Page 20 - หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู
P. 20
10-10 หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู
3. การเนน้ เสยี งในคำ�
การออกเสียงค�ำในภาษาอังกฤษที่มีพยางค์มากกว่าหน่ึงพยางค์ มีการเน้นเสียงในค�ำ (word stress)
คือออกเสียงหนักที่พยางค์บางพยางค์ซ่ึงแต่ละพยางค์จะเน้นเสียงหนักเบาไม่เท่ากัน ในการพูดภาษาอังกฤษ
หากผู้พูดออกเสียงค�ำโดยเน้นเสียงไม่ถูกต้อง ผู้ฟังอาจไม่เข้าใจ หรือท�ำให้ความหมายเปล่ียนไปได้ ผู้ที่ใช้
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่จะไม่มีปัญหาในการเน้นเสียง เพราะได้เรียนรู้การออกเสียงหนักเบาของพยางค์ใน
แต่ละค�ำโดยธรรมชาติเมื่อเร่ิมเรียนรู้ภาษา แต่ผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษในฐานะเป็นภาษาต่างประเทศมักจะมี
ปัญหาในการเน้นเสียง โดยเฉพาะคนไทยซ่ึงมักเรียนรู้ค�ำโดยเน้นการเขียนมากกว่าการฟังเสียงท่ีถูกต้อง
การออกเสียงหนักเบาในค�ำภาษาอังกฤษท่ีมีหลายพยางค์มีหลายระดับ เช่น ค�ำที่มี 6 พยางค์ อาจ
แบ่งระดับของการออกเสียงหนักเบาได้ถึง 6 ระดับ โดยทั่วไปมักจะแบ่งระดับการเน้นเสียงเป็น 3 ระดับดังนี้
(ฑะณัน จันทรุพันธุ์, 2540: 171)
1) Primary Stress (เสียงเน้นหนัก) ใช้เครื่องหมาย ใส่ด้านบนหน้าพยางค์ เช่น happy, stable
เป็นต้น
2) Secondary Stress (เสียงเน้นรอง) ใช้เคร่ืองหมาย ใส่ด้านล่างหน้าพยางค์ เช่น
consideration, satisfactory, entertain เป็นต้น
3) Weak Stress (เสียงไม่เน้น) ไม่ใส่เครื่องหมาย
ส�ำหรบั สญั ลกั ษณท์ แ่ี สดงการเนน้ เสยี งตามตวั อยา่ งข้างบน ใชต้ ามแนวทางของ Oxford Advanced
Learner’s Dictionary พจนานุกรมบางเล่มอาจใช้แตกต่างจากนี้ เช่น ใช้เครื่องหมาย ´ แทน หนักมาก
` แทนค่อนข้างหนัก ใส่ไว้บนสระของพยางค์ท่ีเน้นเสียงและไม่ใส่เครื่องหมายส�ำหรับพยางค์ที่ไม่เน้นเสียง
ดังนั้น จึงจ�ำเป็นต้องศึกษาว่า พจนานุกรมแต่ละฉบับเลือกใช้สัญลักษณ์ระบบใด เพ่ือให้สามารถออกเสียงได้
ถูกต้อง
ดังท่ีได้กล่าวมาแล้วว่า เจ้าของภาษาเรียนรู้การเน้นเสียงในค�ำโดยวิธีธรรมชาติต้ังแต่เริ่มเรียนรู้ภาษา
จงึ ยากทจ่ี ะสรปุ กฎเกณฑท์ ชี่ ดั เจนวา่ ควรเนน้ พยางคใ์ ด ไดม้ ผี ตู้ งั้ ขอ้ สงั เกตเกย่ี วกบั การออกเสยี งเนน้ ในภาษา
อังกฤษซึ่งฑะณัน จันทรุพันธุ์, (2540: 177-181) ได้ประมวลไว้ดังนี้
1) ค�ำสองพยางค์ในภาษาอังกฤษประมาณ 3 ใน 4 จะเน้นพยางค์แรก เช่น children, language,
Monday, under, careful เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ภาษาอังกฤษมีข้อยกเว้นอยู่มาก ซึ่งท�ำให้คนไทยเน้นเสียงผิดพยางค์ เช่น ค�ำว่า
o’clock และ perhaps การออกเสียงท่ีถูกต้องจะเน้นที่พยางค์หลัง ส่วนพยางค์หน้าต้องออกเสียงเบา
และสั้น ดังน้ัน จึงควรตรวจสอบการเน้นเสียงท่ีถูกต้องจากพจนานุกรมและการออกเสียงของเจ้าของภาษา
2) ค�ำสองพยางค์ท่ีท�ำหน้าที่ได้ท้ังค�ำนามและค�ำกริยา หรือคุณศัพท์และกริยา จะมีการออกเสียง
หนักที่ต่างกัน คือ ถ้าเป็นค�ำนามหรือคุณศัพท์จะเน้นท่ีพยางค์แรก ถ้าท�ำหน้าท่ีเป็นกริยาจะเน้นพยางค์หลัง
ตัวอย่างเช่น