Page 17 - การพัฒนาทักษะและประสบการณ์วิชาชีพ สำหรับผู้นำทางการศึกษา
P. 17
มนุษยสัมพันธ์แ ละก ารพ ัฒนาทีมง าน 4-7
ดังนั้น การที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่นได้นั้น เราควรจะได้เรียนรู้ถึงธรรมชาติความ
ต้องการข องค นโดยท ั่วไปเสียก ่อน ถ้าห ากเราต ้องการจ ะท ำ�ให้เขาเกิดค วามพ ึงพ อใจก ็ค วรจ ะท ำ�ในส ิ่งท ี่บ ุคคล
อื่นต้องการ การที่จะให้หรือทำ�อะไรแก่คนอื่นโดยที่เขาไม่ต้องการ ก็อาจจะไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี
ขึ้นได้ เพราะมนุษยสัมพันธ์มีหลักการใหญ่อยู่ที่การครองใจคน การทำ�ให้คนเป็นมิตร การเข้าถึงจิตใจและ
การแ สดงเมตตาต่อกัน
พรรณทิพย์ ศิริว รรณบ ุศย์ (2550) กล่าวว่า การจ ะสร้างม นุษยสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นในองค์การ จะต้อง
คำ�นึงถึงองค์ป ระกอบของมนุษยสัมพันธ์ 3 ประการด้วยก ัน ได้แก่ การร ู้จักตน การเข้าใจเพื่อนร่วมง าน และ
สิ่งแวดล้อมในก ารท ำ�งานที่ดี กล่าวค ือ
1. ในเรอ่ื งข องก ารร จู้ กั ต นน น้ั บคุ คลค วรต อ้ งว เิ คราะหต์ น เพือ่ ใหร้ ูจ้ กั ต วั เองอ ยา่ งแ ทจ้ รงิ ท ัง้ ล กั ษณะ
ที่ดีแ ละไม่ดี แล้วปรับปรุงตน ในส ่วนที่เป็นลักษณะท ี่ไม่ดีซึ่งอ าจสร้างป ัญหาแ ละอุปสรรคในการท ำ�งาน และ
การส ร้างสัมพันธ์กับผู้อ ื่น
2. การเข้าใจเพื่อนร่วมงาน เป็นการวิเคราะห์เพื่อนร่วมงาน และทำ�ความเข้าใจเพื่อนร่วมงาน
อันเป็นการช่วยให้เกิดก ารยอมรับความแตกต่างร ะหว่างบ ุคคล และพ ัฒนาต นให้เข้าก ับเพื่อนร่วมงานได้ดี
3. ในเร่ืองของส่ิงแวดล้อมในการทำ�งานท่ีดี จะเป็นตัวกระตุ้นให้บุคคลวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมในที่
ทำ�งานแล้วป รับปรุงให้ดีข ึ้น รวมท ั้งเป็นแนวทางพัฒนาต นให้เข้ากับที่ท ำ�งานให้ได้ด้วย
ซึ่งอ งค์ประกอบดังก ล่าวน ี้ จะส่งผลต่อมนุษยสัมพันธ์ในอ งค์การ เมื่อบุคคลในอ งค์การมีค วามสุข
เพื่อนร่วมง านสุข และส ิ่งแวดล้อมในท ี่ท ำ�งานดี ย่อมจ ะท ำ�ให้อ งค์การมีประสิทธิภาพ
ในก ารศ ึกษาเกี่ยวก ับม นุษยสัมพันธ์ โดยเฉพาะม นุษยสัมพันธใ์นอ งค์การข องไทย จึงเป็นเรื่องท ีค่ วร
จะศ ึกษาเกี่ยวข้องก ับแ นวคิดในเรื่องธ รรมชาติข องม นุษย์ แนวคิดในเรื่องข องส ังคมไทย และแ นวคิดในเรื่อง
ของอ งค์การ (ฐานิก า บุษม งคล 2553) ดังนี้
1. แนวคิดในเร่อื งธ รรมชาตขิ องม นุษย์ โดยศึกษาในประเด็นเกี่ยวก ับเรื่อง ความแตกต ่างร ะหว่าง
บุคคล พฤติกรรมกับแรงจูงใจข องมนุษย์ คุณค่าแ ละศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ กล่าวค ือ
1.1 ความส มั พนั ธข์ องม นษุ ยใ์ นส งั คมย อ่ มม รี ปู แ บบ แนวทางท แ่ี ตกต า่ งก นั อ อกไป ทั้งนีเ้พราะ
มนุษย์ม ีความแ ตกต ่างระหว่างบ ุคคล (individual differences) อยู่โดยธ รรมชาติ
1.2 พฤตกิ รรมม นุษยเ์ป็นส่งิ ก่อให้เกดิ ขนึ้ ไดแ้ ละจงู ใจได้ โดยทางจิตวิทยาเชื่อว ่า พฤติกรรม
เกิดจ ากค วามต ้องการ ซึ่งถือว่าค วามต ้องการเป็นแ รงข ับห รือแ รงจ ูงใจภ ายในท ีท่ ำ�ใหเ้กิดพ ฤติกรรม นอกจาก
พฤติกรรมจ ะเกิดจ ากแ รงจ ูงใจภ ายในแ ล้วเราย ังส ามารถท ำ�ใหม้ นุษยแ์ สดงพ ฤติกรรมโดยใชส้ ิ่งจ ูงใจภ ายนอก
ได้อ ีกด้วย
นอกจากน ี้ ธรรมชาตขิ องม นษุ ยย์ งั ม คี วามซ บั ซ อ้ นแ ละม คี วามผ นั แปรเปน็ อ ยา่ งม าก (complex)
มนุษย์จึงม ักม ีพฤติกรรมที่ผันแปรอ ยู่เสมอตามความต ้องการหรือแ รงจูงใจที่มีอ ยู่
1.3 มนุษยท์ กุ ค นม ศี กั ด์ศิ รีข องความเปน็ คน มนุษย์ทุกคนจึงม ีคุณค่า มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมก ัน
ฉะนั้นการปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ในสังคม ต่อเพื่อนร่วมงานในองค์การ จึงควรเป็นไปในลักษณะของการ
ยกย่องให้เกียรติ สุภาพ อ่อนน้อม ไม่ว างอ ำ�นาจ หรือขู่บังคับ