Page 24 - สารัตถะและวิทยวิธีทางภาษาอังกฤษ
P. 24
7-14 สารัตถะและวิทยวิธีทางภาษาอังกฤษ
ตอนที่ 7.2
ทฤษฎีก ารเรียนรู้ (Learning Theories)
โปรดอ ่านแ ผนการส อนป ระจำ�ตอนท ี่ 7.2 แล้วจ ึงศ ึกษาเนื้อหาส าระ พร้อมป ฏิบัตกิ ิจกรรมในแ ต่ละเรื่อง
หัวเรื่อง
เรื่องท ี่ 7.2.1 ทฤษฎีก ารเรียนร ู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม (Behaviorism)
เรื่องท ี่ 7.2.2 ทฤษฎีก ารเรียนรู้กลุ่มป ัญญานิยม (Cognitivism)
เรื่องท ี่ 7.2.3 ทฤษฎีก ารสร้างความร ู้ด ้วยตนเอง (Constructivism)
แนวคดิ
1. ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมเน้นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นโดยอาศัยความ
สัมพันธ์ร ะหว่างส ิ่งเร้า (Stimulus) และ การต อบส นอง (Response) โดยอินทรีย์
จะต ้องส ร้างค วามส ัมพันธร์ ะหว่างส ิ่งเร้า และก ารต อบส นองอ ันน ำ�ไปส ูค่ วามส ามารถ
ในการแสดงพฤติกรรมหรือการเรียนรู้นั่นเอง ทฤษฎีการเรียนรู้ที่สำ�คัญของกลุ่ม
พฤติกรรมนิยมท ี่นำ�เสนอในหัวเรื่อง 7.2.1 คือ ทฤษฎีการเชื่อมโยงข อง ธอ ร์นไดค์
(Thorndike’sConnectionTheory)ทฤษฎกี ารว างเงอื่ นไขแ บบค ลาสส กิ (Classical
Conditioning Theory) โดยพาฟลอฟ (Pavlov) และทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบ
โอเปอร์แรนต์ (Operant Conditioning Theory) โดยส กินเนอร์ (Skinner)
2. ทฤษฎีก ารเรียนรู้กลุ่มปัญญาน ิยม (Cognitivism) ให้ความส ำ�คัญกับก ระบวนการ
ทางปัญญาหรือกระบวนการคิด นักทฤษฎีกลุ่มนี้มีความเชื่อที่แตกต่างจากกลุ่ม
พฤติกรรมน ิยม (Behaviorism) คือ เชื่อว ่าการเรียนร ู้ของม นุษย์ไม่ใช่เรื่องของก าร
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกิดจากกระบวนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าเท่านั้น แต่เกิด
จากก ารเปลี่ยนแปลงในก ระบวนการคิดท ี่ม ีค วามซับซ ้อนม ากกว่า
3. ทฤษฎีการสร้างความรู้ด ้วยตนเอง (Constructivism) ประกอบด้วย 2 แนวคิด คือ
Cognitive Constructivism ซึง่ ม พี ืน้ ฐ านแ นวคดิ ม าจ ากท ฤษฎพี ฒั นาการท างเชาวน์
ปัญญาของเพียเจท์ ที่เน้นก ระบวนการสร้างความรู้โดยใช้ป ระสบการณ์หรือความรู้
เดิมท ี่มีอยู่ และ Social Constructivism ซึ่งได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่มาจากผลงาน
ของว ีก ็อทส กี้ (Vygotsky’s 1978 Work) ที่เน้นกระบวนการสร้างค วามรู้โดยก ารมี
ปฏิสัมพันธ์ในบริบทข องส ังคมและวัฒนธรรม