Page 51 - สารัตถะและวิทยวิธีทางภาษาอังกฤษ
P. 51

การ​พัฒนาห​ ลักสูตรภ​ าษา​อังกฤษ 7-41

เร่ืองท​ ่ี 7.3.4 	สมมตฐิ านว​ า่ ด​ ว้ ยป​ จั จยั น​ �ำ เ​ขา้ (TheInputHypothesis)

      “The Input Hypothesis” หรือ​สมมติฐาน​ว่า​ด้วยข​ ้อมูลห​ รือป​ ัจจัยน​ ำ�​เข้า เป็นส​ มมติฐาน​ที​่
กล่าว​ว่า การ​รู้/ซึมซับภ​ าษาท​ ี่​สอง (Language Acquisition) จะเ​กิดข​ ึ้นไ​ด้ก​ ็ต​ ่อเ​มื่อ​ผู้​เรียน​ภาษาเ​ข้าใจ​
ใน​สิ่ง​ที่ต​ นเอง​ได้ยิน​หรือจ​ าก​การอ​ ่าน ซึ่ง Krashen (1988) เรียก​ว่า Comprehensible Input

      ใน​การ​เรียน​รู้​ภาษา​ที่​สอง​ความ​เข้าใจ​อัน​เกิด​จาก​การ​ฟัง​และ​การ​อ่าน​เป็น​พื้น​ฐาน​สำ�คัญ​ที่​จะ​
นำ�​ผู้​เรียนไ​ป​สู่​การพ​ ัฒนาท​ ักษะ​การพ​ ูดแ​ ละก​ ารเ​ขียนต​ ่อไ​ป ประเด็นส​ ำ�คัญค​ ือโ​ครงสร้างข​ องภ​ าษาท​ ี่​ใช​้
ใน​ข้อความ​หรือ​ข้อมูล​ที่​จะ​ส่ง​ให้แ​ ก่​ผู้เ​รียนจ​ ะ​ต้องไ​ม่ง​ ่ายห​ รือย​ าก​เกิน​ไป อาจจ​ ะ​มี​การใ​ช้​โครงสร้าง​ทาง​
ไวยากรณ์​ที่​ผู้​เรียน​ยัง​ไม่รู้​ปรากฏ​ใน​ข้อความ​นั้น แต่​ถ้า​ผู้​เรียน​มี​ความ​เข้าใจ​ใน​สิ่ง​ที่​ได้ยิน​หรือ​ได้​อ่าน
ผู้เ​รียน​ก็​จะส​ ามารถร​ ับร​ ู้ถ​ ึง​กฎ​เกณฑ์ท​ าง​ภาษาท​ ี่เ​พิ่มเ​ติมม​ า โดยพ​ ัฒนาจ​ ากค​ วาม​รู้เ​ดิมท​ ี่​มี​อยู่

      Krashenใชส​้ ญั ลกั ษณ์iแสดงถ​ งึ ร​ ะดบั ข​ องค​ วามร​ ท​ู้ างภ​ าษาท​ ผ​ี่ เ​ู้ รยี นม​ อ​ี ยู่(LevelofAcquirer’s
Competence) ดังน​ ั้นเ​พื่อช​ ่วยใ​ห้ผ​ ู้เ​รียนพ​ ัฒนาค​ วามส​ ามารถใ​นก​ ารใ​ช้ภ​ าษาใ​ห้ม​ ากข​ ึ้นก​ ว่าเ​ดิม Input
ที่​ป้อนใ​ห้​ควร​จะอ​ ยู่​ใน​ระดับข​ อง i + 1 และก​ ลายเ​ป็น i + 2 หรือ i + 3 ต่อไ​ป​ตามล​ ำ�ดับ โดยต​ ัวเลขท​ ี่​
ตาม​หลัง​สัญลักษณ์ i แสดง​ถึง​ระดับค​ วาม​รู้ท​ างภ​ าษาข​ องผ​ ู้เ​รียนท​ ี่เ​พิ่มข​ ึ้นจ​ าก​เดิม และ​การเ​พิ่มร​ ะดับ​
ความร​ ู้ไ​ม่จ​ ำ�เป็นท​ ี่จ​ ะต​ ้องเ​พิ่มท​ ีล​ ะโ​ครงสร้าง เพราะใ​นก​ ารส​ ื่อสารจ​ ริง ผู้ส​ ื่อสารจ​ ำ�เป็นต​ ้องใ​ช้โ​ครงสร้าง​
ทางภ​ าษาท​ มี​่ ค​ี วามห​ ลากห​ ลายอ​ ยแู​่ ลว้ ค�ำ ถามท​ เี​่ กดิ ข​ ึน้ ต​ ามม​ าก​ ค​็ อื ในก​ รณด​ี งั ก​ ลา่ ว ผเู​้ รยี นส​ ามารถเ​ขา้ ใจ
ใ​น Input ที่ม​ ีก​ ารใ​ช้โ​ครงสร้างท​ างภ​ าษาท​ ี่ไ​ม่เ​คยร​ ู้ไ​ด้อ​ ย่างไร Krashen (1988) อธิบายว​ ่าค​ วามเ​ข้าใจใ​น
Input ทีไ่​ดร้​ ับเ​กิดจ​ ากบ​ ริบท (Context) และ Extra-Linguistic Information (การใ​ชท้​ ่วงทำ�นองเ​สียง
การเ​น้นค​ ำ� การอ​ ธิบายค​ วามห​ มายเ​พิ่มเ​ติม การใ​ช้ร​ ูปภาพ และภ​ าษาท​ ่าทาง เป็นต้น) ดังน​ ั้นบ​ ทบาทข​ อง
Caretaker อันไ​ด้แก่ ครูผ​ ู้​สอน​ภาษา ผู้ป​ กครอง เพื่อนห​ รือค​ ู่​สนทนา ที่ใ​ช้ภ​ าษา​ที่ส​ องใ​น​การส​ ื่อสารก​ ับ​
ผู้​เรียน​จึงม​ ี​ความ​สำ�คัญเ​ป็น​อย่างย​ ิ่งท​ ี่​จะ​ช่วยพ​ ัฒนาค​ วามส​ ามารถ​ใน​การใ​ช้​ภาษาข​ อง​ผู้เ​รียน​ต่อ​ไป

      Krashen เรียกร​ ูปแ​ บบข​ องภ​ าษาท​ ี่ Caretaker หรือค​ รผู​ ูส้​ อนภ​ าษาใ​ชว้​ ่า “Foreign Talk” หรือ
“Teacher Talk” อันเ​ป็น​รูปแ​ บบ​ของ​ภาษา​ที่เ​จ้าของภ​ าษา (Native Speaker) ใช้ก​ ับ​คู่​สนทนาท​ ี่​ไม่ไ​ด​้
ใช้ภ​ าษา​อังกฤษเ​ป็น​ภาษา​แม่ ดังน​ ั้นเ​พื่อ​ให้​คู่​สนทนาเ​ข้าใจใ​น​สิ่ง​ที่ก​ ำ�ลัง​สื่อสารม​ าก​ขึ้น เจ้าของ​ภาษา​จึง​
มี​การป​ รับ​รูปแ​ บบภ​ าษา (Modifications) เพื่อใ​ห้​ง่ายต​ ่อก​ าร​เข้าใจ กระบวนการด​ ัง​กล่าวป​ ระกอบด​ ้วย
การพ​ ูดใ​ห้ช​ ้าล​ ง (Slowing Down) การพ​ ูด​ซํ้า (Repeating) การ​กล่าวซ​ ํ้า (Restating) เมื่อ​ผู้​เรียน​ไม​่
เข้าใจ แต่​มี​การ​ปรับ​โครงสร้าง​ประโยค​หรือ​เปลี่ยน​คำ�​ให้​เข้าใจ​ง่าย​ขึ้น เช่น​เปลี่ยน​จาก​คำ�ถาม​ที่​ขึ้น​ต้น​
ด้วย Wh- Words ให้เ​ป็น Yes-No Questions หรือ​ถ้าค​ ำ�​ศัพท์ท​ ี่ต​ ้องใ​ช้ใ​น​ข้อความ​มีค​ วาม​ยากเ​กิน​
ระดับข​ องผ​ ู้เ​รียน ก็เ​ปลี่ยนไ​ปใ​ช้ค​ ำ�​ที่ม​ ี​ความห​ มายเ​หมือนก​ ัน เพื่อช​ ่วยใ​ห้ผ​ ู้เ​รียนเ​ข้าใจข​ ้อความไ​ด้ด​ ี​ขึ้น
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56