Page 40 - สารัตถะและวิทยวิธีทางสังคมศึกษา
P. 40

8-30 สารัตถะและวิทยวิธีทางสังคมศึกษา

เรอ่ื งท่ี 8.3.1 	 วธิ กี ารทางส่ิงแวดล้อมศกึ ษา

       สิ่งแวดล้อมศึกษาตั้งอยู่บนฐานของการประสานจุดมุ่งหมายทางการศึกษาและเทคนิควิธีการในการ
สอนตา่ งๆ เขา้ ดว้ ยกนั ดงั นัน้ สิง่ แวดลอ้ มศกึ ษาจงึ เปน็ สหวทิ ยาการและไมใ่ ชส่ าขาวชิ าใหม่ แตเ่ ปน็ รปู แบบการ
เรียนการสอน ซึ่งมุ่งที่ประสิทธิภาพในการสอน ทำ�ให้นักเรียนสามารถแก้ปัญหาได้รอบด้านมากขึ้น รวมทั้งมี
ความกลมกลืนกันได้มากกว่าการสอนแบบวิชาเดี่ยวๆ และในขณะเดียวกัน จะทำ�ให้นักเรียนได้มีเจตคติ วิธี
การ และมโนมติที่จำ�เป็นต่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม วิธีการทางสิ่งแวดล้อมศึกษาจึงเป็นกระบวนการหลาก
หลายในการจัดสิง่ แวดลอ้ มศกึ ษาให้โรงเรยี น ซึ่งจ�ำ แนกเป็นวธิ กี ารทั่วไป ลักษณะเฉพาะในระดับมธั ยมศกึ ษา
และลักษณะเฉพาะในระดับประถมศึกษา

1. 	วิธกี ารทวั่ ไป

       1.1 	การกำ�หนดเนื้อหาวิชาใหม่ (restructuring disciplinary content) วิธีการนี้เป็นการแก้ไขและ
วางเนื้อหาของวิชาใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด ด้วยเหตุที่ว่าเนื้อหาวิชาการต่างๆ นั้นมักจะถูกควบคุม
โดยหน่วยงานกลาง ไม่วา่ จะเป็นในระดบั ภมู ภิ าคหรือในระดบั ชาตกิ ต็ าม แต่ในโปรแกรมการศึกษาจรงิ ๆ แลว้
สามารถทำ�ในลักษณะอื่นก็ได้ กล่าวคือ

            1) 	โดยการนำ�เรือ่ งสิง่ แวดลอ้ มเขา้ ไปสูแ่ ต่ละวิชา (introducing an environmental dimen-
sion) ซึ่งแนวคิดนี้สามารถทำ�ได้อย่างง่ายๆ กล่าวคือ นำ�เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมในโลกปัจจุบันบรรจุเป็น
เนื้อหาให้นักเรียนเรียนในวิชาเดิม เช่น กลุ่มสาระวิชาภาษาไทย ในการเรียนการสอนทักษะการอ่านและเขียน
ซึ่งตามหลักสูตรถือเป็นวิชาทักษะจึงไม่ได้กำ�หนดเนื้อหาไว้นั้น ครูสามารถเปลี่ยนเนื้อหาที่อ่านอยู่เดิมให้เป็น
เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจุบัน เช่น จัดให้นักเรียนอ่านและเขียนสรุป เรื่อง ผลกระทบของการตัดไม้
ทำ�ลายป่า หรือภาวะโลกร้อน เป็นต้น จากสภาพการสอนดังกล่าว ความจำ�เป็นที่จะต้องช่วยครูให้สามารถวาง
แนวการสอนลักษณะนี้ได้ก็เป็นสิ่งสำ�คัญอีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรมีคำ�อธิบายและแนวการสอน
ว่าครูจะสามารถเชื่อมโยงสาขาวิชาต่างๆ เข้ากับเนื้อหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร

            สำ�หรับกรณีการเพิ่มเนื้อหาให้นักเรียนเรียนเพิ่มขึ้นจากเดิมนั้นอาจจะทำ�ได้ยาก เนื่องจากจะ
เป็นภาระในการเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้น

            2) 	การทำ�กิจกรรมร่วมกัน (coordination of disciplinary activities) วิธีการนี้จะไม่สร้าง
โปรแกรมแยกต่างหากจากแต่ละสาขาวิชาเดิมที่มีอยู่ แต่จะเป็นการช่วยให้ครูในสาขาวิชาต่างๆ ทำ�กิจกรรม
รว่ มกนั เพื่อเป้าเดียวกันได้ดีขึน้ เนื่องจากเป็นการยากทีค่ รจู ะทำ�งานสำ�เรจ็ โดยลำ�พงั เพราะปญั หาสิ่งแวดลอ้ ม
เป็นปัญหาที่สลับซับซ้อนเกินกว่าที่จะใช้การสอนอย่างง่ายๆ ตามที่เคยทำ�มา ดังนั้น ควรออกแบบโปรแกรม
ให้ครูทุกคนเข้าใจง่าย เพื่อได้รับความร่วมมือจากผู้รับผิดชอบในสาขาวิชาต่างๆ และครูควรหาโอกาส
ทำ�งานร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชาที่มีในท้องถิ่น เช่น สถาปนิก นักเศรษฐศาสตร์ นักวางแผน
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45