Page 16 - สารัตถะและวิทยวิธีทางภาษาอังกฤษ
P. 16
7-6 สารัตถะและวิทยวิธีทางภาษาอังกฤษ
เรอ่ื งท ่ี 7.1.1 ความหมายแ ละองคป์ ระกอบของหลักสูตร
ความห มายของห ลักสตู ร
คำ�ว่า “หลักสูตร” แปลม าจากค ำ�ภาษาอังกฤษว่า “Curriculum” ซึ่งม ีรากศ ัพท์มาจ ากภ าษา
ลาติน หมายถึง การจัดลำ�ดับรายวิชาห รือประสบการณ์ก ารเรียนร ู้ให้ผู้เรียน (Running Sequence
of Courses or Learning Experiences) ต่อม าได้มีนักวิชาการหรือน ักการศ ึกษาหลายคนให้ความ
หมายข อง “หลักสูตร” ตามแ นวคิดข องต น ดังนี้ ฟีนิกซ์ (Phenix, 1962: 64) มีค วามเห็นว่า หลักสูตร
ควรเน้นเนื้อหาของโปรแกรมการจัดการเรียนการสอน ดังนั้นหลักสูตรจึงควรประกอบด้วยความรู้
ของรายวิชาอย่างครบถ้วน ซึ่งแนวคิดนี้แตกต่างจากของทาบา (Taba, 1962: 11) ที่ให้ความสำ�คัญ
กับการถ่ายทอดเนื้อหามากกว่าเนื้อหา ทาบาอธิบายว่า “หลักสูตร” หมายถึง แผนการเรียนรู้ (Plan
for Learning) แนวคิดของทาบาได้รับการส นับสนุนจากโอลิว า (Oliva, 1982: 10) ที่ให้ความห มายว ่า
“หลักสูตร” คือ แผนงานหรือโปรแกรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งหมดให้แก่ผู้เรียนภายใต้
การบริหารและดำ�เนินงานของสถานศึกษา บรูเบเคอร์ (Brubaker, 1982: 2) ได้ให้ความหมายของ
หลักสูตรที่กว้างกว่าโอลิวา กล่าวคือ หลักสูตร หมายถึง ประสบการณ์ที่ผู้เรียนได้รับจากการเรียนรู้
ทั้งภ ายในและภ ายนอกสถานศึกษา
การให้ความหมายของคำ�ว่า “หลักสูตร” ที่แตกต่างกันนั้นขึ้นอยู่กับแนวคิดที่นักการศึกษา
มีต่ออุดมการณ์ของการจัดหลักสูตร (Curriculum Ideologies) หรือป รัชญาของการจัดหลักสูตร
(Curriculum Philosophies) ในแ ต่ละยุคส มัย นักการศ ึกษาที่มีความเชื่อในอุดมการณ์ท ี่เน้นค วาม
เชี่ยวชาญทางวิชาการเป็นสำ�คัญ (The Scholar Academic Ideology) และมีจ ุดมุ่งหมายเพื่อช ่วย
พฒั นาผ ูเ้รียนใหม้ คี วามร ูอ้ ย่างถ ่องแทใ้นส าขาว ชิ าน ั้นๆ กจ็ ะใหค้ วามห มายข อง “หลกั สูตร” คอื รายวิชา
หรือเนื้อหาวิชาที่เรียน ส่วนพวกที่สนับสนุนในอุดมการณ์ของการจัดหลักสูตรที่ยึดประสิทธิภาพ
ข องส ังคมเป็นหลัก (The Social Efficiency Ideology) และม ีจ ุดม ุ่งห มายของการจ ัดการศ ึกษาเพื่อ
ตอบส นองค วามต ้องการข องส ังคม กจ็ ะใหค้ วามห มาย “หลักสูตร” คือ วัตถุประสงคท์ ี่ผ ู้เรียนพ ึงบ รรลุ
(ผู้เรียนสามารถเปลี่ยนแปลงพ ฤติกรรมเพื่อตอบสนองค วามต ้องการข องส ังคม) หรือการจ ัดกิจกรรม
การเรียนการสอน (เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีทักษะและกระบวนการที่จำ�เป็นต่อการทำ�งานในสังคมได้
อย่างมีป ระสิทธิภาพ) (Schiro, 2008: 4-5)
ในป จั จบุ นั เปน็ การจ ดั การเรยี นก ารส อนท เี่ นน้ ผ เู้ รยี นเปน็ ส �ำ คญั ดงั น ัน้ แ นวคดิ ข องห ลกั สตู รจ งึ
ควรต ั้งอ ยูบ่ นห ลักก ารห รืออ ุดมการณท์ ีย่ ึดผ ูเ้รียนเป็นศ ูนย์กลาง (The Learner Centered Ideology)
ซึ่งน อกจากจ ะเน้นเนื้อหาร ายวิชาแ ละค วามต ้องการข องส ังคมแ ล้ว ยังให้ค วามส ำ�คัญก ับค วามต ้องการ