Page 33 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 33
การออกแบบบทเรียนภ าษาอังกฤษ 13-23
6. บทเรียนต้องมีกิจกรรมที่สร้างความพร้อมให้แก่ผู้เรียน โดยต้องมีทั้งเนื้อหาที่เป็นความรู้เดิม
ของผู้เรียนแ ละเนื้อหาท ี่เป็นค วามร ู้ใหม่
7. บทเรยี นค วรม กี ารใหต้ วั อยา่ งข องภ าษาท มี่ กี ารใชจ้ รงิ ในช วี ติ ป ระจ�ำ วนั โดยก ารน�ำ เสนอผ า่ นแ หลง่
ข้อมูลทางภาษาท ี่จะนำ�มาใช้ในบทเรียนไม่ว ่าจะเป็นบ ทอ่าน บทสนทนาจ ากเทปบันทึกเสียง หรือง านเขียนใน
รูปแบบต ่าง ๆ
8. บทเรยี นค วรส ร้างค วามต ระหนักเกี่ยวก บั ล ักษณะข องภ าษาใหแ้ กผ่ ูเ้ รยี นท ั้งโดยตรงค ือก ารใหค้ �ำ
อธิบายให้แ ก่ผ ู้เรียน และโดยอ ้อมค ือ การให้ผู้เรียนสังเกตและส ร้างข้อสรุปด ้วยตนเอง และในข ณะเดียวกัน
ก็ทำ�ให้ผ ู้เรียนเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับค วามแตกต ่างร ะหว่างภ าษาแม่กับภ าษาท ี่สอง
9. บทเรยี นค วรเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ กึ ฝนก ารใชภ้ าษาเพือ่ ก ารส ือ่ สาร ทัง้ ต วั ก ฎเกณฑแ์ ละก ารน�ำ
ภาษาไปใช้อย่างอิสระน อกห ้องเรียน แทนที่จ ะฝึกฝนแ บบค วบคุมแ ละเฉพาะในห ้องเรียนเท่านั้น
10. บทเรียนแต่ละบทควรมีความเชื่อมโยงโดยการนำ�เนื้อหาบางส่วนที่ได้เรียนไปแล้วในบทเรียน
ก่อนหน้านี้มานำ�เสนออีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการเรียนรู้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ผู้เรียนอาจ
จะได้เรียนร ู้หรือจดจำ�เนื้อหาบ างส ่วนได้ในการเรียนครั้งแ รก แต่เมื่อได้เรียนรู้เนื้อหาน ั้นอีกครั้งในบทเรียน
ต่อไปก็จ ำ�ทำ�ให้ผ ู้เรียนจดจำ�ได้มากขึ้น
11. บทเรียนจะต้องคำ�นึงถึงความแตกต่างในเรื่องรูปแบบการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน ดังนั้น
บทเรียนที่พัฒนาขึ้นจึงต้องมีลักษณะที่หลากหลาย เช่น มีเนื้อหาที่นำ�เสนอผ่านสื่อที่เป็นบทอ่าน และสื่อที่
เป็นเสียงก ารพ ูด การส นทนา มีก ิจกรรมท ี่หลายห ลาย และรูปแบบต่าง ๆ ทั้งก ิจกรรมเดี่ยว กิจกรรมค ู่ และ
กิจกรรมก ลุ่ม
12. บทเรียนควรคำ�นึงถึงเจตคติที่แตกต่างกันของผู้เรียน ซึ่งจะมีผลต่อการเรียนรู้ การที่จะทำ�ให้
ผู้เรียนเกิดเจตคติที่ดีต ่อการเรียน นั่นค ือ ต้องส ร้างแ รงจูงใจในการเรียน ดังน ั้นผ ู้สอนจึงต้องพัฒนาเนื้อหา
ของบ ทเรียนใหม้ ีค วามท ันส มัย น่าส นใจ สอดคล้องก ับค วามต ้องการข องผ ู้เรียน และก ิจกรรมท ี่ม ีค วามห ลาก
หลาย
13. บทเรียนค วรม ีกิจกรรมท ี่ใช้ส ื่อการสอนห ลากห ลายท ี่จ ะให้ผู้เรียนได้ใช้ความค ิดทำ�ความเข้าใจ
กับสิ่งที่เรียน และเกิดก ารเรียนรู้ด้วยต นเอง อาทิ อาจให้ผู้เรียนฟ ังและด ูวีดิท ัศน์นิทาน และเรื่องร าว ซึ่งจ ะมี
ทั้งเสียง และภาพ ที่จะช่วยในก ารส ร้างความเข้าใจให้แ ก่ผ ู้เรียนได้
14. บทเรียนควรมีกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และเกิดการพัฒนาสติปัญญา อารมณ์ และจิตใจ
เพื่อพัฒนาสมองทั้งซ ีกซ ้ายแ ละซ ีกขวา
15. บทเรียนไม่ค วรเน้นก ิจกรรมในล ักษณะข องก ารฝ ึกแ บบค วบคุมม ากเกินไป ควรม กี ิจกรรมท ีใ่ห้
ผู้เรียนได้ฝึกใช้ภ าษาอย่างอ ิสระอ ย่างเพียงพอ ทั้งนี้เพราะก ารฝ ึกแบบควบคุมไม่ส ่งผลต ่อค วามค ล่องแคล ่ว
ในการใช้ภ าษาของผ ู้เรียน
16. ในก ารท �ำ กจิ กรรมในบ ทเรยี น ผเู้ รยี นค วรไดร้ บั ข อ้ มลู ป อ้ นก ลบั และผ สู้ อนต อ้ งม ัน่ ใจว า่ ก จิ กรรม
ฝึกฝนก ารใช้ภ าษาเน้นท ี่ผ ลก ารเรียนร ู้ค ือให้ผ ู้เรียนส ามารถใช้ภ าษาในก ารส ื่อสารได้ม ากกว่าก ารฝ ึกฝนภาษา
เท่านั้น