Page 85 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้คณิตศาสตร์
P. 85

การ​จัดป​ ระสบการณ์ก​ ารเ​รียนร​ ู้​เกี่ยวก​ ับก​ าร​วัด 6-75

       สำ�หรับป​ ระเทศไทย นับท​ างจ​ ันทรคติ โดย​ตั้งต​ ้น​ปี​ใหม่​ที่เ​ดือนห​ ้า ขึ้น​หนึ่งค​ ํ่า และเ​รียงล​ ำ�ดับ​เดือน​
ต่อ​ไป​เป็น​เดือน​หก เจ็ด แปด เก้า สิบ สิบ​เอ็ด สิบ​สอง แล้ว​ตาม​ด้วย​เดือน​อ้าย เดือน​ยี่ เดือน​สาม และ
​เดือน​สี่ ใน​สมัย​รัชกาล​ที่ ๕ ได้บ​ ัญญัติใ​ห้​ใช้​เดือน​ทางส​ ุริยคติต​ าม​แบบส​ ากล จึง​ได้ใ​ช้​ชื่อท​ ั้ง​สิบส​ อง​ราศี​มา​ตั้ง​
เป็น​ชื่อ​เดือน เช่น เมษายน หมายความว​ ่า ดวง​อาทิตย์​ได้​มา​อยู่​ในร​ าศี​เมษ (มี​รูปด​ าวน​ ักษัตร​ประจำ�ร​ าศี​เป็น​
รูปแ​ กะ) พฤษภาคม ดวงอ​ าทิตย์​ได้ม​ าอ​ ยู่ใ​นร​ าศีพ​ ฤษภ (รูป​โค) เป็นต้น ลำ�ดับ​ต่อ​ไป​ตาม​นักษัตรป​ ระจำ�ร​ าศี
และใ​ห้ป​ ีใ​หม่​ตั้งต​ ้นท​ ี่​เดือน​เมษายน

       ศักราช ศักราช​ที่​ปรากฏ​ใน​ปฏิทิน​ของ​ไทย​ได้แก่ พุทธศักราช (พ.ศ.) พุทธศักราช​เป็น​ศักราช​ที่​
พุทธศาสนิกชน​กำ�หนด​ขึ้น โดย​ถือ​เอา​ปี​ที่​พระพุทธเจ้า​เสด็จ​ดับ​ขันธ์​ปรินิพพาน​เป็น​ปี​ที่ 1 เมื่อ​คำ�นวณ​นับ​
ตาม​จันทรคติ วัน​ขึ้น​ปี​ใหม่​จึงต​ รง​กับว​ ันแ​ รม 1 คํ่า เดือน 6 ต่อม​ าใ​น​สมัยก​ รุง​รัตนโกสินทร์​ได้​มี​การต​ ั้ง​ศักราช​
รัตนโกสินทร์​ศก​ขึ้น​และ​ได้​กำ�หนด​ให้​วัน​ขึ้น​ปี​ใหม่​ตรง​กับ​วัน​ที่ 1 เมษายน ต่อ​มา​ใน​สมัย​พระบาท​สมเด็จ​
พระมงกุฎเกล้าเ​จ้าอ​ ยู่ห​ ัว ทรง​เปลี่ยนม​ าใ​ช้พ​ ุทธศักราช​แทนร​ ัตนโกสินทร์​ศก แต่​ยัง​คงใ​ช้ว​ ัน​ขึ้นป​ ี​ใหม่เ​ป็นว​ ัน​
ที่ 1 เมษายนเ​หมือน​เดิม ต่อ​มา​ใน​สมัย​จอมพล ป.พิบูล​สงคราม​เป็น​นายก​รัฐมนตรี ได้​เปลี่ยน​มา​ใช้​วัน​ที่ 1
มกราคม​เป็นว​ ันข​ ึ้น​ปี​ใหม่ โดยเ​ริ่มต​ ั้งแต่​วัน​ที่ 1 มกราคม พุทธศักราช 2484 เป็นต้น​ไป ทั้งนี้​เพื่อใ​ห้​เหมือน​
อย่าง​นานาอ​ ารยประเทศท​ ั้ง​หลาย

       การ​บอก​ศักราช​ใน​ปฏิทิน​นอกจาก​จะ​บอก​พุทธศักราช​แล้ว ปฏิทิน​ส่วน​ใหญ่​ยัง​บอก​คริสต์​ศักราช
(ค.ศ.) ด้วย คริสต์​ศักราช​เป็น​ปี​ที่​คริสต์​ศาสนิ​กช​นกำ�ห​ นด​ขึ้น​โดย​ถือ​เอา​ปี​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​เป็น
​ปีท​ ี่ 1 พุทธศักราชม​ ากกว่าค​ ริสต์ศ​ ักราช 543 ปี เมื่อ​เปลี่ยน ค.ศ. เป็น พ.ศ. จึง​ต้อง​นำ� 543 บวก ถ้า​เปลี่ยน
พ.ศ. เป็น ค.ศ. จึง​ต้อง​นำ� 543 ลบ​ออก

       ปี​สุริยคติ คือ​ระยะ​เวลา​ที่​โลก​โคจร​รอบ​ดวง​อาทิตย์​หนึ่ง​รอบ​มี​ระยะ​เวลา​นาน​เท่ากับ 365.24224
วัน แต่เ​นื่องจากก​ าร​นับ​วันเ​ป็น​เศษไ​ม่​สะดวก ใน​การจ​ ัดท​ ำ�ป​ ฏิทินเ​ก​รกอ​เรียน​จึงก​ ำ�หนดใ​ห้​ปี​หนึ่งม​ ี 365 วัน​
ถ้วน เรียกว​ ่า​ปี​ปกติ​สุร​ทิน หรือป​ ีธ​ รรมดา และ​ในป​ ี​หนึ่งๆ กำ�หนดใ​ห้​มี 12 เดือน เพื่อแ​ ก้เ​ศษข​ องว​ ัน​ที่​หาย​ไป
จึง​กำ�หนด​ให้​เพิ่ม​วัน​พิเศษ​ขึ้น​หนึ่ง​วัน​ทุก​สี่​ปี ดัง​นั้น ​ใน​ปี​ที่​สี่​จึง​เรียก​ว่า​ปี​อธิกสุรทิน ซึ่ง​มี 366 วัน วัน​ที่​เพิ่ม
เ​ข้าไปน​ ี้​ให้​เพิ่ม​เข้าใ​นเ​ดือน​กุมภาพันธ์ข​ องป​ ี​คริสต์​ศักราชท​ ี่ห​ าร​ด้วน 4 ลงตัว แต่เ​มื่อใ​ช้​ไป 400 ปี จะ​มีว​ ันเ​กิน​
ความจ​ ริงไ​ป 3,104 วัน ดัง​นั้น​ ทุกๆ 400 ปี จึง​ให้ง​ ดว​ ัน​พิเศษ​เสีย 3 วัน คือ​ ให้ง​ ด​ในป​ ีค​ ริสต์​ศักราชท​ ี่​ครบ​ร้อย​
ซึ่งห​ ารด​ ้วย 400 ไม่ล​ งตัว ตัวอย่าง​เช่น ปีค​ ริสต์ศ​ ักราช​ที่​ครบ​ร้อยท​ ี่จ​ ะถ​ ึงต​ ่อไ​ปไ​ด้แก่ 2,000, 2,100, 2,200,
2,300, 2,400, … ปี​เหล่า​นี้ต​ ้องเ​ป็น​ปีอ​ ธิกสุรทินเ​พราะ 4 หาร​ได้ล​ งตัว แต่​เมื่อน​ ำ� 400 หาร ปรากฏว​ ่าป​ ี​ที่​หาร
​ไม่​ลงตัว​ได้แก่ 2,100, 2,200, 2,300 ดัง​นั้น​ปี​ทั้ง​สาม​นี้​จึง​ไม่​นับ​เป็น​ปี​อธิกสุรทิน อย่างไร​ก็ตาม​ถึง​แม้​จะ​ได้​
พยายาม​แก้ไขด​ ้วยว​ ิธีก​ ารด​ ังก​ ล่าวแ​ ล้ว ก็ย​ ังป​ รากฏว​ ่าเ​มื่อใ​ช้ป​ ฏิทินน​ ี้ไ​ป 10,000 ปี เวลาก​ ็ย​ ังค​ งผ​ ิดอ​ ยู่อ​ ีก 3 วัน

       เดือน คือ​เวลาท​ ี่​ดวงจ​ ันทร์​โคจร​รอบโ​ลกห​ นึ่งร​ อบ ปีส​ ุริยคติแ​ บ่งอ​ อก​เป็น 12 เดือนต​ าม​จักรราศี การ​
เรียกช​ ื่อร​ าศเี​รียกต​ ามช​ ื่อก​ ลุ่มด​ าว ซึ่งไ​ดร้​ ับก​ ารบ​ ัญญัตชิ​ ื่อต​ ามร​ ูปร​ ่างส​ มมตขิ​ องก​ ลุ่มด​ าวท​ ีเ่​รียงร​ ายก​ ันอ​ ยูเ่​ป็น​
รูปต​ ่างๆ แล้ว​นำ�ช​ ื่อร​ าศีเ​หล่า​นั้น​มา​ตั้ง​เป็นช​ ื่อ​เดือนส​ ุริยคติ โดย​นำ�ค​ ำ�ว​ ่า “อายน” หรือ “อาคม” ต่อท​ ้าย เพื่อ​
ให้เ​ป็นเ​ครื่อง​สังเกตไ​ด้​ง่ายว​ ่า ถ้าเ​ดือนใ​ดล​ งท้าย​ด้วย “ยน” เดือนน​ ั้นม​ ี 30 วัน ส่วนเ​ดือนท​ ี่​ลงท้าย​ด้วย “คม”
จะ​มี 31 วัน คำ�ว​ ่า “อายน” หรือ “อาคม” นี้​เป็น​ภาษาบ​ าลีท​ ั้ง​สอง​คำ� แปล​ว่า “การม​ า​ถึง” ส่วน​อีกเ​ดือนห​ นึ่งซ​ ึ่ง​
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90