Page 43 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิชาอาชีพ
P. 43
แนวคิดเก่ียวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิชาอาชีพ 1-33
2) จิตวิทยาวัยรุ่น (Adolescence Psychology) ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมและจิตใจของเด็กต้ังแต่
เข้าสู่วัยรุ่นอายุ 13 ปีจนถึง อายุ 20 ปี
3) จิตวิทยาการศึกษา (Educational Psychology) ศึกษาพฤติกรรมที่เกี่ยวเน่ืองต่อการเรียน
การสอน และการอบรม เป็นจิตวิทยาท่ีมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอน
4) จิตวิทยาพัฒนาการ (Development Psychology) ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษย์ ต้ังแต่
ปฏิสนธิ จนกระทั่งเข้าสู่วัยชรา
5) จิตวิทยาการเรียนรู้ (Psychology of Learning) ศึกษาเร่ืองการเรียนรู้ของคนและสัตว์ โดย
พยายามแยกแยะหลักของการเรียนรู้ให้ชัดเจน รวมท้ังการจูงใจ การจ�ำ และการถ่ายทอดการเรียนรู้
6) จติ วทิ ยาการใหค้ ำ� ปรกึ ษา (Counseling Psychology) ศึกษาเก่ียวกับการให้ค�ำปรึกษาเพ่ือให้ผู้รับ
ค�ำปรึกษาสามารถด�ำเนินชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม มีพัฒนาการสมวัย
การศกึ ษาพฤตกิ รรมมนษุ ย์ เปน็ เรอื่ งทลี่ กึ ซง้ึ และกวา้ งขวางมาก การศกึ ษาโดยอาศยั วชิ าทางจติ วทิ ยา
จึงควรศึกษาจิตวิทยาในหลาย ๆ ลักษณะ หลายกลุ่ม หลายสาขา เพราะไม่มีกลุ่มทางจิตวิทยา หรือสาขา
จิตวิทยาใด สาขาหนึ่งอธิบายปรากฏการณ์และพฤติกรรมของมนุษย์ได้อย่างครอบคลุม เราจึงต้องอาศัย
แนวความคิด ความรู้และประสบการณ์จากทุกกลุ่มและทุกสาขาวิชาของจิตวิทยา
3. ทฤษฎีทางจิตวทิ ยาทเี่ หมาะกับการจดั ประสบการณ์เรยี นรู้วิชาอาชพี
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิชาอาชีพมีจุดมุ่งหมายหลักคือการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความ
เข้าใจ มีทักษะพ้ืนฐานท่ีจ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการด�ำเนินการจัด
ประสบการณ์การเรียนรู้ของครูผู้สอนต้องใช้รูปแบบและวิธีการจัดประสบการร์การเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ใน
แตล่ ะรปู แบบแตล่ ะวธิ กี ารจดั การเรยี นรจู้ ำ� ตอ้ งอา้ งองิ อาศยั หลกั การ แนวคดิ และองคค์ วามรทู้ างดา้ นจติ วทิ ยา
ที่หลากหลาย ผู้เขียนจึงขอน�ำเสนอความรู้ทางด้านจิตวิทยาท่ีส�ำคัญและเหมาะสมที่ครูผู้สอนวิชาอาชีพจะได้
น�ำไปใช้ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ต่อไป องค์ความรู้ทางด้านจิตวิทยาที่จะน�ำเสนอในท่ีนี้ประกอบด้วย
องค์ความรู้ทางด้านจิตวิทยาเด็ก จิตวิทยาวัยรุ่น จิตวิทยาการศึกษา จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาการเรียนรู้
และจิตวิทยาการให้ค�ำปรึกษา ดังรายละเอียดโดยสังเขปต่อไปน้ี
3.1 จติ วทิ ยาเดก็ เป็นจิตวิทยาที่ว่าด้วยการศึกษาพฤติกรรมและจิตใจของเด็กต้ังแต่เริ่มปฏิสนธิจน
กระท่ังบรรลนุ ิตภิ าวะ มีความส�ำคัญโดยเฉพาะกับครเู พราะจะทำ� ใหค้ รูมีความรู้ในสิ่งตอ่ ไปน้ี (สชุ า จนั ทน์เอม,
2538, น. 2-3)
1) ช่วยให้ครูรู้จักธรรมชาติและความต้องการของเด็ก รักเด็ก เต็มใจที่จะด�ำเนินชีวิตหรือ
ท�ำงานร่วมกับเด็ก ตลอดจนเข้าใจพฤติกรรมต่าง ๆ ท่ีเด็กแสดงออก เช่น การชอบหยิบส่ิงของผู้อ่ืน พูดจา
ไมส่ ภุ าพ ชว่ ยเหลอื ตนเองในการขบั ถา่ ยไมไ่ ด้ มพี ฤตกิ รรมกา้ วรา้ ว ไมร่ บั ประทานผกั สาเหตขุ องปญั หาเหลา่ น้ี
อาจเนื่องมาจากตัวเด็กเองหรือจากสิ่งแวดล้อมทางบ้านและทางโรงเรียนก็ได้ จึงกล่าวได้ว่า การศึกษาเร่ือง
เด็กจะช่วยให้ครูเข้าใจถึงท่ีมาหรือต้นเหตุของปัญหา และช่วยแก้ปัญหาให้เด็กได้