Page 16 - การพัฒนาทักษะและประสบการณ์วิชาชีพ สำหรับผู้นำทางการศึกษา
P. 16
4-6 การพัฒนาทักษะและประสบการณ์วิชาชีพสำ�หรับผู้นำ�ทางการศึกษา
นอกจากน ี้ยังม ีน ักว ิชาการ ได้ให้ค วามหมายของมนุษยสัมพันธ์ไว้อ ีก พอสรุปได้ดังนี้
ธรรมร ส โชติก ุญชร (2524: 6) ให้ค วามห มายข องม นุษยสัมพันธ์โดยท ั่วไปว ่า เป็นว ิชาว ่าด ้วยศ าสตร์
และศิลปะในก ารเสริมสร้างค วามสัมพันธ์อ ันดีก ับบุคคล เพื่อให้ได้มาซ ึ่งค วามรักใคร่นับถือ ความจ งรักภ ักดี
และความร่วมม ือ
เดวิด คีท (David Keith, 1977) ให้ความห มายว ่า มนุษยสัมพันธ์ หมายถ ึง กระบวนการจ ูงใจของ
บคุ คลใหม้ คี วามพ อใจต อ่ ก นั มนษุ ยส์ มั พนั ธ์ จงึ เปน็ ท ัง้ ศ าสตรแ์ ละศ ลิ ปะเพือ่ ใชใ้ นก ารเสรมิ ส รา้ งค วามส มั พนั ธ์
อันด ีก ับบ ุคคล การยอมรับนับถือ การให้ค วามร่วมมือ และการให้ค วามจงรักภ ักดีในก ารต ิดต่อส ัมพันธ์กัน
ระหว่างบุคคลต่อบุคคลตลอดจนองค์กรต ่ออ งค์กร
แลมเบอร์ต ัน และไมเนอร์ (Lamberton and Minor, 2010) ให้ค วามห มายว ่า มนุษยสัมพันธ์เป็น
ทักษะหรือค วามส ามารถในการทำ�งานที่สัมฤทธิ์ผ ลร่วมกับบ ุคคลอื่น โดยได้ขยายความว ่าในชีวิตข องคนเรา
จะต้องติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นทั้งในการดำ�เนินชีวิตและการทำ�งาน ความสัมพันธ์กับคนอื่นดังกล่าวนี้ คือ
สิ่งที่ชี้ขาดว่าเราจะประสบผลส ำ�เร็จหรือล ้มเหลวในช ีวิตและก ารท ำ�งาน
อำ�นวย แสงส ว่าง ( 2544: 99) กล่าวว่า มนุษยสัมพันธ์ หมายถ ึง การแ สวงหาว ิธีก ารท ำ�ความเข้าใจ
โดยก ารใชร้ ูปแ บบก ารต ิดต่อส ัมพันธก์ ันร ะหว่างบ ุคคลอ ันเป็นผ ลก ่อใหเ้กิดค วามเชื่อมโยงเพื่อใหไ้ดผ้ ลส ำ�เร็จ
ตามเป้าห มายข ององค์การต ามที่ได้กำ�หนดไว้
สรุปได้ว่า มนุษยสัมพันธ์ หมายถึง กระบวนการจูงใจของบุคคลที่ใช้ศิลปะสร้างความพึงพอใจ
รักใคร่ ความเชื่อถ ือศ รัทธา โดยแ สดงพ ฤติกรรมอ ย่างเหมาะส มเพื่อโน้มน ้าวจ ูงใจให้เกิดค วามร ่วมม ือร ่วมใจ
ในอันที่จะบรรลุผลสำ�เร็จท ี่พ ึงป ระสงค์
แนวคิดพ ้นื ฐานของม นุษยสมั พนั ธ์
เรียม ศรีท อง (2542: 216-218) ได้กล่าวถึงแ นวคิดพื้นฐานของม นุษยสัมพันธ์ไว้ด ังนี้
1. มนุษย์ทุกคนมีคุณค่าแห่งความเป็นคนเท่าเทียมกัน ไม่เลือกเพศ วัย วรรณะ การศึกษา ฐานะ
เศรษฐกิจ และฐานะทางสังคม มนุษย์ทุกคนรักชีวิต มนุษย์ต้องการติดต่อเกี่ยวข้องกันฉันท์มิตร มีความ
ปรารถนาดีและต้องการการปฏิบัติจากผู้อื่นอย่างมีเกียรติ ต้องการเป็นคนที่มีคุณค่าและมีความสำ�คัญ
การใช้อ ำ�นาจห รือพลังจ ากภ ายนอกมาข่มขู่บังคับบ ุคคลมิใช่พฤติกรรมท ี่ให้การยอมรับและให้เกียรติก ัน
2. มนษุ ยเ์ กย่ี วขอ้ งก บั ค วามต อ้ งการไ มส่ นิ้ ส ดุ เมือ่ ม นษุ ยไ์ ดร้ บั ก ารต อบส นองในร ะดบั ห นึง่ ก ย็ อ่ มก อ่
ใหเ้กิดค วามส ัมพันธอ์ ันด ตี ่อก ันในร ะดับห นึ่งเช่นก ัน ในร ะหว่างค วามต ้องการท างด ้านว ัตถกุ ับจ ิตใจ แม้ว่าบ าง
ครั้งม ีค วามส มบูรณ์ท างด้านวัตถุ แต่ก ็มิได้เป็นเครื่องบ่งช ี้ว่า ความต ้องการทางด ้านจ ิตใจจะส มบูรณ์ไปด้วย
ฉะนั้น ถ้าส ามารถรักษาด ุลของค วามสมบูรณ์ด ้านวัตถุก ับจ ิตใจได้ย่อมส่งผลถึงการอ ยู่ได้อย่างปกติสุข
3. มนษุ ยเ์ ปน็ เพอ่ื นร ว่ มท กุ ขท์ ตี่ อ้ งม ชี วี ติ เรยี บง า่ ยในส งั สารวฏั ในเวลาย าวนาน ฉะนัน้ ก ารแ สดงออก
ซึ่งค วามเมตตาต่อก ัน โดยไม่จ ำ�กัดพรมแดน จะนำ�มาซึ่งการอ ยู่ร่วมก ันอย่างไม่เบียดเบียนกัน เป็นท างน ำ�ไป
สู่ส ันติสุขร ่วมก ัน ความสงบส ุขข องส ังคมขึ้นอ ยู่ก ับค วามส ามารถของม นุษย์ในก ารแสดงค วามเมตตาต ่อกัน