้ อนต ้องร ะลกึ ไวเ้สมอค ือ หากผ สู้ อนเลือกท จี่ ะใชร้ ูปแ บบใดในก ารน�ำ เสนอ
บทเรียนก ็ต ้องใช้ร ูปแบบเดียวกันในท ุกบ ทเรียน เนื่องจากบทเรียนถือเป็นเอกสารเชิงวิชาการที่ต ้องมีก ารนำ�
เสนออย่างเป็นระบบ ผู้สอนและผ ู้เรียนจ ะได้ติดตามเนื้อหาข องบทเรียนได้อย่างส ะดวกนั่นเอง
5. การต รวจส อบ หลังจ ากท ีผ่ ูส้ อนไดจ้ ัดท ำ�บทเรียนเสร็จเรียบร้อยแ ล้วก ่อนท ำ�ไปใชจ้ ริงค วรจ ะไดม้ ี
การต รวจส อบค วามเรียบร้อยข องบ ทเรียนอ ีกค รั้งห นึ่ง ซึ่งห ากเป็นบ ทเรียนท ี่ผ ู้ส อนห ลายท ่านใช้ร ่วม กันก ็จ ะ
เป็นส ิ่งที่ด ีท ี่ผู้สอนหลาย ๆ ท่านจะได้ร่วมกันต รวจสอบเพื่อแ ก้ไขอ ีกค รั้งหนึ่ง และหากโรงเรียนใดมีผ ู้สอนที่
เป็นเจ้าของภ าษาก อ็ าจใหช้ ่วยต รวจส อบค วามถ ูกต ้อง เหมาะส มในเรื่องข องภ าษาท ีใ่ชก้ จ็ ะช ่วยล ดข ้อผ ิดพ ลาด
ต่าง ๆ ในบ ทเรียนไปได้อีกวิธีห นึ่ง
6. การทดลองใช้ เป็นขั้นตอนที่ผู้สอนนำ�บทเรียนที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้กับผู้เรียนในชั้นเรียน
จริง เพื่อศ ึกษาป ระสิทธิภาพข องบ ทเรียน ซึ่งข ้อมูลที่ผู้สอนจะได้ เช่น เนื้อหาข องบทเรียนและกิจกรรมต่าง ๆ
เหมาะสมกับผู้เรียนหรือไม่ สามารถสร้างความสนใจให้แก่ผู้เรียนหรือไม่ ผู้เรียนสามารถทำ�กิจกรรมเสร็จ
ทันตามกำ�หนดเวลาหรือไม่ แบบฝึกหัดและภาระงานง่ายหรือยากเกินไป และเหมาะสมกับบทเรียนหรือไม่
จำ�นวนก ิจกรรม ภาระง าน และแ บบฝ ึกหัดม ากห รือน ้อยเกินไปห รือไม่ พบข ้อผ ิดพ ลาดเกี่ยวก ับเรื่องก ารพ ิมพ์
การใช้คำ�สั่งในภาระงาน และแบบฝึกหัดต่าง ๆ หรือไม่ นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้วสิ่งที่ผู้สอนสามารถ
นำ�ข้อมูลมาใช้ในการประเมินคุณภาพของบทเรียนคือ ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนของผู้เรียน โดยผู้สอนอาจ
เปรียบเทียบผลส ัมฤทธิ์ก่อนแ ละห ลังการใช้บทเรียน หรือส ังเกตพ ัฒนาการของความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
เนื้อหาท ี่เรียนก ็ได้
7. การปรับปรุงแก้ไข ผู้สอนนำ�ข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่พบในการนำ�บทเรียนไปใช้มาแก้ไข ซึ่งอาจ
เป็นการแ ก้ไขเล็ก ๆ น้อยเกี่ยวก ับการพ ิมพ์ ไปจ นถึงก ารป รับเปลี่ยนภ าระง าน หรือแบบฝึกหัด หรือเนื้อหา
ของบทเรียน เป็นต้น ซึ่งเมื่อแก้ไขแ ล้วก ็จ ะท ำ�ให้บ ทเรียนน ั้นเป็นบ ทเรียนท ี่ดี ซึ่งผู้ส อนสามารถน ำ�ไปใช้สอน
ได้อ ีกในภาคก ารศ ึกษาถัดไป