Page 37 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 37

การว​ ิจัยเ​พื่อ​พัฒนา​บท​เรียนแ​ ละส​ ื่อ​ภาษาอ​ ังกฤษ 15-27

ดัชนี 	 =	  ผลรวมคะแนนทดสอบหลงั เรยี น — ผลรวมคะแนนทดสอบก่อนเรียน
            (จำ�นวนนักเรียน × คะแนนเต็ม) — ผลรวมคะแนนทดสอบกอ่ นเรียน

E.I. 	 =	   P2 — P1
            100 — P1

เมื่อ P1 = คะแนน​ทดสอบ​ก่อน​เรียน
	 		P2 = คะแนนท​ ดสอบ​หลัง​เรียน

            จำ�นวน​เศษ​ของ E.I. จะ​เป็น​เศษ​ที่​ได้​จาก​การ​วัด​ระหว่าง​การ​ทดสอบ​ก่อน​เรียน (P1) และ
การทดสอบ​หลัง​เรียน (P2 ) ซึ่ง​คะแนน​ทั้ง 2 ชนิด​นี้ จะ​แสดง​ถึง​ค่า​ร้อย​ละ​ของ​คะแนน​รวม​สูงสุด ที่​ทำ�ได้
(100%) ตัวห​ ารด​ ัชนี คือ ความ​แตก​ต่าง​ระหว่างค​ ะแนน​ทดสอบก​ ่อนเ​รียน (P1) และ​คะแนนส​ ูงสุด​ที่น​ ักเรียน​
สามารถ​ทำ�ได้

            ดัชนี​ประสิทธิผลส​ ามารถ​นำ�​มาป​ ระยุกต์​ใช้​เพื่อป​ ระเมินส​ ื่อ​โดยเ​ริ่มท​ ดสอบ​ก่อน​เรียน เพื่อ​วัด​
ว่าผู้​เรียน​มี​ความ​รู้​พื้น​ฐาน​อยู่​ใน​ระดับ​ใด รวม​ถึง​การ​วัด​ทาง​ด้าน​ความ​เชื่อ เจตคติ​และ​ความ​ตั้งใจ คะแนน​
ที่​ได้​นี้​สามารถน​ ำ�​มา​แปลง​เป็นร​ ้อย​ละ หา​ค่า​คะแนน​สูงสุด​ที่​เป็น​ไป​ได้การห​ า​ค่า​ดัชนี​ประสิทธิผล โดยก​ ารนำ�​
คะแนน​ก่อน​เรียน​ไป​ลบ​ออก​จาก​คะแนน​หลัง​เรียน​ได้​เท่าใด​นำ�​มา​หาร​ด้วย​ค่าที่​ได้​จาก​ค่า​ทดสอบ​ก่อน​เรียน​
สูงสุดท​ ี่​ผู้​เรียนส​ ามารถท​ ำ�ได้ ลบ​ด้วย​คะแนน​ทดสอบก​ ่อนเ​รียน​โดยก​ าร​ทำ�ให้​อยู่​ใน​รูปร​ ้อย​ละ

            ค่าด​ ัชนปี​ ระสิทธิผลจ​ ะม​ คี​ ่าร​ ะหว่าง -1.00 ถึง 1.00 หากค​ ่าท​ ดสอบก​ ่อนเ​รียนไ​ดเ้​ป็น 0 และการ​
ทดสอบ​หลัง​เรียน​ปรากฏ​ว่า​นักเรียน​ไม่มี​การ​เปลี่ยนแปลง คือ คะแนน 0 เท่า​เดิม​แต่​ถ้า​คะแนน​ทดสอบ
ก​ ่อนเ​รียน = 0 หากค​ ะแนนท​ ดสอบห​ ลังเ​รียนค​ ะแนนส​ ูงสุด คือ เต็ม 100 ค่า E.I. จะม​ ี​ค่า = 1.00 และใ​นท​ าง
​ตรง​กัน​ข้าม ถ้า​คะแนน​ทดสอบ​หลัง​เรียน​น้อย​กว่า​คะแนน​ทดสอบ​ก่อน​เรียน​ค่าที่​ออก​มา​ได้​จะ​เป็น​ค่า​ลบ
ตัวอย่าง​เช่น P1 = 75%, P2 = 47%, ค่า E.I. = - 0.38 สภาพ​การ​เรียน​รู้​ซึ่งน​ ักเรียน​แต่ละ​คนจ​ ะต​ ้องเ​รียนใ​ห​้
ถึง​เกณฑ์​ที่​กำ�หนดไ​ว้ ค่า​ดัชนี​ประสิทธิผล​สามารถน​ ำ�​มาด​ ัดแปลง​เพื่ออ​ ้างอิง​เกณฑ์ด​ ้วยค​ ่า​ของเ​กณฑ์​สูงสุด​ที​่
สามารถเ​ป็นไ​ปไ​ด้ ซึ่ง​กรณี​ค่า​ดัชนี​ประสิทธิผล อาจ​มีค​ ่า​มากถ​ ึง 1.00

       3.2		การ​วิเคราะห์​เน้ือหา เป็นการ​วิเคราะห์​ข้อมูล​ที่​มี​ลักษณะ​เป็น​ข้อความ การ​วิเคราะห์​เนื้อหา​
ท�ำ ​เพือ่ ใ​หไ​้ ดค​้ วามร​ คู​้ วามเ​ขา้ ใจห​ รอื ข​ อ้ ส​ รปุ เ​กีย่ วก​ บั เ​รือ่ งท​ ผี​่ วู​้ จิ ยั ส​ นใจศ​ กึ ษา ไดแ้ ก่ การว​ เิ คราะหข​์ อ้ มลู ท​ ไี​่ ดจ​้ าก​
การส​ ัมภาษณ์แ​ ละส​ ังเกต​พฤติกรรม​การเ​ลือกใ​ช้ส​ ื่อห​ รือบ​ ทเ​รียน​ของน​ ักเรียน​ในช​ ั่วโมง​ซ่อมเ​สริม ซึ่งผ​ ู้ว​ ิจัยจ​ ะ​
สัมภาษณ์แ​ ละส​ ังเกตพ​ ฤติกรรมแ​ ล้วบ​ ันทึกเ​ป็นข​ ้อความต​ ามห​ ัวข้อท​ ี่ก​ ำ�หนดไ​ว้ เมื่อเ​ก็บข​ ้อมูลค​ รบต​ ามเ​วลาท​ ี​่
กำ�หนดจ​ ึงเ​ริ่ม​ทำ�การว​ ิเคราะห์ข​ ้อมูล​โดยใ​ช้​การว​ ิเคราะห์​เนื้อหา เป็นต้น

       ตวั อย่างก​ ารว​ เิ คราะห์​ข้อมูล
       การ​วิเคราะห์​ข้อมูล​การ​วิจัย​เรื่อง การ​พัฒนา​บท​เรียน​คอมพิวเตอร์​ช่วย​สอน​ภาษา​อังกฤษ​สำ�หรับ​
นักศึกษาพ​ ยาบาล (สุพ​ ัต​รา สุจริตร​ ักษ์. 2553) ผู้​วิจัย​ทำ�การว​ ิเคราะห์​ข้อมูล​เป็น 2 ส่วน คือ ส่วน​แรกเ​ป็นการ​
วิเคราะห์ข​ ้อมูล​แบบ​เชิง​ปริมาณ ได้แก่ แบบ​ทดสอบก​ ่อน​และ​หลังบ​ ทเ​รียน ใช้ส​ ถิติ t-test ค่า​ร้อยล​ ะ ค่า​เฉลี่ย
และค​ ่าส​ ่วนเ​บี่ยงเ​บน​มาตรฐาน ส่วน​ที่ส​ องเ​ป็นการว​ ิเคราะห์​ข้อมูลแ​ บบเ​ชิงค​ ุณภาพ ใช้ว​ ิธี​การว​ ิเคราะห์​เนื้อหา
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42