Page 48 - หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู
P. 48
10-38 หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู
ช่วยเลย ประโยคที่ 3 เป็นวิธีพูดว่าอยากช่วยแต่ช่วยไม่ได้ เพราะตนเองมีงานมากอยู่แล้ว
ประโยคที่ 4 เป็นการปฏิเสธโดยกล่าวว่าตนเองก�ำลังรีบร้อน ไม่เช่นน้ันก็จะไม่ลังเลท่ีจะ
การปฏิเสธท�ำนองน้ีฟังดูนุ่มนวลกว่าที่จะพูดว่าช่วยไม่ได้โดยตรง
ตัวอย่างบทสนทนา
1. Peter และ Paul เป็นเพ่ือนกัน วันหน่ึง Paul ก�ำลังจะไปที่ท�ำการไปรษณีย์ Peter จึงฝากซ้ือ
ไปรษณียบัตร
Peter: Paul, I wonder if you could get me some postcards while you are at
the post office?
Paul: Certainly. How many do you want?
Peter: Three will do. Thanks a lot.
2. Diana และ Barbara ท�ำงานท่ีเดียวกัน แต่ Diana เพ่ิงเข้าไปท�ำงานใหม่
Dianna: Barbara, could I please borrow your dictionary for a moment?
Barbara: I’m afraid I still need it right now. Would you mind coming back in
half an hour? I should be finished with it then.
Diana: Of course not. Take your time. I can wait.
ในท่ีนี้ Diana ขอยืมพจนานุกรมของ Barbara แต่ Barbara ยังต้องการใช้อยู่จึงขอให้ Diana กลับ
มาใหม่ภายในคร่ึงช่ัวโมงซ่ึงตนเอง คงจะใช้เสร็จแล้วและ Diana ก็ตอบว่า Take your time. ซ่ึงหมายความ
ว่า “ไม่ต้องรีบร้อน”
2. การชักชวนชี้แนะ (Suggestion)
การชักชวนหรือชี้แนะในท่ีน้ีใช้ในความหมายเชิงถามความเห็นผู้อ่ืนว่า ท�ำอย่างน้ันกันดีหรือไม่ เห็น
ด้วยหรือไม่ อยากท�ำอย่างน้ันหรือไม่ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า to suggest หรือ to make a suggestion
บางคร้ังผู้ท่ีไม่ใช่เจ้าของภาษาอาจไม่เข้าใจว่าเป็นการชักชวนช้ีแนะจึงไม่ทราบว่าจะตอบว่าอย่างไร หรือให้
ค�ำตอบท่ีไม่ตรงกับค�ำถาม ท�ำให้ไม่เข้าใจกัน