Page 32 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 32

15-22 การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ

2. 	การ​สร้าง​และ​หา​ประสิทธิภาพ​เครื่อง​มือ​ท่ี​ใช้​ใน​การ​วิจัย​เพื่อ​พัฒนา​บท​เรียน​และ​ส่ือ​ภาษา​
  อังกฤษ

       ใน​เรื่อง​การ​สร้าง​และ​หา​ประสิทธิภาพ​ของ​นวัตกรรม​ที่​สร้าง​ขึ้น​มา​แล้ว​นั้น​มี​ผู้​อธิบาย​เกี่ยว​กับ​การ​หา​
ประสิทธิภาพ​ของ​นวัตกรรม​ที่ส​ ร้าง​ขึ้นไ​ว้​หลายท​ ่าน ได้แก่

       ในด​ ้านค​ วามจ​ ำ�เป็นข​ องก​ ารห​ าป​ ระสิทธิภาพ​ของน​ วัตกรรม​ที่ส​ ร้างข​ ึ้น ชัยย​ งค์ พรหมว​ งศ์ (2545 หน้า
494) ได้ถ​ ึง​กล่าวค​ วามจ​ ำ�เป็นข​ องก​ าร​ทดสอบห​ า​ประสิทธิภาพ​ของช​ ุดก​ ิจกรรม​ไว้ ดังนี้

       2.1		สำ�หรับ​หน่วย​งาน​ผลิต​ชุด​กิจกรรม เป็นการ​ประกัน​คุณภาพ​ของ​ชุด​กิจกรรม​ว่า​อยู่​ใน​ขั้น​สูง
เหมาะ​สม​ที่จ​ ะ​ลงทุน​ผลิตอ​ อกม​ าเ​ป็นจ​ ำ�นวน​มาก หาก​ไม่ท​ ดสอบ​ประสิทธิภาพ และ​ผลิตอ​ อกม​ าใ​ช้ป​ ระโยชน์​
ได้​ไม่ด​ ีก​ ็​ต้อง​ทำ�​ใหม่ เป็นการ​สิ้น​เปลือง​ทั้งเ​วลา แรงงาน และท​ รัพยากร

       2.2		สำ�หรับ​ผู้​ผลิต​ชุด​กิจกรรม  การ​ทดสอบ​หา​ประสิทธิภาพ​จะ​ทา​ให้​ผู้​ผลิต​มั่นใจ​ได้​ว่า เนื้อหา​ที่​
บรรจใุ​นช​ ุดก​ ิจกรรมม​ คี​ วามเ​หมาะส​ มแ​ ละง​ ่ายต​ ่อก​ ารเ​ข้าใจ อันจ​ ะช​ ่วยใ​ห้ผ​ ู้ผ​ ลิต มคี​ วามช​ ำ�นาญส​ ูงข​ ึ้น เป็นการ​
ประหยัดแ​ รงงาน เวลา และท​ รัพยากรใ​น​การเตร​ ีย​ มต​ ้นแบบ

       2.3		ส�ำ หรบั ผ​ ใ​ู้ ช้ช​ ดุ ​กิจกรรม ชุดก​ ิจกรรมช​ ่วย​ให้​ผู้​เรียนเ​ปลี่ยน​พฤติกรรมต​ ามท​ ี่ม​ ุ่งห​ วัง ดังน​ ั้นก​ ่อน​
การน�ำ ​ชุดก​ ิจกรรมไ​ปใ​ช้ ครค​ู วรม​ ัน่ ใจว​ ่าช​ ุดก​ จิ กรรมน​ ัน้ ม​ ปี​ ระสทิ ธิภาพ ในก​ ารช​ ่วยใ​หไ้​ดช้​ ดุ ก​ ิจกรรมท​ ีม่​ คี​ ณุ คา่ ​
ตามเ​กณฑ์​ที่ก​ ำ�หนด

       เกี่ยว​กับ​การ​หา​ประสิทธิภาพ มี​นักการศ​ ึกษา​อธิบายไ​ว้ ดังนี้
       บุญ​ชม ศรีส​ ะอาด (2537 หน้า 25-29) จำ�แนกว​ ิธีก​ ารห​ าป​ ระสิทธิภาพข​ องช​ ุด​การ​สอน​เป็น 3 วิธี คือ
       1.	 การ​หา​ประสิทธิภาพ​โดย​ผู้​เชี่ยวชาญ หรือ​ครู โดย​จะ​ใช้​แบบ​ประเมิน​ผล​ให้ ผู้​เชี่ยวชาญ​หรือ​ครู​
พิจารณา​ทั้ง​ด้านค​ ุณภาพ เนื้อหาส​ าระ และ​เทคนิค​การ​จัด​ทำ�​สื่อ​นั้น ๆ แบบ​ประเมิน​อาจ​เป็น​แบบ​มาตราส่วน​
ประมาณ​ค่า (rating  scale) หรือ​เป็น​แบบ​เห็น​ด้วย​ไม่​เห็น​ด้วย สรุป​ผล​เป็น​ความถี่​แล้ว​อาจ​ทดสอบ​ความ​
แตก​ต่าง​ระหว่าง​ความถี่​ด้วยค​ ่าไ​ค-สแ​ คว​ร์
       2.	 การ​หา​ประสิทธิภาพ​โดย​ผู้​เรียน มี​ลักษณะ​เช่น​เดียวกัน​กับ​การ​หา​ประสิทธิภาพ​โดย​ผู้​เชี่ยวชาญ​
หรือค​ รู แตเ่​น้นก​ ารร​ ับร​ ู้คุณค​ ่าที่ไ​ด้จ​ ากก​ ารเ​รียนเ​ป็นส​ ำ�คัญ ประสิทธิภาพข​ องส​ ื่อก​ ารส​ อนท​ ีม่​ ีค​ วามเ​ที่ยงต​ รงท​ ี​่
จะพ​ ิสูจน์​คุณภาพ และ​คุณค่า​ของ​สื่อ​การ​สอนน​ ั้น ๆ โดย​จะว​ ัด​ว่า​ผู้​เรียน​ที่เ​กิดก​ าร​เรียน​รู้​อะไร​ขึ้น​บ้าง เป็นการ​
วัดเ​ฉพาะผ​ ล​ที่เ​ป็น​จุด​ประสงค์​ของก​ ารส​ อน ​โดยใ​ช้ชุดก​ ิจกรรมน​ ั้นอ​ าจ​จำ�แนก​ได้​เป็น 2 วิธี คือ

            2.1		กำ�หนดเ​กณฑ์​ขั้นต​ ํ่าไ​ว้ เช่น เกณฑ์ 80/80 หรือ 90/90
            2.2		ไม่​ได้​กำ�หนด​เกณฑ์​ไว้​ล่วง​หน้า แต่​จะ​พิจารณา​การ​เปรียบ​เทียบ​ผล​การ​สอบ หลัง​เรียน​
สูงกว่า​ก่อน​เรียน​อย่าง​มี​นัย​สำ�คัญ​หรือ​ไม่ หรือ​เปรียบ​เทียบ​ว่า​ผล​สัมฤทธิ์​ทางการ​เรียน​ด้วย​ชุด​กิจกรรม​นั้น​
สูงก​ ว่าหรือเ​ท่ากับส​ ื่อ หรือเ​ทคนิค​การ​สอน​อย่างอ​ ื่น​หรือ​ไม่ โดย​ใช้​สถิติท​ ดสอบ​ค่าที (t-test)
       ในเ​รื่องก​ ารก​ ำ�หนดเ​กณฑ์ใ​นก​ ารห​ าป​ ระสิทธิภาพข​ องน​ วัตกรรมท​ ี่ส​ ร้างข​ ึ้น ชัยย​ งค์ พรหมว​ งศ์ (2545
หน้า 495-457) อธิบายว​ ่าการ​กำ�หนด​เกณฑ์ห​ า​ประสิทธิภาพ หมายถ​ ึง การ​กำ�หนดร​ ะดับป​ ระสิทธิภาพ​ของช​ ุด​
กิจกรรม​ที่​จะ​ช่วย​ให้​ผู้​เรียน​เกิด​การ​เรียน​รู้​การ​กำ�หนด​เกณฑ์​จะ​ประเมิน​จาก​พฤติกรรม​ของ​ผู้​เรียน 2 แบบ
คือ
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37